เมื่อวานนี้ ( 19 ก.ย.) ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดง ที่ 1659/2555 และคดีหมายเลขแดง ที่ 1660/2555 เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ในข้อพิพาทระหว่าง บมจ.ทีโอที กับ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมี นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล เป็นประธานคณะอนุญาโตตุลาการ ตามที่ บมจ.ทีโอที ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ชี้ขาดให้บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มีสิทธิได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการที่ บมจ.ทีโอที นำบริการพิเศษมาใช้ผ่านโครงข่ายของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ตามสัญญาร่วมงานระหว่าง บมจ.ทีโอที-บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยให้ บมจ.ทีโอที แบ่งผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับจริงเฉพาะส่วนที่นำมาผ่านโครงข่ายของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่นในอัตราร้อยละ 50 ส่วนกรณีที่ไม่อาจคำนวณแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนได้ ให้ถือว่า ส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนจากการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีจำนวนเป็นสัดส่วนของจำนวนหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานของโครงข่าย บมจ.ทีโอที โครงข่าย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และโครงข่าย บมจ.ทีทีแอนด์ที และให้ถือว่าส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนของบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มีจำนวนเท่ากับผลลัพธ์ของจำนวนเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานที่มีผู้ใช้โครงข่าย บมจ.ทรูคอร์ ปอเรชั่นในปี 2540 คูณด้วยจำนวนผลประโยชน์ตอบแทนทั้งหมดที่ บมจ.ทีโอที ได้รับจากการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่กับจำนวนหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานของโครงข่าย บมจ.ทีโอที โครงข่าย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และโครงข่าย บมจ.ทีทีแอนด์ที แล้วหารด้วยจำนวนหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานที่มีผู้ใช้ใน 2540 ของทั้ง 3โครงข่าย ผลลัพธ์ที่เป็นส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนเฉพาะส่วนโครงข่ายของ บมจ.ทรูคอร์ ปอเรชั่น ให้ บมจ.ทีโอที นำมาคำนวณแบ่งให้ บมจ.ทรู คอร์ ปอเรชั่นในอัตราร้อยละ 50 ของผลลัพธ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการดังกล่าว เป็นคำชี้ขาดที่ไม่ชอบด้วยสัญญาร่วมงาน ระหว่าง บมจ.ทีโอที กับ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการดังกล่าว เป็นคำชี้ขาดที่ไม่ชอบด้วยสัญญาร่วมงาน ระหว่าง บมจ.ทีโอที กับ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
