เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติลมมรสุมในอ่าวไทยได้พัดพาเอาขยะจากอ่าวไทยขึ้นมาเกยหาดหัวหินเป็นแนวยาวนับ 10 กิโลเมตร และยังมีขยะเป็นปริมาณมากหลาย 10 ตัน นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ต้องระดมเจ้าหน้าที่ฯ เร่งดำเนินการเก็บขยะต่อเนื่องมาถึง 2 วันแล้ว แต่ขยะก็ยังลอยมาอย่างต่อเนื่อง
วานี้ (21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติพบมีขยะพัดเข้าชายหาดหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจำนวนมาก ซึ่งพบว่าบริเวณชายหาดหัวหินตั้งแต่บริเวณหมู่บ้านบ่อฝ้าย ไปจนถึงหมู่บ้านเขาตะเกียบ ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร มีขยะที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาชายฝั่งเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ จากการสังเกตการณ์ยังพบว่า ในท้องทะเลยังมีขยะลอยเกลื่อนอยู่อีกจำนวนมากเช่นกัน
นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า ขยะที่ถูกคลื่นซัดเข้ามามีทั้งขยะพลาสติก วัสดุขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ เศษไม้ และขยะที่เกิดจากธรรมชาติ รวมทั้งพืชทะเลก็ลอยขึ้นมาเช่นกัน ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วง 2 วันนี้เป็นช่วงวันหยุด มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางมาพักผ่อนเป็นจำนวนมากที่หัวหิน แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำทะเลแต่อย่างใด เนื่องจากมีแต่ขยะ ซึ่งทางเทศบาลเมืองหัวหินได้ระดมเจ้าหน้าที่ในสังกัดกว่า 100 คน เร่งดำเนินการเก็บขยะที่ลอยเกลื่อนตามแนวชายหาดอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าตั้งแต่วานนี้มาจนถึงวันนี้เป็นวันที่ 2 ซึ่งมีขยะที่เก็บขึ้นมาแล้วกว่า 6 ตัน
โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดลงเล่นน้ำของนักท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดด้านข้างโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ หัวหิน ซึ่งจุดนี้เป็นชายหาดที่นักท่องเที่ยวมักลงเล่นน้ำทะเล ทำให้ต้องเร่งคืนพื้นที่ให้กลับมาสะอาด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (22 ต.ค.) อาจต้องปรับแผนการเก็บขยะอาจต้องประสานขอกำลังทหารในพื้นที่ และเพื่อนพี่น้องจิตอาสา และผู้ปรกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ต้องออกมาช่วยกันเก็บขยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าสภาพชายหาดหัวหินจะกลับมาขาวสะอาดเหมือนเดิม
“ลักษณะเช่นนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่ชาวบ้านหัวหินจะรู้ดีว่ามักเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือนตุลาคม จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยขยะที่ซัดเข้าหาดหัวหินในครั้งนี้จะเกิดจากลมมรสุมในอ่าวไทยที่พัดมากจากฝั่งจังหวัดชลบุรี พัดเข้าหาดหัวหิน โดยชาวบ้านจะเรียกกันว่า “ลมว่าว” ซึ่งอิทธิพลของลมนี้จะพัดพาเอาขยะในทะเล และพื้นที่ปากอ่าวไทยตั้งแต่ชลบุรี กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม หรือพื้นที่อ่าวตัว “ก” ลงมาด้วย ทำให้มีขยะมีปริมาณมหาศาล สำหรับลักษณะเช่นนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้นักท่องเที่ยวเที่ยวที่จะลงเล่นน้ำควรระมัดระวังเพิ่มขึ้น เพราะคุณภาพน้ำทะเลอาจจะต่ำลง และอาจจะมีขยะที่อาจจะไม่ปลอดภัยลอยมา” นายนพพร กล่าวและว่า
ด้านนายอภิชาติ หงษ์สกุล ประธานฝ่ายพัฒนาการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาขยะที่ลอยมาที่ชายหาดหัวหิน เป็นจำนวนมากตลอด 2 วันที่ผ่านมานั้น ถึงทางเทศบาลเมืองหัวหินจะระดมเจ้าหน้าที่มาเก็บแต่ก็ยังไม่หมด เนื่องจากในท้องทะเลยังมีขยะที่ถูกพัดมาอีกเป็นจำนวนมาก ที่ทยอยพัดเข้าฝั่งที่ชายหาดหัวหิน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายน้ำทะเลจะหนุนสูงทำให้ไม่สามารถเก็บขยะได้ตลอดทั้งวัน
“ในวันนี้จะมีการประชุมสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ซึ่งจะมีการบรรจุวาระดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสมาคมฯ เพื่อจะได้ร่วมกันเชิญชวนให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และองค์กรภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา ฯลฯ และกลุ่มเพื่อนๆ ทางเฟซบุ๊กระดมกันจัดกิจกรรมเข้ามาช่วยกันเก็บขยะตามแนวชายหาดอย่างต่อเนื่อง จนกว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่กระทบการท่องเที่ยวหัวหินแต่อย่างใด”
วานี้ (21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติพบมีขยะพัดเข้าชายหาดหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจำนวนมาก ซึ่งพบว่าบริเวณชายหาดหัวหินตั้งแต่บริเวณหมู่บ้านบ่อฝ้าย ไปจนถึงหมู่บ้านเขาตะเกียบ ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร มีขยะที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาชายฝั่งเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ จากการสังเกตการณ์ยังพบว่า ในท้องทะเลยังมีขยะลอยเกลื่อนอยู่อีกจำนวนมากเช่นกัน
นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า ขยะที่ถูกคลื่นซัดเข้ามามีทั้งขยะพลาสติก วัสดุขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ เศษไม้ และขยะที่เกิดจากธรรมชาติ รวมทั้งพืชทะเลก็ลอยขึ้นมาเช่นกัน ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วง 2 วันนี้เป็นช่วงวันหยุด มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางมาพักผ่อนเป็นจำนวนมากที่หัวหิน แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำทะเลแต่อย่างใด เนื่องจากมีแต่ขยะ ซึ่งทางเทศบาลเมืองหัวหินได้ระดมเจ้าหน้าที่ในสังกัดกว่า 100 คน เร่งดำเนินการเก็บขยะที่ลอยเกลื่อนตามแนวชายหาดอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าตั้งแต่วานนี้มาจนถึงวันนี้เป็นวันที่ 2 ซึ่งมีขยะที่เก็บขึ้นมาแล้วกว่า 6 ตัน
โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดลงเล่นน้ำของนักท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดด้านข้างโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ หัวหิน ซึ่งจุดนี้เป็นชายหาดที่นักท่องเที่ยวมักลงเล่นน้ำทะเล ทำให้ต้องเร่งคืนพื้นที่ให้กลับมาสะอาด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (22 ต.ค.) อาจต้องปรับแผนการเก็บขยะอาจต้องประสานขอกำลังทหารในพื้นที่ และเพื่อนพี่น้องจิตอาสา และผู้ปรกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ต้องออกมาช่วยกันเก็บขยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าสภาพชายหาดหัวหินจะกลับมาขาวสะอาดเหมือนเดิม
“ลักษณะเช่นนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่ชาวบ้านหัวหินจะรู้ดีว่ามักเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือนตุลาคม จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยขยะที่ซัดเข้าหาดหัวหินในครั้งนี้จะเกิดจากลมมรสุมในอ่าวไทยที่พัดมากจากฝั่งจังหวัดชลบุรี พัดเข้าหาดหัวหิน โดยชาวบ้านจะเรียกกันว่า “ลมว่าว” ซึ่งอิทธิพลของลมนี้จะพัดพาเอาขยะในทะเล และพื้นที่ปากอ่าวไทยตั้งแต่ชลบุรี กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม หรือพื้นที่อ่าวตัว “ก” ลงมาด้วย ทำให้มีขยะมีปริมาณมหาศาล สำหรับลักษณะเช่นนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้นักท่องเที่ยวเที่ยวที่จะลงเล่นน้ำควรระมัดระวังเพิ่มขึ้น เพราะคุณภาพน้ำทะเลอาจจะต่ำลง และอาจจะมีขยะที่อาจจะไม่ปลอดภัยลอยมา” นายนพพร กล่าวและว่า
ด้านนายอภิชาติ หงษ์สกุล ประธานฝ่ายพัฒนาการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาขยะที่ลอยมาที่ชายหาดหัวหิน เป็นจำนวนมากตลอด 2 วันที่ผ่านมานั้น ถึงทางเทศบาลเมืองหัวหินจะระดมเจ้าหน้าที่มาเก็บแต่ก็ยังไม่หมด เนื่องจากในท้องทะเลยังมีขยะที่ถูกพัดมาอีกเป็นจำนวนมาก ที่ทยอยพัดเข้าฝั่งที่ชายหาดหัวหิน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายน้ำทะเลจะหนุนสูงทำให้ไม่สามารถเก็บขยะได้ตลอดทั้งวัน
“ในวันนี้จะมีการประชุมสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ซึ่งจะมีการบรรจุวาระดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสมาคมฯ เพื่อจะได้ร่วมกันเชิญชวนให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และองค์กรภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา ฯลฯ และกลุ่มเพื่อนๆ ทางเฟซบุ๊กระดมกันจัดกิจกรรมเข้ามาช่วยกันเก็บขยะตามแนวชายหาดอย่างต่อเนื่อง จนกว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่กระทบการท่องเที่ยวหัวหินแต่อย่างใด”