ASTVผู้จัดการรายวัน – “ไทยเบฟ” ปรับราคาขายเหล้าขาวและเหล้าสีแล้ว ขั้นต้น 3 บาทต่อขวด ยันเตรียมปรับอีกสูงสุด 15 บาท ในอนาคต รับภาษีสรรพสามิตแอลกอฮอล์ที่มีผลแล้ว
นายสวัสดิ์ โสภะ กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการผลิตสุราและเทคนิค บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนอนแอลกอฮอล์ ตรา ช้าง และมีแบรนด์ สุราสีและสุราขาว ในเครือจำนวนกว่า 10 แบรนด์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ปรับขึ้นใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว ในช่วงแรกบริษัทฯจึงได้ทำการปรับราคาจำหน่ายสุราขาวและสุราสี ขึ้นประมาณ 2-3 บาทต่อขวด แต่ก็ยังเป็นอัตราที่ต่ำกว่าฐานภาษีที่ปรับใหม่อยู่ดี เนื่องจกาาไม่ต้องการสร้างผลกระทบต่อผู้บริโภคมากนัก อีกทั้งจะไม่เป็นการกระทบต่อยอดขายรวมของบริษัทฯด้วย
แต่บริษัทฯก็มีแผนที่จะปรับราคาเพิ่มอีกในระยะยาว เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน ตามภาษีสรรพสามิตที่สูงขึ้น ประมาณ 5-15 บาท แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับขึ้นราคาอีกครั้งเมื่อใด
อย่างไรก็ตามในช่วงแรกคาดว่าผลกำไรของบริษัทฯอาจจะปรับลดลงไปบ้าง เช่น จากเดิมบริษัทฯจะมีกำไรเติบโต 10% ก็อาจจะปรับตัวลดลงเหลือ 7-8% ก็เป็นได้
ทั้งนี้ ตาม มติ ครม. เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตสุราและยาสูบเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้มีผลในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยปรับภาษีสรรพสามิต สุราขาวจากเดิมที่เก็บ 120 บาทต่อลิตรเพิ่มเป็น 150 บาทต่อลิตร สุราผสมจากเดิมที่เก็บ 300 บาทต่อลิตรเป็น 350 บาทต่อลิตร
สำหรับตลาดรวมสุราของไทยปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นตลาดสุราขาวประมาณ 70% และเป็นสุราสีอีก 30% ซึ่งคาดว่าในปีนี้ตลาดรวมอาจจะเติบโตประมาณ 2% ซึ่งจะต่ำกว่าปีก่อนที่ตลาดรวมเติบโต 3-5% เนื่องมาจากการปรับราคาจำหน่ายใหม่ขึ้นทั้งตลาด ที่คาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคบางกลุ่ม
แต่คาดว่า ในช่วงปลายปีนี้ที่เป็นฤดูการขายสินค้าจะทำให้ตลาดรวมกลับมาเติบโตได้ดีและคึกคักมากขึ้น ส่วนภาพรวมยอดขายกลุ่มสุราของบริษัทในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะเติบโตได้ 3-5% จากปีก่อน
นายสวัสดิ์ โสภะ กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการผลิตสุราและเทคนิค บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนอนแอลกอฮอล์ ตรา ช้าง และมีแบรนด์ สุราสีและสุราขาว ในเครือจำนวนกว่า 10 แบรนด์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ปรับขึ้นใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว ในช่วงแรกบริษัทฯจึงได้ทำการปรับราคาจำหน่ายสุราขาวและสุราสี ขึ้นประมาณ 2-3 บาทต่อขวด แต่ก็ยังเป็นอัตราที่ต่ำกว่าฐานภาษีที่ปรับใหม่อยู่ดี เนื่องจกาาไม่ต้องการสร้างผลกระทบต่อผู้บริโภคมากนัก อีกทั้งจะไม่เป็นการกระทบต่อยอดขายรวมของบริษัทฯด้วย
แต่บริษัทฯก็มีแผนที่จะปรับราคาเพิ่มอีกในระยะยาว เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน ตามภาษีสรรพสามิตที่สูงขึ้น ประมาณ 5-15 บาท แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับขึ้นราคาอีกครั้งเมื่อใด
อย่างไรก็ตามในช่วงแรกคาดว่าผลกำไรของบริษัทฯอาจจะปรับลดลงไปบ้าง เช่น จากเดิมบริษัทฯจะมีกำไรเติบโต 10% ก็อาจจะปรับตัวลดลงเหลือ 7-8% ก็เป็นได้
ทั้งนี้ ตาม มติ ครม. เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตสุราและยาสูบเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้มีผลในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยปรับภาษีสรรพสามิต สุราขาวจากเดิมที่เก็บ 120 บาทต่อลิตรเพิ่มเป็น 150 บาทต่อลิตร สุราผสมจากเดิมที่เก็บ 300 บาทต่อลิตรเป็น 350 บาทต่อลิตร
สำหรับตลาดรวมสุราของไทยปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นตลาดสุราขาวประมาณ 70% และเป็นสุราสีอีก 30% ซึ่งคาดว่าในปีนี้ตลาดรวมอาจจะเติบโตประมาณ 2% ซึ่งจะต่ำกว่าปีก่อนที่ตลาดรวมเติบโต 3-5% เนื่องมาจากการปรับราคาจำหน่ายใหม่ขึ้นทั้งตลาด ที่คาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคบางกลุ่ม
แต่คาดว่า ในช่วงปลายปีนี้ที่เป็นฤดูการขายสินค้าจะทำให้ตลาดรวมกลับมาเติบโตได้ดีและคึกคักมากขึ้น ส่วนภาพรวมยอดขายกลุ่มสุราของบริษัทในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะเติบโตได้ 3-5% จากปีก่อน