00 บางทีก็นึกขำในใจกับท่าทางของบรรดาหัวโจกคนเสื้อแดงหลายคนที่พยายามออกมา “ตามน้ำ” หลังจากรู้ข่าวว่า จตุพร พรหมพันธุ์ พลาดเก้าอี้รมต.อีกรอบ บางคนถึงขนาดโบ้ยไปไกลว่า “พวกอำมาตย์” สกัดขัดขาไม่ให้ “ขึ้นวอ” บ้างละ ได้ยินแบบนี้บางทีก็รู้สึกเครียดเหมือนกัน ว่าคนพวกนี้มันเป็นไปได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ ขณะที่ ธิดา ถาวรเศรษฐ ถึงขนาดอ้างคำสนทนาทางโทรศัพท์หลังทราบว่าวืดแน่นอน โดยอ้างว่าขอยกเก้าอี้ประธานคนเสื้อแดงให้นั่ง เพราะถือว่าเป็นรัฐบุรุษ แต่ จตุพร ยืนยันไม่ยอมรับ บอกว่า “พี่เป็นก็เหมาะอยู่แล้ว” เอากะเธอซี !!
00 ดูรูปการณ์มันก็เห็นชัดเจนว่า คนพวกนี้มีแต่หวังดีประสงค์ร้าย หน้าฉากเหมือนกับรักใคร่กันดี แต่ข้างหลังต่างซ่อนมีดด้วยกันทั้งนั้น ก่อนหน้านี้ถ้าสังเกตจะได้เห็นคำพูดให้สัมภาษณ์แบบรายวันของ “คู่แข่งในทางแคบ” อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก่อนปรับครม.ตามน้ำไปก่อนว่า จตุพร นั้นเหมาะสมเป็นรมต. ฟังดูดี ใจกว้างเหมือนแม่น้ำ แต่มองอีกมุม นี่คือการ “ตีกัน” ทำให้แรงกดดันจากสังคมพุ่งมาที่ จตุพรทันที เพราะรู้อยู่ว่าโควตารมต.ของคนเสื้อแดงมีแค่ 1 เดียว ซึ่งก็ถือว่ามากเกินพอแล้ว แต่เพื่อรักษาน้ำใจมวลชน เหมือนกับบริษัทที่ต้องยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้าเสมอ ทั้งที่บางที “ผอืดผะอม”เต็มทีแล้ว
00 สำหรับ ตู่ นาทีนี้ถือว่าน่าเห็นใจที่สุด เพราะเหมือนกับถูกหลอกใช้ ทำให้หลง ทำให้ตัวเองสำคัญตัวเองผิด แต่จะให้โทษก็ต้องโทษ ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวที่ทำให้มีสภาพอย่างที่เห็น จะโวยวายออกมาก็ไม่ได้ เหมือนกับแน่น “จุกอก” จะแตกตาย เพราะหากจำกันได้ เมื่อครั้งที่ ทักษิณ โฟนอินเข้ามาที่โบนันซ่า เขาใหญ่ สัญญากันกลางวงคนเสื้อแดงว่า ปรับครม.คราวต่อไปคนที่เหมาะสมเป็นรมต.ก็คือ จตุพร น้องรัก และ น้องตู่ ก็เอ่ยคำขอบคุณด้วยหัวใจพองโตมาตั้งแต่นั้น ฝันหวานมาโดยตลอด แต่เมื่อถึงคราวเอาจริง ผลออกมาราวฟ้ากับเหว ดังนั้นหากลองมองเข้าไปในหัวใจของเขายามนี้คงเจ็บช้ำระบม ทั้งเจ็บทั้งอาย บอกไม่ถูก
00 ดังนั้นไม่ต้องไปโทษใคร ไม่ต้องไปโทษ ส.สุรนันทน์ เวชชาชีวะ หรือ ส.ไหนก็ตาม ว่าขัดขาไม่ให้นั่งเก้าอี้ ได้ยินแล้วมันทุเรศรูหู เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนในครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ เท่านั้น ที่จะให้ใครเข้า ใครออก ทุกอย่างอยู่ที่ความพอใจ และในแต่ละสถานการณ์ใครมีประโยชน์มากกว่ากัน หรือบางคนมีประโยชน์ทุกสถานการณ์ ไม่ต้องไปสนใจว่าผลงานที่ทำออกมาจะ “ห่วยแสนห่วย” ขนาดไหน ไม่เชื่อก็ลองไปถาม “เสี่ยโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ถาม บุญทรง เตริยาภิรมย์ หรือถาม “อ้ายปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ดูก็ได้ ใช่หรือเปล่า ทุด !!
00 ในที่สุดก็โผล่หน้าออกมาให้เห็นอย่างเป็นทางการ สำหรับ “หุ่นเชิด” คนใหม่ ที่มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แทน ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ก็คือ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และ ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นเลขาฯพรรค ซึ่งเป็นเรื่องแปลก แทนที่คนจะเป็นนายกฯ น่าจะเป็นหัวหน้าพรรคพร้อมกันไปด้วย ดังนั้นอย่าได้แปลกใจ และให้ความสำคัญกับมติปาหี่ของพรรคเพื่อไทย เพราะทุกอย่างมีการเตี๊ยมกันเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าทุกคนที่ติดตามการเมืองแบบรู้ทัน ก็เข้าใจไม่ต่างกัน !!
00 ดูรูปการณ์มันก็เห็นชัดเจนว่า คนพวกนี้มีแต่หวังดีประสงค์ร้าย หน้าฉากเหมือนกับรักใคร่กันดี แต่ข้างหลังต่างซ่อนมีดด้วยกันทั้งนั้น ก่อนหน้านี้ถ้าสังเกตจะได้เห็นคำพูดให้สัมภาษณ์แบบรายวันของ “คู่แข่งในทางแคบ” อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก่อนปรับครม.ตามน้ำไปก่อนว่า จตุพร นั้นเหมาะสมเป็นรมต. ฟังดูดี ใจกว้างเหมือนแม่น้ำ แต่มองอีกมุม นี่คือการ “ตีกัน” ทำให้แรงกดดันจากสังคมพุ่งมาที่ จตุพรทันที เพราะรู้อยู่ว่าโควตารมต.ของคนเสื้อแดงมีแค่ 1 เดียว ซึ่งก็ถือว่ามากเกินพอแล้ว แต่เพื่อรักษาน้ำใจมวลชน เหมือนกับบริษัทที่ต้องยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้าเสมอ ทั้งที่บางที “ผอืดผะอม”เต็มทีแล้ว
00 สำหรับ ตู่ นาทีนี้ถือว่าน่าเห็นใจที่สุด เพราะเหมือนกับถูกหลอกใช้ ทำให้หลง ทำให้ตัวเองสำคัญตัวเองผิด แต่จะให้โทษก็ต้องโทษ ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวที่ทำให้มีสภาพอย่างที่เห็น จะโวยวายออกมาก็ไม่ได้ เหมือนกับแน่น “จุกอก” จะแตกตาย เพราะหากจำกันได้ เมื่อครั้งที่ ทักษิณ โฟนอินเข้ามาที่โบนันซ่า เขาใหญ่ สัญญากันกลางวงคนเสื้อแดงว่า ปรับครม.คราวต่อไปคนที่เหมาะสมเป็นรมต.ก็คือ จตุพร น้องรัก และ น้องตู่ ก็เอ่ยคำขอบคุณด้วยหัวใจพองโตมาตั้งแต่นั้น ฝันหวานมาโดยตลอด แต่เมื่อถึงคราวเอาจริง ผลออกมาราวฟ้ากับเหว ดังนั้นหากลองมองเข้าไปในหัวใจของเขายามนี้คงเจ็บช้ำระบม ทั้งเจ็บทั้งอาย บอกไม่ถูก
00 ดังนั้นไม่ต้องไปโทษใคร ไม่ต้องไปโทษ ส.สุรนันทน์ เวชชาชีวะ หรือ ส.ไหนก็ตาม ว่าขัดขาไม่ให้นั่งเก้าอี้ ได้ยินแล้วมันทุเรศรูหู เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนในครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ เท่านั้น ที่จะให้ใครเข้า ใครออก ทุกอย่างอยู่ที่ความพอใจ และในแต่ละสถานการณ์ใครมีประโยชน์มากกว่ากัน หรือบางคนมีประโยชน์ทุกสถานการณ์ ไม่ต้องไปสนใจว่าผลงานที่ทำออกมาจะ “ห่วยแสนห่วย” ขนาดไหน ไม่เชื่อก็ลองไปถาม “เสี่ยโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ถาม บุญทรง เตริยาภิรมย์ หรือถาม “อ้ายปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ดูก็ได้ ใช่หรือเปล่า ทุด !!
00 ในที่สุดก็โผล่หน้าออกมาให้เห็นอย่างเป็นทางการ สำหรับ “หุ่นเชิด” คนใหม่ ที่มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แทน ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ก็คือ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และ ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นเลขาฯพรรค ซึ่งเป็นเรื่องแปลก แทนที่คนจะเป็นนายกฯ น่าจะเป็นหัวหน้าพรรคพร้อมกันไปด้วย ดังนั้นอย่าได้แปลกใจ และให้ความสำคัญกับมติปาหี่ของพรรคเพื่อไทย เพราะทุกอย่างมีการเตี๊ยมกันเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าทุกคนที่ติดตามการเมืองแบบรู้ทัน ก็เข้าใจไม่ต่างกัน !!
