00 อีกไม่กี่วันเราก็จะได้รู้กันเสียทีว่าใครจะได้รับมอบหมายให้มาเป็น “หุ่นเชิด” เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ของครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร จะมาทำหน้าที่ประสานงาน ระหว่างรัฐบาลและสภา ความหมายเพื่อให้ครบองค์ประกอบ “ประชาธิปไตย” มติเบื้องต้นที่ออกมาเมื่อวันก่อน ว่าจะให้สมาชิก “ฟรีโหวต” เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคในวันที่ 30 ต.ค. ซึ่งหากมองอีกมุมหนึ่งการมีมติดังกล่าว เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศไม่เป็นอิสระ เพราะหากเป็นพรรคการเมืองทั่วไปตามหลักการประชาธิปไตยแท้จริง ที่สมาชิกพรรคทุกคนเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ “ใคร” หรือครอบครัวใดเป็นเจ้าของไม่ต่างจาก “บริษัทการเมือง” ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องออกมติให้ลงมติอย่างใดอย่างหนึ่ง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ถึงเวลาก็ให้หาเสียง ให้โหวตกันอย่างเสรี อาจมีการล็อบบี้ดีเบตกันบ้าง เป็นเรื่องปกติ
00 ถามว่านาทีนี้ใครน่าจะเข้าวินกลายเป็นหุ่นเชิดคนใหม่ ทำหน้าที่ไม่ต่างจาก “คนรับใช้” จะเป็นใคร คำตอบก็คงไม่กล้าฟันธง เพราะถ้าพิจารณาจากบทบาทแล้ว มันแทบไม่มีความหมาย เพราะถ้าเป็นพรรคการเมืองตามระบบทั่วไปหัวหน้าพรรคต้องเป็นคนสำคัญหากเป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นนายกฯควบคู่ไปด้วย ในที่นี้ก็ต้องชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ด้วยลักษณะที่มั่วๆแล้วแต่อารมณ์ของคนที่เป็น “เจ้าของ” มันทำให้เดายากว่าจะเป็นใคร เนื่องจากมันโนเนมเต็มทน
00 อย่างไรก็ดีเพื่อให้เกิดบรรยากาศประชาธิปไตย ให้เกิดภาพการแข่งขันก็ต้องบอกว่าเวลานี้มีรายชื่อที่แพลมออกมาหลายราย ทั้ง ภูมิธรรม เวชยชัย พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีชื่อ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รวมทั้ง จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ก็น่าสนใจ แต่ถึงอย่างไรมันก็ไร้ความหมาย เพราะคนพวกนี้มีฐานะไม่ต่างจากคนใช้หรือลูกน้องเจ้าของบริษัทคือ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น
00 ข่าวสะพัดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการทูลเกล้าฯรายชื่อครม.ชุดใหม่ ที่น่าจับตาคือ ตำแน่งรองนายกฯ ว่าจะมีชื่อของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และ มท.1 จะเป็น “ด็อกเตอร์เหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือไม่ และที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือจะมี มท.2 คนใหม่ที่ชื่อ จตุพร พรหมพันธุ์ ติดโผอำมาตย์ใหม่หรือไม่ ทำให้ภาพของการ “ถวายสัตย์” น่าติดตามแน่นอน ห้ามพลาดเป็นอันขาด
00 ดาหน้าออกมากันสลอนสำหรับการตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ในเรื่อง “ขบวนการจ้องล้ม” เจ้าเก่าก็ยังเป็น เฉลิม อยู่บำรุง พล.อ.อ.สุกำพล หรือแม้แต่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็ยังอุตส่าห์โผล่ออกมาผสมโรงกับเขาด้วย แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะเป็นช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม แย่งกันเข้าวิน รักษาเก้าอี้ รวมทั้งจะได้อัพเกรดนั่งเก้าอี้ รมต.ตัวใหม่ตามต้องการ และคนพวกนี้ก็อยู่ในข่ายที่ว่านั่นแหละ !!
00 อีกด้านหนึ่งมีการเปิดตารางเวลาออกมาจากฝ่ายค้าน โดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าฝ่ายค้านจะยื่นซักฟอกรัฐบาลในราวปลายเดือนนี้ และคาดว่าจะได้อภิปรายในราวกลางเดือนหน้า แต่ที่น่า “สยองขวัญ” ก็คือ มีการปล่อยข่าวออกมาว่าอาจจะยื่น “ขยี้นายกฯยิ่งลักษณ์” เพียงรายชื่อเดียว เพราะถือว่าความล้มเหลว การทุจริต การช่วยเหลือพี่ชายให้พ้นผิด ล้วนมีต้นตอมาจากผู้นำ คือ นายกฯหรือ “น้องสาว” ของ นักโทษหนีคดีคนนี้เพียงคนเดียว จะมาตีหน้ามึนหนีหน้าไม่ได้อีกแล้ว ต้องลุกขึ้นตอบชี้แจงด้วยตัวเองเท่านั้น ประเภทที่ว่าเรื่องนี้ต้องเป็นไปตามขั้นตอน หรือมอบหมายให้ รมว.ยุติธรรม รมว.พาณิชย์ หรือ รองนายกฯเฉลิม คนนั้นคนนี้ไปดูแล้ว อาจจะพูดหลบเลี่ยงได้ แต่นั่นไม่ใช่วิสัยของผู้นำในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ที่ตามปกติฝ่ายตัวเองนั่นแหละท่องจำใช้เป็นข้ออ้างอยู่ตลอดเวลา
00 อีกความล้มเหลวและทำลายบ้านเมืองให้ปั่นป่วนวุ่นวายก็คือปัญหาชายแดนใต้ ที่หากจะชี้หน้าด่า ก็ต้องชี้ไปที่ ทักษิณ ชินวัตร นี่แหละ กรณีตากใบ และการปราบปรามยาเสพติดแบบ “เอามัน” ใช้วิธีของ “รัฐตำรวจ” ข่มเหงชาวบ้านไปทั่ว ทำให้เกิดไฟลุกลามจนยากที่จะดับไปแล้ว วันนี้ (25 ต.ค.) ครบรอบ 8 ปี ตากใบก็ต้องเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่และชาวบ้านให้ปลอดภัย อย่าได้เกิดเหตุร้ายแรง ปัญหาที่เกิดขึ้นบานปลายนาทีนี้ถือว่าเอาไม่อยู่ ภาวนาว่าเมื่อไหร่พวกครอบครัวชินวัตรจะพ้นไปเท่านั้น เพราะมองไม่เห็นอนาคตเลยจริงๆ !!
00 ถามว่านาทีนี้ใครน่าจะเข้าวินกลายเป็นหุ่นเชิดคนใหม่ ทำหน้าที่ไม่ต่างจาก “คนรับใช้” จะเป็นใคร คำตอบก็คงไม่กล้าฟันธง เพราะถ้าพิจารณาจากบทบาทแล้ว มันแทบไม่มีความหมาย เพราะถ้าเป็นพรรคการเมืองตามระบบทั่วไปหัวหน้าพรรคต้องเป็นคนสำคัญหากเป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นนายกฯควบคู่ไปด้วย ในที่นี้ก็ต้องชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ด้วยลักษณะที่มั่วๆแล้วแต่อารมณ์ของคนที่เป็น “เจ้าของ” มันทำให้เดายากว่าจะเป็นใคร เนื่องจากมันโนเนมเต็มทน
00 อย่างไรก็ดีเพื่อให้เกิดบรรยากาศประชาธิปไตย ให้เกิดภาพการแข่งขันก็ต้องบอกว่าเวลานี้มีรายชื่อที่แพลมออกมาหลายราย ทั้ง ภูมิธรรม เวชยชัย พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีชื่อ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รวมทั้ง จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ก็น่าสนใจ แต่ถึงอย่างไรมันก็ไร้ความหมาย เพราะคนพวกนี้มีฐานะไม่ต่างจากคนใช้หรือลูกน้องเจ้าของบริษัทคือ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น
00 ข่าวสะพัดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการทูลเกล้าฯรายชื่อครม.ชุดใหม่ ที่น่าจับตาคือ ตำแน่งรองนายกฯ ว่าจะมีชื่อของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และ มท.1 จะเป็น “ด็อกเตอร์เหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือไม่ และที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือจะมี มท.2 คนใหม่ที่ชื่อ จตุพร พรหมพันธุ์ ติดโผอำมาตย์ใหม่หรือไม่ ทำให้ภาพของการ “ถวายสัตย์” น่าติดตามแน่นอน ห้ามพลาดเป็นอันขาด
00 ดาหน้าออกมากันสลอนสำหรับการตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ในเรื่อง “ขบวนการจ้องล้ม” เจ้าเก่าก็ยังเป็น เฉลิม อยู่บำรุง พล.อ.อ.สุกำพล หรือแม้แต่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็ยังอุตส่าห์โผล่ออกมาผสมโรงกับเขาด้วย แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะเป็นช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม แย่งกันเข้าวิน รักษาเก้าอี้ รวมทั้งจะได้อัพเกรดนั่งเก้าอี้ รมต.ตัวใหม่ตามต้องการ และคนพวกนี้ก็อยู่ในข่ายที่ว่านั่นแหละ !!
00 อีกด้านหนึ่งมีการเปิดตารางเวลาออกมาจากฝ่ายค้าน โดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าฝ่ายค้านจะยื่นซักฟอกรัฐบาลในราวปลายเดือนนี้ และคาดว่าจะได้อภิปรายในราวกลางเดือนหน้า แต่ที่น่า “สยองขวัญ” ก็คือ มีการปล่อยข่าวออกมาว่าอาจจะยื่น “ขยี้นายกฯยิ่งลักษณ์” เพียงรายชื่อเดียว เพราะถือว่าความล้มเหลว การทุจริต การช่วยเหลือพี่ชายให้พ้นผิด ล้วนมีต้นตอมาจากผู้นำ คือ นายกฯหรือ “น้องสาว” ของ นักโทษหนีคดีคนนี้เพียงคนเดียว จะมาตีหน้ามึนหนีหน้าไม่ได้อีกแล้ว ต้องลุกขึ้นตอบชี้แจงด้วยตัวเองเท่านั้น ประเภทที่ว่าเรื่องนี้ต้องเป็นไปตามขั้นตอน หรือมอบหมายให้ รมว.ยุติธรรม รมว.พาณิชย์ หรือ รองนายกฯเฉลิม คนนั้นคนนี้ไปดูแล้ว อาจจะพูดหลบเลี่ยงได้ แต่นั่นไม่ใช่วิสัยของผู้นำในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ที่ตามปกติฝ่ายตัวเองนั่นแหละท่องจำใช้เป็นข้ออ้างอยู่ตลอดเวลา
00 อีกความล้มเหลวและทำลายบ้านเมืองให้ปั่นป่วนวุ่นวายก็คือปัญหาชายแดนใต้ ที่หากจะชี้หน้าด่า ก็ต้องชี้ไปที่ ทักษิณ ชินวัตร นี่แหละ กรณีตากใบ และการปราบปรามยาเสพติดแบบ “เอามัน” ใช้วิธีของ “รัฐตำรวจ” ข่มเหงชาวบ้านไปทั่ว ทำให้เกิดไฟลุกลามจนยากที่จะดับไปแล้ว วันนี้ (25 ต.ค.) ครบรอบ 8 ปี ตากใบก็ต้องเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่และชาวบ้านให้ปลอดภัย อย่าได้เกิดเหตุร้ายแรง ปัญหาที่เกิดขึ้นบานปลายนาทีนี้ถือว่าเอาไม่อยู่ ภาวนาว่าเมื่อไหร่พวกครอบครัวชินวัตรจะพ้นไปเท่านั้น เพราะมองไม่เห็นอนาคตเลยจริงๆ !!
