วานนี้ (20 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายนริศ ขำนุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร แถลงชื่นชมการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย โดยเฉพาะ นายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ที่สามารถจับกุมผู้บุกรุกป่าพรุควนเคร็ง ยึดพื้นที่คืน และดำเนินคดีกับผู้บุกรุกได้ โดยดำเนินคดี สค.1 ปลอม 33 ฉบับ พื้นที่ 1,523 ไร่ พื้นที่สค.1 ผิดตำแหน่ง 10 ฉบับ จำนวน 317 ไร่ เพิกถอน นส.3 ก. ออกโดยมิชอบ 29 ฉบับ เนื้อที่ 1,269 ไร่ และอยู่ระหว่างดำเนินการอีกหลายแปลง
นายนริศ กล่าวว่า กมธ.ได้ติดตามตรวจสอบพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ใน 3 จังหวัด คือ จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช และสงขลา พื้นที่กว่า 12,179 ไร่ ซึ่งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย 7,336 ไร่ พื้นที่เตรียมการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ 3,459 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติ 1,347 ไร่ และพื้นที่ สปก. 37 ไร่ ซึ่งขณะนี้ดับไฟได้แล้ว 100% โดยสาเหตุหลักของไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง เกิดจากการจุดไฟเผาป่าให้มีสภาพเสื่อมโทรม และเข้าไปจับจองพื้นที่ทำกิน โดยในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งที่ถูกบุกรุก ขณะนี้ปรากฏเป็นข่าวว่า มีนักการเมืองเข้าไปบุกรุกในพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น ยืนยันว่าไม่ใช่นักการเมืองระดับชาติ แต่จะเป็นนอมินีหรือไม่ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกที โดยผลการตรวจสอบการบุกรุกที่ทางพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย รายงานมายังกมธ. แยกเป็น อ.ควนขนุน จ.พัทลุง มีผู้ถูกจับกุม 25 ราย ผู้ถือครองอยู่ระหว่างตรวจสอบ 38 ราย ผู้ถูกเพิกถอนนส.3 ก. 15 ราย อยู่ระหว่างการเสนอให้กรมอุทยานเพิกถอน 1 ราย อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ถูกจับกุม 50 ราย ผู้ถือครองอยู่ระหว่างตรวจสอบ 151 ราย อยู่ระหว่างการเสนอให้กรมอุทยานเพิกถอน 1 ราย และ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ถูกจับกุม 28 ราย ผู้ถือครองอยู่ระหว่างตรวจสอบ 4 ราย อยู่ระหว่างการเพิกถอนของกรมที่ดิน 21 ราย และ จ.สงขลา มีผู้ถูกจับกุม 2 ราย ผู้ถือครองอยู่ระหว่างตรวจสอบ 12 ราย และผู้ถูกเพิกถอนนส.3 ก. 15 ราย
นายนริศ กล่าวอีกว่า ได้มีมติกมธ.ส่งเรื่องไปยังสำนักงานปปง. ให้ตรวจสอบผู้บุกรุกทั้งหมด ว่าเป็นนอมินีของใครหรือไม่ เพราะมีผู้ถือครองที่ดินในรูปบริษัท 3-4 ราย แปลงละกว่า 1 พันไร่ รวมทั้งจะเร่งรัดไปยังกรมที่ดิน และกรมอุทยานฯ ให้ดำเนินการเพิกถอนสิทธิการครอบครองของผู้ที่ถูกบุกรุก น
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ผลการตรวจสอบผู้บุกรกุพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งของกรมอุทยานที่รายงานมา ยังกมธ.กลับไม่มีรายชื่อของผู้บุกรุกจำนวน 2 ราย ในพื้นที่ จ.สงขลา และพัทลุง ซึ่งขณะนี้ทางกมธ.ได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังกรมอุทยาน ว่ามีเจตนาหรือบกพร่องในการทำหนังสืออย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 2 รายชื่อที่ทางกรมยุทยานตัดออก ไม่เสนอมายังกมธ. เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่จ.สงขลา 1 ราย และ จ.พัทลุง 1 ราย ซึ่งแต่ละรายครอบครองที่ดินกว่าพันไร่
นายนริศ กล่าวว่า กมธ.ได้ติดตามตรวจสอบพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ใน 3 จังหวัด คือ จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช และสงขลา พื้นที่กว่า 12,179 ไร่ ซึ่งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย 7,336 ไร่ พื้นที่เตรียมการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ 3,459 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติ 1,347 ไร่ และพื้นที่ สปก. 37 ไร่ ซึ่งขณะนี้ดับไฟได้แล้ว 100% โดยสาเหตุหลักของไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง เกิดจากการจุดไฟเผาป่าให้มีสภาพเสื่อมโทรม และเข้าไปจับจองพื้นที่ทำกิน โดยในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งที่ถูกบุกรุก ขณะนี้ปรากฏเป็นข่าวว่า มีนักการเมืองเข้าไปบุกรุกในพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น ยืนยันว่าไม่ใช่นักการเมืองระดับชาติ แต่จะเป็นนอมินีหรือไม่ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกที โดยผลการตรวจสอบการบุกรุกที่ทางพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย รายงานมายังกมธ. แยกเป็น อ.ควนขนุน จ.พัทลุง มีผู้ถูกจับกุม 25 ราย ผู้ถือครองอยู่ระหว่างตรวจสอบ 38 ราย ผู้ถูกเพิกถอนนส.3 ก. 15 ราย อยู่ระหว่างการเสนอให้กรมอุทยานเพิกถอน 1 ราย อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ถูกจับกุม 50 ราย ผู้ถือครองอยู่ระหว่างตรวจสอบ 151 ราย อยู่ระหว่างการเสนอให้กรมอุทยานเพิกถอน 1 ราย และ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ถูกจับกุม 28 ราย ผู้ถือครองอยู่ระหว่างตรวจสอบ 4 ราย อยู่ระหว่างการเพิกถอนของกรมที่ดิน 21 ราย และ จ.สงขลา มีผู้ถูกจับกุม 2 ราย ผู้ถือครองอยู่ระหว่างตรวจสอบ 12 ราย และผู้ถูกเพิกถอนนส.3 ก. 15 ราย
นายนริศ กล่าวอีกว่า ได้มีมติกมธ.ส่งเรื่องไปยังสำนักงานปปง. ให้ตรวจสอบผู้บุกรุกทั้งหมด ว่าเป็นนอมินีของใครหรือไม่ เพราะมีผู้ถือครองที่ดินในรูปบริษัท 3-4 ราย แปลงละกว่า 1 พันไร่ รวมทั้งจะเร่งรัดไปยังกรมที่ดิน และกรมอุทยานฯ ให้ดำเนินการเพิกถอนสิทธิการครอบครองของผู้ที่ถูกบุกรุก น
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ผลการตรวจสอบผู้บุกรกุพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งของกรมอุทยานที่รายงานมา ยังกมธ.กลับไม่มีรายชื่อของผู้บุกรุกจำนวน 2 ราย ในพื้นที่ จ.สงขลา และพัทลุง ซึ่งขณะนี้ทางกมธ.ได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังกรมอุทยาน ว่ามีเจตนาหรือบกพร่องในการทำหนังสืออย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 2 รายชื่อที่ทางกรมยุทยานตัดออก ไม่เสนอมายังกมธ. เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่จ.สงขลา 1 ราย และ จ.พัทลุง 1 ราย ซึ่งแต่ละรายครอบครองที่ดินกว่าพันไร่