รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เผยว่า การประชุมใหญ่วิสามัญ ในวันที่ 30 ต.ค. เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แทนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค ที่ลาออกไปนั้น โดยตำแหน่งที่สำคัญที่มีการจับตามอง เช่น ตำแหน่งหัวหน้าพรรค คาดว่าจะเป็น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการเลขาธิการพรรค ที่มีสายสัมพันธ์อันดีทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาณ ณ ป้อมเพชร ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรรค เป็นของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่มีสายสัมพันธ์อันดีทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณและนส.ยิ่งลักษณ์ จะเข้ามาทำหน้าที่วางโครงสร้าง และจัดระเบียบพรรคใหม่ ทั้งด้านการขยายฐานสมาชิกพรรค และการรุกคืบช่องทางสื่อสารโดยเฉพาะทางโลกไซเบอร์
ส่วนตำแหน่งโฆษกพรรค คาดว่าจะยังเป็น นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เหมือนเดิม แม้ก่อนหน้าจะมีแรงกระเพื่อมจากคนในพรรค สายที่ใกล้ชิดนส.ยิ่งลักษณ์ อยากให้มีการเปลี่ยนตัว แต่ก็ได้รับการทัดทานจากแกนนำคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการให้ทำหน้าที่ต่อไป
ทั้งนี้ โครงสร้างพรรคใหม่ จะมีจำนวนกรรมการบริหารพรรคไม่เกิน 29 คน ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับพรรค และโครงสร้างนี้ จะมีอัตราส่วนส.ส.น้อยมาก โดยจะไม่มี ส.ส.เขต เข้าเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคเลย แต่จะมีอัตราส่วน รัฐมนตรี หรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เข้ามาเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคบ้าง เนื่องจากมีการมองว่าหากเกิดอุบัติเหตุการเมืองต่อพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค หากคนที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ จะสามารถเลื่อนบุคคลที่อยู่ลำดับถัดไปขึ้นมาเป็นแทนได้ ซึ่งจะดีกว่าให้ส.ส.เขต มาเป็นหากเกิดอุบัติเหตุ ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะยุ่งยากมากกว่า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยืนยันว่าไม่มีหวยล็อก หรือใบสั่งจากใคร ปล่อยให้สมาชิกที่มาร่วมประชุมทั้ง 319 คน ฟรีโหวต หากแต่ละตำแหน่ง ทั้งหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รวมถึงตำแหน่งบริหารอื่นๆ ใครได้คะแนนสูงสุด ก็ได้รับตำแหน่งดังกล่าวไป
ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการเปลี่ยนโฆษกพรรคนั้น ส่วนตัวไม่ยึดติดตำแหน่ง ทำงานโฆษกด้วยจิตอาสามากว่า 5 ปี ตั้งแต่พรรคยังเป็นฝ่ายค้าน หากสมาชิกพรรคเห็นมีบุคลากรที่มีความเหมาะสมกว่า สมาชิกให้การยอมรับ ตนไม่ยึดติดตำแหน่ง ไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้หมด
ร.ท หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระบวนการเลือกตั้ง จะเป็นการลงคะแนนลับ โดยจะให้สมาชิกหย่อนบัตรเลือกตั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการหย่อนบัตรเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคเปิดโอกาสให้สมาชิกเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมได้โดยอิสระ หลังจากนั้น จะเป็นการหย่อนบัตร เลือกคณะกรรมการบริหารอื่นๆ ที่เหลือในคราวเดียว ประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองเลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค นายทะเบียนพรรค โฆษกพรรค และกรรมการอื่นๆ รวมแล้ว ไม่ต่ำกว่า 9 คน แต่ไม่เกิน 29 คน ตามระเบียบ กกต. และข้อบังคับพรรคเพื่อไทย นอกจากการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคแล้ว ยังมีวาระ ที่จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณารับรองรองการปรับปรุงระเบียบข้อบังคับพรรคที่ล้าสมัย เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของพรรคอีกด้วย
ส่วนตำแหน่งโฆษกพรรค คาดว่าจะยังเป็น นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เหมือนเดิม แม้ก่อนหน้าจะมีแรงกระเพื่อมจากคนในพรรค สายที่ใกล้ชิดนส.ยิ่งลักษณ์ อยากให้มีการเปลี่ยนตัว แต่ก็ได้รับการทัดทานจากแกนนำคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการให้ทำหน้าที่ต่อไป
ทั้งนี้ โครงสร้างพรรคใหม่ จะมีจำนวนกรรมการบริหารพรรคไม่เกิน 29 คน ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับพรรค และโครงสร้างนี้ จะมีอัตราส่วนส.ส.น้อยมาก โดยจะไม่มี ส.ส.เขต เข้าเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคเลย แต่จะมีอัตราส่วน รัฐมนตรี หรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เข้ามาเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคบ้าง เนื่องจากมีการมองว่าหากเกิดอุบัติเหตุการเมืองต่อพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค หากคนที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ จะสามารถเลื่อนบุคคลที่อยู่ลำดับถัดไปขึ้นมาเป็นแทนได้ ซึ่งจะดีกว่าให้ส.ส.เขต มาเป็นหากเกิดอุบัติเหตุ ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะยุ่งยากมากกว่า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยืนยันว่าไม่มีหวยล็อก หรือใบสั่งจากใคร ปล่อยให้สมาชิกที่มาร่วมประชุมทั้ง 319 คน ฟรีโหวต หากแต่ละตำแหน่ง ทั้งหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รวมถึงตำแหน่งบริหารอื่นๆ ใครได้คะแนนสูงสุด ก็ได้รับตำแหน่งดังกล่าวไป
ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการเปลี่ยนโฆษกพรรคนั้น ส่วนตัวไม่ยึดติดตำแหน่ง ทำงานโฆษกด้วยจิตอาสามากว่า 5 ปี ตั้งแต่พรรคยังเป็นฝ่ายค้าน หากสมาชิกพรรคเห็นมีบุคลากรที่มีความเหมาะสมกว่า สมาชิกให้การยอมรับ ตนไม่ยึดติดตำแหน่ง ไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้หมด
ร.ท หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระบวนการเลือกตั้ง จะเป็นการลงคะแนนลับ โดยจะให้สมาชิกหย่อนบัตรเลือกตั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการหย่อนบัตรเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคเปิดโอกาสให้สมาชิกเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมได้โดยอิสระ หลังจากนั้น จะเป็นการหย่อนบัตร เลือกคณะกรรมการบริหารอื่นๆ ที่เหลือในคราวเดียว ประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองเลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค นายทะเบียนพรรค โฆษกพรรค และกรรมการอื่นๆ รวมแล้ว ไม่ต่ำกว่า 9 คน แต่ไม่เกิน 29 คน ตามระเบียบ กกต. และข้อบังคับพรรคเพื่อไทย นอกจากการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคแล้ว ยังมีวาระ ที่จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณารับรองรองการปรับปรุงระเบียบข้อบังคับพรรคที่ล้าสมัย เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของพรรคอีกด้วย