รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ "พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์" ออกจากราชการก่อน พร้อมระงับคำสั่งเออร์ลี่รีไทร์ หลังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าหมกไร่สับปะรด "ผบช.ภ.7" เผยรอผลดีเอ็นเอจ่อแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย ตร.ท่าไม้รวกนำตัวขออำนาจศาลฝากขังจันทร์นี้ "หมอสุพฒน์" เครียดนอนห้องขังวันแรก ญาติผู้สูญหาย-ชาวบ้านล้อมโรงพักชูป้ายเอาผิดตามกฎหมายให้ถึงที่สุด พ่อเหยื่อเข้าแจ้งความเพิ่ม “หมอ"กับ"เมีย" ฆ่าคนตายโดยเจตนา และอำพรางศพ ตำรวจขอหมายศาลขุดหาศพที่ 4 ต่อตามพยานระบุ
วานนี้ (23 ก.ย.) พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลตำรวจ ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นายแพทย์ (สบ 5) อายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยาชาว จ.เพชรบุรี เจ้าของไร่สับปะรดออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากขณะนี้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้ว ส่วนการเกษียณอายุก่อนกำหนดนั้น ได้ให้มีคำสั่งระงับทันที ทั้งนี้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยในคดีจึงได้ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนข้อเท็จจริง ควบคู่ไปกับการสอบสวนของตำรวจ เพราะยังถือว่าเป็นข้าราชการในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจอยู่ แม้จะทำเรื่องขอเกษียณอายุก่อนกำหนดไปแล้วก็ตาม
ขณะที่ พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจดีเอ็นเอ โครงกระดูกโครงแรกที่พบในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบดีเอ็นเอ ว่า ตรงกับพ่อและแม่หรือไม่ จากสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ คาดว่าในวันจันทร์หรือวันอังคารนี้น่าจะทราบผล
"หากผลตรวจดีเอ็นเอ โครงกระดูกที่พบรายใดรายหนึ่งยืนยันว่าเป็น 2 สามีภรรยาที่หายตัวไป พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าคนตายอีก 1 ข้อหา ส่วนโครงกระดูกที่พบในไร่อีก 2 โครงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำส่งนิติเวชในวันจันทร์ที่ 24 ก.ย.นี้ในช่วงเช้า ซึ่งเจ้าตัวนั้นยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ให้ความร่วมมือในเจ้าหน้าที่ โดยขอต่อสู้ในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งก็เป็นสิทธิที่ทำได้" ผบช.ภ.7
**"ตร.หมอ"เครียด - จนท.ขุดหาศพที่ 4
ข่าวแจ้งว่า หลังจากค่ำวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้ควบคุมตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไปสอบสวนปากคำยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น จากนั้นเวลา 02.00 น.ของวานนี้ (23 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ได้นำตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฆด 6808 กรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาไว้ที่ สภ.ท่าไม้รวกด้วย ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มีอาการค่อนข้างเครียด และวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้นอนไม่หลับ ไม่ยอมทานข้าว ขอเพียงน้ำดื่มกับทางตำรวจเท่านั้น
ต่อมาช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบิกตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง หลังจากผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธไปก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรยากาศที่ สภ.ท่าไม้รวก ตั้งแต่เช้าเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ยังไร้ญาติมาเยี่ยม มีเพียงบุคคลที่สนิทกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไม่กี่คนเท่านั้นที่แวะมาเยี่ยม พร้อมนำข้าวใส่ปิ่นโตมาให้รับประทาน อีกทั้งยังไม่มีการขอยื่นประกันตัวแต่อย่างใด
พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมควบคุมตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไปขออำนาจศาลจังหวัดเพชรบุรี ฝากขังช่วงสายวันจันทร์ที่ 24 ก.ย.นี้ พร้อมสั่งการให้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีและเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ นอกจากนี้ยังรอหมายค้นจากศาลอยู่ ถ้าได้จะเร่งไปตรวจค้นเพิ่มทันที
ส่วนกรณีการขุดค้นหาศพที่มีพยานระบุว่ามีถึง 4 ศพที่ถูกฝังภายในไร่ที่ขุดพบแล้วจำนวน 3 ศพนั้น เมื่อวานนี้ พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขออนุมัติหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อดำเนินการขุดค้นหาศพต่อ ทั้งนี้ ในระหว่างการขุดเมื่อช่วงบ่ายได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การขุดค้นหาศพผู้สุญหายเป้นไปด้วยความยากลำบาก
**พ่อเหยื่อแจ้งความเพิ่ม - แฉโดนข่มขู่
ต่อมาเช้าวันเดียวกัน (23 ก.ย.) นายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของนายสามารถ นุ่มจุ้ย ที่สูญหายได้เดินทางมาที่ สภ.ท่าไม้รวก พร้อมยื่นหนังสือต่อ ร.ต.อ.ชายชาญ กมุทชาติ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านลาด ช่วยราชการ สภ.ท่าไม้รวก ขอแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ และ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยา ในข้อหาฆ่านายสามารถ นุ่มจุ้ย บุตรชายตายโดยเจตนาและอำพรางศพ ด้วยหลักฐานและเหตุผลที่สำคัญคือ
1.เมื่อวันที่ 15 ก.ย.55 นายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้พา น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย บุตรสาวไปที่บ้านของ น.ส.วิลสา ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และได้พบรถยนต์กระบะ ซึ่งเป็นรถของบุตรชายตนถูกจอดทิ้งไว้ในบ้านหลังดังกล่าวโดยรถที่พบนั้นหายไปพร้อมกับบุตรชาย และบุตรสะใภ้ของตนเมื่อ 3 ปีก่อน
2.หลังพบรถยนต์กระบะในบ้านของภรรยานายแพทย์ที่ จ.นนทบุรี ตนได้โทรศัพท์ไปหา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และไต่ถามเกี่ยวกับการหายตัวไปของบุตรชายและบุตรสะใภ้ แต่กลับถูก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ปฏิเสธและข่มขู่ให้ระวังตัวจะอยู่ไม่ได้ และขอให้หยุดการเปิดโปงเรื่องนี้และยังบอกอีกว่า "เขามีพวกมาก ผมไม่มีทางชนะเขาได้หรอก" จนกระทั่งต่อมาเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 ก.ย.55 ซึ่งเป็นวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขุดค้นหาศพที่บริเวณไร่หลังบ้านของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และได้ขุดพบโครงกระดูกของนายสามารถ ที่ถูกฝังไว้ในไร่ที่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าที่กะโหลกศีรษะมีรูกระสุนที่กกหูซ้าย และพบเสื้อกางเกงที่ซากศพ และฟัน
"ผมมั่นใจว่าเป็นของนายสามารถ บุตรชาย อีกทั้งสถานที่พบศพยังเป็นไปตามคำบอกเล่าของผู้ให้ข้อมูลมาว่า พบเห็น พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ใช้อาวุธปืนยิงก่อนที่จะนำศพไปฝังดินไว้ในไร่ดังกล่าว" นายสว่าง กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเช้าวานนี้ ได้มีญาติพี่น้องของผู้สูญหายและชาวบ้านในพื้นที่ป้ายคัดค้านการให้ประกันตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่บริเวณหน้า สภ.ท่าไม้รวก และคัดค้านผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้าช่วยเหลือ พร้อมวอนให้ตำรวจดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายอย่าใช้อำนาจหน้าที่ปกป้องคนผิด
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไปแล้ว 3 ข้อหาได้แก่ 1.ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ 2.รับซื้อของโจร และ 3.กักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา จะต้องรอผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ของโครงกระดูกออกมาก่อน จึงจะแจ้งเพิ่มเติมอีก.
วานนี้ (23 ก.ย.) พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลตำรวจ ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นายแพทย์ (สบ 5) อายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยาชาว จ.เพชรบุรี เจ้าของไร่สับปะรดออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากขณะนี้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้ว ส่วนการเกษียณอายุก่อนกำหนดนั้น ได้ให้มีคำสั่งระงับทันที ทั้งนี้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยในคดีจึงได้ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนข้อเท็จจริง ควบคู่ไปกับการสอบสวนของตำรวจ เพราะยังถือว่าเป็นข้าราชการในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจอยู่ แม้จะทำเรื่องขอเกษียณอายุก่อนกำหนดไปแล้วก็ตาม
ขณะที่ พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจดีเอ็นเอ โครงกระดูกโครงแรกที่พบในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบดีเอ็นเอ ว่า ตรงกับพ่อและแม่หรือไม่ จากสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ คาดว่าในวันจันทร์หรือวันอังคารนี้น่าจะทราบผล
"หากผลตรวจดีเอ็นเอ โครงกระดูกที่พบรายใดรายหนึ่งยืนยันว่าเป็น 2 สามีภรรยาที่หายตัวไป พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าคนตายอีก 1 ข้อหา ส่วนโครงกระดูกที่พบในไร่อีก 2 โครงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำส่งนิติเวชในวันจันทร์ที่ 24 ก.ย.นี้ในช่วงเช้า ซึ่งเจ้าตัวนั้นยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ให้ความร่วมมือในเจ้าหน้าที่ โดยขอต่อสู้ในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งก็เป็นสิทธิที่ทำได้" ผบช.ภ.7
**"ตร.หมอ"เครียด - จนท.ขุดหาศพที่ 4
ข่าวแจ้งว่า หลังจากค่ำวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้ควบคุมตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไปสอบสวนปากคำยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น จากนั้นเวลา 02.00 น.ของวานนี้ (23 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ได้นำตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฆด 6808 กรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาไว้ที่ สภ.ท่าไม้รวกด้วย ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มีอาการค่อนข้างเครียด และวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้นอนไม่หลับ ไม่ยอมทานข้าว ขอเพียงน้ำดื่มกับทางตำรวจเท่านั้น
ต่อมาช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบิกตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง หลังจากผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธไปก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรยากาศที่ สภ.ท่าไม้รวก ตั้งแต่เช้าเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ยังไร้ญาติมาเยี่ยม มีเพียงบุคคลที่สนิทกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไม่กี่คนเท่านั้นที่แวะมาเยี่ยม พร้อมนำข้าวใส่ปิ่นโตมาให้รับประทาน อีกทั้งยังไม่มีการขอยื่นประกันตัวแต่อย่างใด
พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมควบคุมตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไปขออำนาจศาลจังหวัดเพชรบุรี ฝากขังช่วงสายวันจันทร์ที่ 24 ก.ย.นี้ พร้อมสั่งการให้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีและเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ นอกจากนี้ยังรอหมายค้นจากศาลอยู่ ถ้าได้จะเร่งไปตรวจค้นเพิ่มทันที
ส่วนกรณีการขุดค้นหาศพที่มีพยานระบุว่ามีถึง 4 ศพที่ถูกฝังภายในไร่ที่ขุดพบแล้วจำนวน 3 ศพนั้น เมื่อวานนี้ พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขออนุมัติหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อดำเนินการขุดค้นหาศพต่อ ทั้งนี้ ในระหว่างการขุดเมื่อช่วงบ่ายได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การขุดค้นหาศพผู้สุญหายเป้นไปด้วยความยากลำบาก
**พ่อเหยื่อแจ้งความเพิ่ม - แฉโดนข่มขู่
ต่อมาเช้าวันเดียวกัน (23 ก.ย.) นายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของนายสามารถ นุ่มจุ้ย ที่สูญหายได้เดินทางมาที่ สภ.ท่าไม้รวก พร้อมยื่นหนังสือต่อ ร.ต.อ.ชายชาญ กมุทชาติ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านลาด ช่วยราชการ สภ.ท่าไม้รวก ขอแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ และ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยา ในข้อหาฆ่านายสามารถ นุ่มจุ้ย บุตรชายตายโดยเจตนาและอำพรางศพ ด้วยหลักฐานและเหตุผลที่สำคัญคือ
1.เมื่อวันที่ 15 ก.ย.55 นายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้พา น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย บุตรสาวไปที่บ้านของ น.ส.วิลสา ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และได้พบรถยนต์กระบะ ซึ่งเป็นรถของบุตรชายตนถูกจอดทิ้งไว้ในบ้านหลังดังกล่าวโดยรถที่พบนั้นหายไปพร้อมกับบุตรชาย และบุตรสะใภ้ของตนเมื่อ 3 ปีก่อน
2.หลังพบรถยนต์กระบะในบ้านของภรรยานายแพทย์ที่ จ.นนทบุรี ตนได้โทรศัพท์ไปหา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และไต่ถามเกี่ยวกับการหายตัวไปของบุตรชายและบุตรสะใภ้ แต่กลับถูก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ปฏิเสธและข่มขู่ให้ระวังตัวจะอยู่ไม่ได้ และขอให้หยุดการเปิดโปงเรื่องนี้และยังบอกอีกว่า "เขามีพวกมาก ผมไม่มีทางชนะเขาได้หรอก" จนกระทั่งต่อมาเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 ก.ย.55 ซึ่งเป็นวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขุดค้นหาศพที่บริเวณไร่หลังบ้านของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และได้ขุดพบโครงกระดูกของนายสามารถ ที่ถูกฝังไว้ในไร่ที่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าที่กะโหลกศีรษะมีรูกระสุนที่กกหูซ้าย และพบเสื้อกางเกงที่ซากศพ และฟัน
"ผมมั่นใจว่าเป็นของนายสามารถ บุตรชาย อีกทั้งสถานที่พบศพยังเป็นไปตามคำบอกเล่าของผู้ให้ข้อมูลมาว่า พบเห็น พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ ใช้อาวุธปืนยิงก่อนที่จะนำศพไปฝังดินไว้ในไร่ดังกล่าว" นายสว่าง กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเช้าวานนี้ ได้มีญาติพี่น้องของผู้สูญหายและชาวบ้านในพื้นที่ป้ายคัดค้านการให้ประกันตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่บริเวณหน้า สภ.ท่าไม้รวก และคัดค้านผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้าช่วยเหลือ พร้อมวอนให้ตำรวจดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายอย่าใช้อำนาจหน้าที่ปกป้องคนผิด
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไปแล้ว 3 ข้อหาได้แก่ 1.ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ 2.รับซื้อของโจร และ 3.กักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา จะต้องรอผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ของโครงกระดูกออกมาก่อน จึงจะแจ้งเพิ่มเติมอีก.