ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วานนี้ (10ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านั้นไม่นาน นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามายังตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อพบกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนที่ทั้งคู่จะขึ้นรถคันเดียวกันออกไป และแยกย้ายกันเมื่อเดินทางถึงอาคารรัฐสภา
ทั้งนี้มีรายงานแจ้งว่า นางเยาวภา เพียงแค่นำขนมมาฝากน้องสาวเท่านั้น และในช่วงหลังๆนี้ มักจะเดินทางมาพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นการส่วนตัวในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้มาพบก่อนแวะไปรับประทานอาหารที่ ถ.เยาวราช ร่วมกัน ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับครม. ที่มีผู้ร่วมจัดทำโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เพียง 3 คน คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ นางเยาวภา และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงปฏิเสธถึงการปรับคณะรัฐมนตรี โดยอ้างว่า ตอนนี้งานยังเยอะอยู่ ขอเวลาทำงานก่อน จะปรับเมื่อไรแล้วจะแจ้งให้ทราบ
"ตอนนี้งานในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายไปเยอะแล้ว โดยให้รองนายกฯ รับภารกิจเพิ่มไปก่อน ซึ่งงานก็ยังเดินหน้าได้ตามปกติ " นายกรัฐมนตรี กล่าว
** "ปึ้ง"โยนสมาชิกเลือกหน.พรรค
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเสนอว่า บุคคลที่อยากให้เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคก็พร้อมจะรับฟัง และทุกคนที่ถูกเสนอชื่อขึ้นมา แต่ละคนก็เป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม และสมาชิกพรรคก็ยอมรับ แต่ท้ายสุดแล้วจะชัดเจนในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พรรคเพื่อไทย วันที่ 30 ต.ค. นี้ ทั้งนี้การคัดเลือกหัวหน้าพรรค ไม่ได้มีการมองว่า เป็นเครือญาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะสมาชิกมีสิทธิที่จะเสนอใครก็ได้
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ มีความรู้ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ทุกคนที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ามา ก็ทำงานได้ทั้งนั้น เพราะการที่ส.ส.เสนอชื่อ ก็ถือทำงานเข้าตาส.ส.แล้ว แต่ทั้งนี้คนที่ถูกเสนออาจจะถอนตัวก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองหรือไม่ว่า คนในตระกูลชินวัตร ไม่ควรจะเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า พรรคเพื่อไทย พลังประชาชน และไทยรักไทย ที่ผ่านมาทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ก่อตั้ง และพัฒนาพรรคจนเป็นที่ยอมรับของประชาชน และชนะการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงเชื่อว่า ทุกคนไม่ปฏิเสธ
เมื่อถามว่า หากนางเยาวภา ได้รับการคัดเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจริง คิดว่า จะต้านทานกระแสความไมเห็นด้วยจากสังคมได้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คนที่คัดค้านถึงยังไงก็คัดค้านอยู่แล้ว โดยเฉพาะฝ่ายค้าน เขาก็จะหยิบเรื่องนี้มาวิจารณ์อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หากนายกฯ เป็นน้องสาว หัวหน้าพรรคเป็นพี่สาว ไม่น่าเกลียดใช่ไหม นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้าเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น ก็ต้องยอมรับ อยู่ที่ ส.ส. และสมาชิกพรรคจะเลือกในการประชุม และไม่คิดว่าจะเป็นจุดอ่อนรัฐบาล เพราะคนที่ต้องการจะโจมตี ยังไงก็โจมตีอยู่แล้ว เราคงไปปฏิเสธความคิดเขาไม่ได้
**ปมสมาชิกภาพ"ยงยุทธ"ชัดเจนพ.ย.นี้
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องคุณสมบัติของ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีต ส.ส.และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าจากที่มีการผู้ร้องเข้ามารวม 4 คำร้อง แยกเป็น 1 คำร้องที่นายยงยุทธ ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติตัวเอง คณะอนุกรรมการเตรียมเสนอต่อกกต.ให้ยุติและจำหน่ายคำร้อง ส่วนที่เหลือ 3 คำร้องอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอนุกรรมการที่จะพิจารณาว่าการขาดจากสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของนายยงยุทธนั้น จะนับแต่เมื่อใด และจะมีผลย้อนหลังไปถึงการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 54 หรือไม่ รวมทั้งมีผลให้ต้องยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยคณะอนุกรรมการฯ จะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน นับแต่มีคำสั่งแต่งตั้ง ก่อนที่จะนำรายงานเข้าที่ประชุม กกต. แต่หากคณะอนุกรรมการฯ ต้องการขอขยายเวลาในการตรวจสอบก็สามารถทำได้ คาดว่าคำร้องของนายยงยุทธ น่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนพ.ย.นี้
** "เพื่อไทย"ใช้งบพม.แลกสมาชิกพรรค
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พูดในที่ประชุมส.ส.ของพรรค ว่า มีการใช้งบของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ส.ส. พรรคเพื่อไทย คนละ 1 ล้านบาท ในการไปหาสมาชิกพรรคว่า ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าไม่มีการนำเงินของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เป็นค่าตอบแทนในการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ข่าวดังกล่าวน่าจะเป็นการพูดในลักษณะที่ดูถูกประชาชนทั่วประเทศ และดูถูกสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่าหากใครเป็นสมาชิกพรรคต้องใช้เงินซื้อเข้ามา จึงขอท้าว่าหากนายบัญญัติพูดอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวจริง ก็ขอให้นำหลักฐานมาแฉต่อประชาชน และในสภา หรือจะยื่นร้องต่อกระบวนการยุติธรรมก็ได้ ไม่ใช่พูดลอยๆ ตีกินทางการเมือง ซึ่งไม่ใช่วิธีการของสุภาพบุรุษทางการเมือง
"ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย รับสมาชิกโดยเชิญชวนประชาชนให้เห็นถึงอุดมการณ์ ทุกคนเป็นสมาชิกด้วยความสมัครใจไม่เคยใช้เงินนำหน้าในการรับสมาชิกตามที่เป็นข่าว" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้มีรายงานแจ้งว่า นางเยาวภา เพียงแค่นำขนมมาฝากน้องสาวเท่านั้น และในช่วงหลังๆนี้ มักจะเดินทางมาพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นการส่วนตัวในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้มาพบก่อนแวะไปรับประทานอาหารที่ ถ.เยาวราช ร่วมกัน ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับครม. ที่มีผู้ร่วมจัดทำโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เพียง 3 คน คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ นางเยาวภา และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงปฏิเสธถึงการปรับคณะรัฐมนตรี โดยอ้างว่า ตอนนี้งานยังเยอะอยู่ ขอเวลาทำงานก่อน จะปรับเมื่อไรแล้วจะแจ้งให้ทราบ
"ตอนนี้งานในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายไปเยอะแล้ว โดยให้รองนายกฯ รับภารกิจเพิ่มไปก่อน ซึ่งงานก็ยังเดินหน้าได้ตามปกติ " นายกรัฐมนตรี กล่าว
** "ปึ้ง"โยนสมาชิกเลือกหน.พรรค
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเสนอว่า บุคคลที่อยากให้เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคก็พร้อมจะรับฟัง และทุกคนที่ถูกเสนอชื่อขึ้นมา แต่ละคนก็เป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม และสมาชิกพรรคก็ยอมรับ แต่ท้ายสุดแล้วจะชัดเจนในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พรรคเพื่อไทย วันที่ 30 ต.ค. นี้ ทั้งนี้การคัดเลือกหัวหน้าพรรค ไม่ได้มีการมองว่า เป็นเครือญาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะสมาชิกมีสิทธิที่จะเสนอใครก็ได้
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ มีความรู้ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ทุกคนที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ามา ก็ทำงานได้ทั้งนั้น เพราะการที่ส.ส.เสนอชื่อ ก็ถือทำงานเข้าตาส.ส.แล้ว แต่ทั้งนี้คนที่ถูกเสนออาจจะถอนตัวก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองหรือไม่ว่า คนในตระกูลชินวัตร ไม่ควรจะเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า พรรคเพื่อไทย พลังประชาชน และไทยรักไทย ที่ผ่านมาทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ก่อตั้ง และพัฒนาพรรคจนเป็นที่ยอมรับของประชาชน และชนะการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงเชื่อว่า ทุกคนไม่ปฏิเสธ
เมื่อถามว่า หากนางเยาวภา ได้รับการคัดเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจริง คิดว่า จะต้านทานกระแสความไมเห็นด้วยจากสังคมได้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คนที่คัดค้านถึงยังไงก็คัดค้านอยู่แล้ว โดยเฉพาะฝ่ายค้าน เขาก็จะหยิบเรื่องนี้มาวิจารณ์อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หากนายกฯ เป็นน้องสาว หัวหน้าพรรคเป็นพี่สาว ไม่น่าเกลียดใช่ไหม นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้าเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น ก็ต้องยอมรับ อยู่ที่ ส.ส. และสมาชิกพรรคจะเลือกในการประชุม และไม่คิดว่าจะเป็นจุดอ่อนรัฐบาล เพราะคนที่ต้องการจะโจมตี ยังไงก็โจมตีอยู่แล้ว เราคงไปปฏิเสธความคิดเขาไม่ได้
**ปมสมาชิกภาพ"ยงยุทธ"ชัดเจนพ.ย.นี้
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องคุณสมบัติของ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีต ส.ส.และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าจากที่มีการผู้ร้องเข้ามารวม 4 คำร้อง แยกเป็น 1 คำร้องที่นายยงยุทธ ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติตัวเอง คณะอนุกรรมการเตรียมเสนอต่อกกต.ให้ยุติและจำหน่ายคำร้อง ส่วนที่เหลือ 3 คำร้องอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอนุกรรมการที่จะพิจารณาว่าการขาดจากสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของนายยงยุทธนั้น จะนับแต่เมื่อใด และจะมีผลย้อนหลังไปถึงการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 54 หรือไม่ รวมทั้งมีผลให้ต้องยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยคณะอนุกรรมการฯ จะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน นับแต่มีคำสั่งแต่งตั้ง ก่อนที่จะนำรายงานเข้าที่ประชุม กกต. แต่หากคณะอนุกรรมการฯ ต้องการขอขยายเวลาในการตรวจสอบก็สามารถทำได้ คาดว่าคำร้องของนายยงยุทธ น่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนพ.ย.นี้
** "เพื่อไทย"ใช้งบพม.แลกสมาชิกพรรค
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พูดในที่ประชุมส.ส.ของพรรค ว่า มีการใช้งบของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ส.ส. พรรคเพื่อไทย คนละ 1 ล้านบาท ในการไปหาสมาชิกพรรคว่า ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าไม่มีการนำเงินของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เป็นค่าตอบแทนในการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ข่าวดังกล่าวน่าจะเป็นการพูดในลักษณะที่ดูถูกประชาชนทั่วประเทศ และดูถูกสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่าหากใครเป็นสมาชิกพรรคต้องใช้เงินซื้อเข้ามา จึงขอท้าว่าหากนายบัญญัติพูดอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวจริง ก็ขอให้นำหลักฐานมาแฉต่อประชาชน และในสภา หรือจะยื่นร้องต่อกระบวนการยุติธรรมก็ได้ ไม่ใช่พูดลอยๆ ตีกินทางการเมือง ซึ่งไม่ใช่วิธีการของสุภาพบุรุษทางการเมือง
"ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย รับสมาชิกโดยเชิญชวนประชาชนให้เห็นถึงอุดมการณ์ ทุกคนเป็นสมาชิกด้วยความสมัครใจไม่เคยใช้เงินนำหน้าในการรับสมาชิกตามที่เป็นข่าว" นายพร้อมพงศ์ กล่าว