ASTVผู้จัดการรายวัน - ลูกชายหมอสุพัฒน์นำจดหมายจากผู้เป็นพ่อเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน ระบุพ่อต้องการให้สื่อรู้ข้อมูลอีกด้าน ตำหนิตำรวจตั้งข้อหารายวันไม่เป็นธรรมกับตนเอง ขณะจดหมายร่ายยาว พลิกปมกลับตาลปัตร อ้างพี่ชายปรักปรำหวังได้เงินและสมบัติ
วานนี้ (8 ต.ค.55) เวลาประมาณ 10.00น. นายเอก เลาหะวัฒนะ อายุ 30 ปี บุตรชาย พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ เดินทางไปเยี่ยมบิดาที่เรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี โดยใช้เวลาพูดคุยนานนับชั่วโมง ก่อนที่จะนำถ้อยคำ และข้อความที่ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เขียนด้วยลายมือจำนวน 9 หน้า ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน โดยนายเอก กล่าวว่า คุณพ่อได้ป่วยเป็นโรคเบาหวานจริง พร้อมยังเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องคดี โดยต้องการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากคุณพ่อมองว่าไม่ได้รับความยุติธรรม
ส่วนข้อความในกระดาษที่ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เขียนให้ลูกชาย มีใจความสำคัญว่า ตนไม่เคยมีเรื่องขัดใจอะไรที่รุนแรงกับครอบครัวนายสว่าง และนายสามารถ มีแต่ให้ความช่วยเหลือเรื่องการเงินกับนายสว่าง และช่วยให้บุตรสาวเข้าทำงานในโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนคำพูดในคลิปของแม่ที่ออกมาต่อว่าตนนั้น ปกติแม่มักจะเรียกชื่อลูกสลับกัน เนื่องจากเป็นโรงสมองเสื่อมรุนแรง ตนจึงได้ไปร้องต่อศาลขอเป็นผู้อนุบาลมารดา ซึ่งในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดี นายสุเทพและนางสุคนธ์ ลูกเลี้ยง ได้นำแม่ไปพิมพ์มือโอนขายที่ดินเป็นเงิน 200 ล้านบาท และโอนย้ายถ่ายเทเงินดังกล่าวไปจนหมด นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังซื้อยาให้แม่กินเอง จนทำให้แม่มีเลือดออกในกระเพาะ ช็อคจนต้องเข้าไอซียู และเมื่อพาไปพบแพทย์ก็ปกปิดประวัติ พร้อมกันนี้ ยังได้เขียนหมายเหตุไว้ในกระดาษอีก 1 หน้า โดยมีใจความว่า
นายสุเทพ มีโรงงานว่านหางจระเข้ขนาดใหญ่ สร้างบนที่ดินของตน โดยมีนายกะลา เป็นลูกน้องเก่า ซึ่งมีพฤติกรรมก้าวร้าว และมีคดีฆ่าคนตายเคยจำคุก โดยสิ่งที่นายกะลาพูดทั้งหมด เป็นเรื่องที่นายสุเทพสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อกลบเกลื่อนสิ่งที่ตนเองกระทำ
ด้านโฆษกโรงพยาลตำรวจ ได้เรียกตัวนางสาววิมล นุ่มจุ้ย พี่สาวนายสามารถ เข้าชี้แจง กรณีนายพลเทพ พลวิเชียร ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ยื่นเรื่องให้สอบวินัย นางสาววิมล หลังกล่าวหาว่า ตนมีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยา และอ้างว่า นายสว่าง จ้างวานให้ไปทำร้ายร่างกาย โดย น.ส.วิมล ยืนยันว่า นายพลเทพ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า 2 สามีภรรยา ค้ายาเสพติด และหลบหนีไปอยู่พม่า ขณะที่การทำร้ายร่างกายนายพลเทพ เชื่อว่าไม่เป็นเรื่องจริง เพราะนายสว่าง ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกับนายพลเทพมาก่อน
ส่วนการขุดหาศพและหลักฐานเพิ่มเติมภายในไร่ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ ในวันนี้ ตำรวจได้เลื่อนการเข้าขุดค้นออกไปก่อน หลังเกิดฝนตกในพื้นที่ตลอดทั้งวัน โดยตำรวจสามารถเข้าขุดค้นไปจนถึงวันที่ 10 ตุลาคม นี้ ตามที่ศาลอนุญาตมาก่อนหน้านี้
วานนี้ (8 ต.ค.55) เวลาประมาณ 10.00น. นายเอก เลาหะวัฒนะ อายุ 30 ปี บุตรชาย พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ เดินทางไปเยี่ยมบิดาที่เรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี โดยใช้เวลาพูดคุยนานนับชั่วโมง ก่อนที่จะนำถ้อยคำ และข้อความที่ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เขียนด้วยลายมือจำนวน 9 หน้า ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน โดยนายเอก กล่าวว่า คุณพ่อได้ป่วยเป็นโรคเบาหวานจริง พร้อมยังเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องคดี โดยต้องการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากคุณพ่อมองว่าไม่ได้รับความยุติธรรม
ส่วนข้อความในกระดาษที่ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ เขียนให้ลูกชาย มีใจความสำคัญว่า ตนไม่เคยมีเรื่องขัดใจอะไรที่รุนแรงกับครอบครัวนายสว่าง และนายสามารถ มีแต่ให้ความช่วยเหลือเรื่องการเงินกับนายสว่าง และช่วยให้บุตรสาวเข้าทำงานในโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนคำพูดในคลิปของแม่ที่ออกมาต่อว่าตนนั้น ปกติแม่มักจะเรียกชื่อลูกสลับกัน เนื่องจากเป็นโรงสมองเสื่อมรุนแรง ตนจึงได้ไปร้องต่อศาลขอเป็นผู้อนุบาลมารดา ซึ่งในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดี นายสุเทพและนางสุคนธ์ ลูกเลี้ยง ได้นำแม่ไปพิมพ์มือโอนขายที่ดินเป็นเงิน 200 ล้านบาท และโอนย้ายถ่ายเทเงินดังกล่าวไปจนหมด นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังซื้อยาให้แม่กินเอง จนทำให้แม่มีเลือดออกในกระเพาะ ช็อคจนต้องเข้าไอซียู และเมื่อพาไปพบแพทย์ก็ปกปิดประวัติ พร้อมกันนี้ ยังได้เขียนหมายเหตุไว้ในกระดาษอีก 1 หน้า โดยมีใจความว่า
นายสุเทพ มีโรงงานว่านหางจระเข้ขนาดใหญ่ สร้างบนที่ดินของตน โดยมีนายกะลา เป็นลูกน้องเก่า ซึ่งมีพฤติกรรมก้าวร้าว และมีคดีฆ่าคนตายเคยจำคุก โดยสิ่งที่นายกะลาพูดทั้งหมด เป็นเรื่องที่นายสุเทพสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อกลบเกลื่อนสิ่งที่ตนเองกระทำ
ด้านโฆษกโรงพยาลตำรวจ ได้เรียกตัวนางสาววิมล นุ่มจุ้ย พี่สาวนายสามารถ เข้าชี้แจง กรณีนายพลเทพ พลวิเชียร ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ยื่นเรื่องให้สอบวินัย นางสาววิมล หลังกล่าวหาว่า ตนมีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยา และอ้างว่า นายสว่าง จ้างวานให้ไปทำร้ายร่างกาย โดย น.ส.วิมล ยืนยันว่า นายพลเทพ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า 2 สามีภรรยา ค้ายาเสพติด และหลบหนีไปอยู่พม่า ขณะที่การทำร้ายร่างกายนายพลเทพ เชื่อว่าไม่เป็นเรื่องจริง เพราะนายสว่าง ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกับนายพลเทพมาก่อน
ส่วนการขุดหาศพและหลักฐานเพิ่มเติมภายในไร่ พ.ต.อ.นายแพทย์ สุพัฒน์ ในวันนี้ ตำรวจได้เลื่อนการเข้าขุดค้นออกไปก่อน หลังเกิดฝนตกในพื้นที่ตลอดทั้งวัน โดยตำรวจสามารถเข้าขุดค้นไปจนถึงวันที่ 10 ตุลาคม นี้ ตามที่ศาลอนุญาตมาก่อนหน้านี้