xs
xsm
sm
md
lg

“ปู”เรียกถกไซ่ฟ่อนฮ่องกง ปิดห้องสภาฯถาม“ดีเอสไอ-ปปง.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(21ต.ค.55) ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีภาคีเครือข่ายต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) ระบุว่ามีนักการเมืองไทยไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านที่ฮ่องกงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการด้วยวาจาให้ตนดำเนินการตรวจสอบให้ชัดเจนทั้งที่เป็นความเท็จ แต่นายกฯก็ยังห่วงใย วันที่ 24 ต.ค.ตนจะสั่งการกระทรวงยุติธรรมให้ดำเนินการเรื่องนี้ และเชิญนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และพ.ต.อ. สีหนาท ประยูรรัตน์เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาพบเพราะตนเป็นประธาน ปปง. เรื่องนี้เป็นความเท็จและทันทีที่มีข่าวตนก็ปฏิเสธ ไม่เขื่อว่าเป็นความจริง เพราะภตช.ในเมืองไทยเป็นภาคเอกชนไม่มีใครรองรับตั้งขึ้นมาเองยกย่องกันเอง ชงเองกินเอง และอ้างว่าไปประชุมกับไอซีเอซีอายัดที่ฮ่องกง ตนไม่เชื่อเพราะเขาเป็นหน่วยราชการ ส่วนที่ว่าไปประชุมปปง.ฮ่องกงตนก็ไม่เชื่อ ยิ่งข่าวตอนหลังออกมาเรียกว่าเต้าข่าว บอกว่าหลังจากอายัดแล้วยังมีคนโอนต่อไปฝรั่งเศส ซึ่งถ้าอายัดจริงจะโอนได้อย่างไร จึงไม่เป็นความจริงเป็นการเต้าข่าว เป็นการสร้างความสับสนให้คนเข้าใจผิด
“เงินตั้ง 1.6 หมื่นล้านบาท จะเบิกกี่บัญขีกี่วัน หรือหากจะเอาเงินสด 1.6 หมื่นล้านบาทก็หนัก 16,000 กิโลกรัม เครื่องบินที่ไหนจะบรรทุกได้ เรื่องนี้เลอะเทอะ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การพูดคุยกับทางดีเอสไอเป็นการย้ำในการตรวจสอบเรื่องนี้ ยิ่งถ้าเป็นการสอบแบบทางการได้ก็อยากให้ทำ แต่ขณะนี้ได้ออกมาปฏิเสธกันพัลวันแล้ว ประธานอนุกรรมาธิการวุฒิสภาฯก็บอกว่าน้ำหนักเบา เครือข่าย ภตช.ก็โยนกันไปมา เรื่องนี้ไอ้พาร์กินสันต้นเรื่อง ไอ้มือสั่น เมื่อถามว่า จะเรียกนายมงคงกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาฯ ภตช. มาพบหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่เรียกเพราะไม่เชื่อ ไม่มีราคา เพราะจับได้ว่าโกหกตรงที่อายัดแต่บอกโอนเงินไปฝรั่งเศสอีกได้ จะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อถามว่า หากพบข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จจะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่กับเลขาฯภตช. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายมงคลกิตติ์ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นคนไซฟ่อนก็ดำเนินคดีไม่ได้ แต่หาก ภตช.ระบุชื่อมาเลยไม่ใช่ชื่อย่อตรงนั้นถือว่าหมิ่นประมาท และคำว่านักการเมืองก็ไม่ได้บอกว่าระดับใด อย่างไรก็ตามกรณีสร้างความปั่นป่วน แสดงความเลอะเทอะ ไม่มีราคา เป็นพวกเจ้าเก่าโดยเฉพาะคนที่เป็นพาร์กินสัน เมื่อถามว่า แสดงว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ระบุว่ามีขบวนการจ้องล้มรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าถูกต้อง ไม่ได้ใส่ร้ายใคร
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายมงคลกิตติ์ กล่าวพาดพิงว่า นายธีรภัทร คำคู้บอน รักษาการประธานภตช. ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยการไซฟอนเงินจำนวน 16,000 ล้านบาท ที่ฮ่องกง นั้น ก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งนายธีรภัทรได้เข้าร้องเรียนกับพรรคเพื่อไทยพร้อมทั้งมาชี้แจงด้วยตนเองว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่มีข้อมูลใดๆ เพราะตนได้รับการร้องขอจาก พลเอกกิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ประธานองค์กรรวมพลคนดี ไปเป็น
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า วันอังคารที่ 23 ต.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปกองปราบปรามเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาสร้างความสับสน ดังนั้นต้องถูกดำเนินคดีให้เป็นตัวอย่าง เพราะต่อไปจะมีคนออกมาพูดเหมือนนายมงคลกิตติ์ ส่วนจะสาวถึงใครก็ให้กองปราบดำเนินการ เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวหวังผลทางการเมือง สร้างความสูญเสียภาพลักษณ์ประเทศ ที่กล่าวอ้างว่าฮ่องกง และฝรั่งเศสเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ เนื่องจากไม่มีหลักฐานเรื่องไซฟ่อนเงิน หากมีก็ให้นำหลักฐานมาชี้แจง
นายธีรพัฒน์ คำคูบอน ประธานสมาพันธ์เครือข่ายอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมายื่นเอกสารหลักฐานพร้อมภาพถ่ายให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาโฆษกพรรคเพื่อไทย เพื่อยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชันของชาติ (ภตช.) ที่ถูกนายมงคลกิตติ์ กล่าวอ้าง
โดยนายธีรพัฒน์ กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่ได้เป็นรักษาการประธาน ภตช.อย่างที่ถูกกล่าวอ้าง เพียงแต่ พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ผู้ก่อตั้ง ภตช.ได้ลาออกจากประธานจึงขอร้องให้ตนเป็นประธานสรรหาประธานภตช.เนื่องจากเป็นคนนอกเพื่อจะได้รับความน่าชื่อถือ แต่โดยโครงสร้างภตช.คนที่จะรักษาคือนายจงจิต หิรัญทรัพย์ แต่จากการสรรหา มีการเสนอชื่อ พล.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน พล.ต.อ.วศิษ เดชกุญชร นายดำรง พิเดช นายพิศิษฐ์ลีลาวัชรโรภาส นายถวิล เปลี่ยนศรี เป็นต้น ให้เป็นประธานภตช. อย่างไรก็ตามการออกมากล่าวหาตนไปเกี่ยวข้องกับภตช. นั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ทั้งนี้ยืนยันว่าการเดินทางไปฮ่องกงไม่มีการพูดเรื่องการไซฟ่อนเงิน และที่ตนหนักใจมากคือการกล่าวหาว่าเป็นเลขาฯพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและระบุว่ามีความใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยนั้นก็ไม่เป็นความจริง ตนเป็นข้าราชการจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไม่ได้ ทั้งนี้คงไม่ฟ้องร้องแต่ปล่อยให้นายพร้อมพงศ์ดำเนินการ
"ไม่มีวาระประชุมเรื่องรักษาการประธาน คงลาออกทางอากาศ อย่ากล่าวอ้างผมเป็นประธานภตช. การตั้งตนไม่มีมติที่ประชุม ให้เป็นประธานสรรหาประธานวาระ 2 เดือนเท่านั้นเอง"นายธีพัฒน์กล่าว

**ดอดเคลียร์ใจ “เสธฯอ้าย” นอกรอบ
อีกด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่มี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นประธานว่า เชื่อว่าพล.อ.บุญ เลิศ เป็นคนดี รักประเทศชาติไม่น้อยกว่าใคร ท่านก็คงระมัดระวังไม่ให้มือที่สามมาสร้างสถานการณ์ ตนมองในแง่ดีว่าจากความดีของท่านไม่น่าจะเกิดสถานการณ์รุนแรงอะไร และลักษณะการชุมนุมก็จะใช้เฉพาะพื้นที่บริเวณสนามม้านางเลิ้งเท่านั้น ไม่มีการเคลื่อนไปจุดอื่นโดยการดูแลความปลอดภัยตำรวจได้รับทราบดีอยู่แล้ว ทั้งนี้การชุมนุมต่างๆถ้าไม่มีพรรคการเมืองหนุนหลัง จำนวนคนอาจไม่มากนัก และเป็นเพียงการชุมนุมแสดงความคิดเห็นปกติ แต่ถ้าพรรคการเมืองบางพรรคจะหนุนหลังหวังถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1 ตนเชื่อคงไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 24 ต.ค.นี้ เวลาประมาณ 12.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. และ พล.ต.อ.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จะไปเดินทางเข้าพบ พล.อ.บุญเลิศ ที่สนามม้านางเลิ้ง เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการชุมนุมแสดงพลังที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ รวมถึงพูดคุยกึงสถานการณ์ทางการเมือง

** ย้ำเวทีเสวนาต้องมี “สุธรรม-อดิศร”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งข้อความสั้นถึงสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ให้ติดตามการดำเนินงานของร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ว่า นายอภิสิทธิ์คงเข้าใจผิด เพราะตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานปราบปรามยาเสพติด และได้รับแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลเรื่องการตรวจสอบการทุจริตโครงการต่างๆ จึงจะเดินสายมอบนโยบายในเรื่องแนวทางแก้ปัญหายาเสพติด การตรวจสอบทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว งบประมาณการฟื้นฟูเยียวยา และงบท้องถิ่น ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ที่จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสิทธิที่ตนทำได้ แต่ถ้าตนใช้ตำแหน่งฐานะประธาน ปคอป.ไปดำเนินการ ก็ต้องให้คณะกรรมการชุดที่มีนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเลขานุการ ดำเนินการสานเสวนาเรื่องการสร้างความปรองดอง
ส่วนการที่ตนจะให้นายสุธรรม แสงประทุม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และนายอดิศร เพียงเกษ ประธานสถานีประชาชนพีเพิ้ล ชาแนล และอดีตส.ส.ขอนแก่น พรรคไทยรักไทย ขึ้นเวทีด้วย เพราะทั้ง 2 คนนี้ได้ผลพวงจากความปรองดองมาจากอดีต มีความเข้าใจดีและซึมซับมากกว่าคนอื่น เพราะเขาสัมผัสมาด้วยตัวเอง ตนจึงเชื่อว่าเขาจะสามารถให้ความรู้ประชาชนได้ดี โดยเฉพาะทั้ง 2 คนเป็นอดีตรัฐมนตรีย่อมมีความเข้าใจในงานราชการ เผื่อข้าราชการต้องการทราบแนวคิดข้อเท็จจริง ก็สามารถพูดได้ ซึ่งตนเตรียมเดินทางเปิดเวทีดังกล่าวแน่นอนในต่างจังหวัด นอกเวลาราชการ อาทิ ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี รวมถึงจ.ขอนแก่น ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร สุรินทร์ และบุรีรัมย์.
กำลังโหลดความคิดเห็น