“เป๊ปซี่” แต่งตั้ง “สุรเกียรติ์ เสถียรไทย” อดีตรองนายกรัฐมนตรี นั่งประธานบริษัท มีผล 1 พ.ย.นี้ เพื่อดูแลภาพรวมการบริหารธุรกิจ และทิศทางการลงทุนในไทย พร้อมรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง
นายซาด อับดุล-ลาทีฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำภาคพื้นทวีปเอเชีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา เป๊ปซี่โค อิงค์ เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้ง นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือเป๊ปซี่โค อิงค์ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 นี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นายสุรเกียรติ์ จะมีบทบาทในการดูแลภาพรวมการบริหารธุรกิจในเชิงกลยุทธ์ รวมทั้งให้คำปรึกษาในด้านทิศทางการลงทุนในประเทศไทยของเป๊ปซี่โค อิงค์ ซึ่งความเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญของนายสุรเกียรติ์ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนธุรกิจของเป๊ปซี่โคในไทยให้ประสบความสำเร็จ และรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การแต่งตั้งนายสุรเกียรติ์ของทางค่ายเป๊ปซี่ครั้งนี้มีความหมายอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์ของเป๊ปซี่ในเมืองไทยขณะนี้กล่าวได้ว่าอยู่ในภาวะที่แตกต่างจากความเป็นผู้นำตลาดในออีตอย่างมาก หลังจากที่จะสิ้นสุดสัญญาความเป็นบ๊อตเลอร์กับทางบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 30 ตุลาคมที่จะถึงนี้ หลังจากเป็นคู่ค้ากันมานานกว่าครึ่งศตวรรษ อย่างน้อยที่สุดการได้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทยมา ก็น่าจะมีศักดิ์ศรีเทียบเคียงกับทางค่ายโค้กที่เป็นคู่แข่งตลอดกาลที่มีตระกูลสารสินเป็นเจ้าของ
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศรายนี้ถือได้วามีความสัมพันอันดีกับผู้บริหารระดับสูงทั้งภาคราชการและเอกชนในหลายประเทศ ซึ่งจะทำให้การลงทุนหรือการขยายธุรกิจของค่ายเป๊ปซี่ทั้งในไทยและต่างประเทศอื่นๆมีความเป็นไปได้มากขึ้น
นานสุรเกียรติ์ เคยเป็น รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคไทยรักไทย เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ[1] สมัยรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร เคยถูกเสนอชื่อเพื่อเป็น เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ โดยการสนับสนุนของรัฐบาลทักษิณ[2] รวมถึงได้รับการสนับสนุนจาก คปค.เช่นกัน แต่ก็ได้ถอนตัวในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ภายหลังทราบผลการหยั่งเสียง[3] ปัจจุบันเป็นประธานสถาบันนโยบายสังคมและเศรษฐกิจ (isep) และเป็นประธานกรรมการบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.)
เป๊ปซี่ต้องทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นดานกลยุทธ์การตลาด การจัดการ โลจิสติกส์ หรือแม้กระทั่งการบริหาร ที่ต้องอาศัยชื่อเสียงของผู้ที่มีบารมีในวงการสังคมของไทย เข้ามาเป็นตัวเบิกทางให้ เพื่อรักษาบัลลังก์ผู้นำตลาดน้ำดำในเมอือไทยเอาไว้ใต่อไปปให้ได้ เพรานอกจากการตลาดที่เก่งกล้า ผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่สายสัมพันธ์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม
ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดน้ำดำมูลค่าลหลายหมื่นล้านบาท แม้จะมีผู้เล่นรายใหญ่ไม่กี่รายเช่น โค้ก เป๊ปซี่ บี๊กโคล่า และล่าสุดน้องใหม่แบรนด์ เอสท์ ของค่ายเสริมสุข ที่ลุกขึ้นมาสร้างแรนด์ตัวเองหลังจากมีประสบการณ์อันเชี่ยวกรากในตลาดน้ำดำด้วยสร้างชื่อเป๊ปซี่ขึ้นมานั่นเอง
นายซาด อับดุล-ลาทีฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำภาคพื้นทวีปเอเชีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา เป๊ปซี่โค อิงค์ เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้ง นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือเป๊ปซี่โค อิงค์ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 นี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นายสุรเกียรติ์ จะมีบทบาทในการดูแลภาพรวมการบริหารธุรกิจในเชิงกลยุทธ์ รวมทั้งให้คำปรึกษาในด้านทิศทางการลงทุนในประเทศไทยของเป๊ปซี่โค อิงค์ ซึ่งความเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญของนายสุรเกียรติ์ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนธุรกิจของเป๊ปซี่โคในไทยให้ประสบความสำเร็จ และรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การแต่งตั้งนายสุรเกียรติ์ของทางค่ายเป๊ปซี่ครั้งนี้มีความหมายอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์ของเป๊ปซี่ในเมืองไทยขณะนี้กล่าวได้ว่าอยู่ในภาวะที่แตกต่างจากความเป็นผู้นำตลาดในออีตอย่างมาก หลังจากที่จะสิ้นสุดสัญญาความเป็นบ๊อตเลอร์กับทางบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 30 ตุลาคมที่จะถึงนี้ หลังจากเป็นคู่ค้ากันมานานกว่าครึ่งศตวรรษ อย่างน้อยที่สุดการได้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทยมา ก็น่าจะมีศักดิ์ศรีเทียบเคียงกับทางค่ายโค้กที่เป็นคู่แข่งตลอดกาลที่มีตระกูลสารสินเป็นเจ้าของ
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศรายนี้ถือได้วามีความสัมพันอันดีกับผู้บริหารระดับสูงทั้งภาคราชการและเอกชนในหลายประเทศ ซึ่งจะทำให้การลงทุนหรือการขยายธุรกิจของค่ายเป๊ปซี่ทั้งในไทยและต่างประเทศอื่นๆมีความเป็นไปได้มากขึ้น
นานสุรเกียรติ์ เคยเป็น รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคไทยรักไทย เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ[1] สมัยรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร เคยถูกเสนอชื่อเพื่อเป็น เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ โดยการสนับสนุนของรัฐบาลทักษิณ[2] รวมถึงได้รับการสนับสนุนจาก คปค.เช่นกัน แต่ก็ได้ถอนตัวในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ภายหลังทราบผลการหยั่งเสียง[3] ปัจจุบันเป็นประธานสถาบันนโยบายสังคมและเศรษฐกิจ (isep) และเป็นประธานกรรมการบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.)
เป๊ปซี่ต้องทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นดานกลยุทธ์การตลาด การจัดการ โลจิสติกส์ หรือแม้กระทั่งการบริหาร ที่ต้องอาศัยชื่อเสียงของผู้ที่มีบารมีในวงการสังคมของไทย เข้ามาเป็นตัวเบิกทางให้ เพื่อรักษาบัลลังก์ผู้นำตลาดน้ำดำในเมอือไทยเอาไว้ใต่อไปปให้ได้ เพรานอกจากการตลาดที่เก่งกล้า ผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่สายสัมพันธ์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม
ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดน้ำดำมูลค่าลหลายหมื่นล้านบาท แม้จะมีผู้เล่นรายใหญ่ไม่กี่รายเช่น โค้ก เป๊ปซี่ บี๊กโคล่า และล่าสุดน้องใหม่แบรนด์ เอสท์ ของค่ายเสริมสุข ที่ลุกขึ้นมาสร้างแรนด์ตัวเองหลังจากมีประสบการณ์อันเชี่ยวกรากในตลาดน้ำดำด้วยสร้างชื่อเป๊ปซี่ขึ้นมานั่นเอง
