นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกำหนดการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ครั้งที่ 7 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 21 - 22 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ว่า คงต้องดูว่าสุดท้ายแล้วจะลงพื้นที่จังหวัดใดบ้าง ยืนยันว่า รัฐบาลสามารถไปจัดการประชุมได้ทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เพราะพี่น้องชาวใต้มีเหตุผล อีกทั้งการประชุม ครม.สัญจร คือโอกาสของประชาชนและท้องถิ่น ในการที่รัฐบาล และงบประมาณจะลงไปถึง เพื่อโอกาสในการพัฒนาและแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นคงเป็นคนละวาระกับความขัดแย้งทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้วางสถานะทางการเมือง หรือเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งมาเลย ตั้งแต่ต้น เชื่อว่าการเดินทางไปของนายกฯ ทุกจังหวัดในครั้งนี้ น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ และความมั่นคง ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่ ที่คนใต้ต้องการให้รัฐบาลไปแก้ไข นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่สำคัญคงเป็นเรื่องการทำกิน และโอกาสประกอบอาชีพด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว งานบริการ หรือการประกอบการภาคเอกชน คนใต้ ก็ต้องการได้รับการแก้ปัญหาไม่ต่างจากภูมิภาคอื่น ครั้งนี้นายกฯ ก็ตั้งใจที่จะลงไปสัมผัสกับข้อเท็จจริงในพื้นที่ เชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดี
" มั่นใจว่าพี่น้องชาวใต้ รอคอยการประชุม ครม.ของรัฐบาลชุดนี้อยู่ โดยผมจะร่วมคณะของนายกฯ ลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 14 ก.ย. เพื่อไปดูการแก้ไขปัญหาในบ้านเกิดของผม ว่าเป็นอย่างไร อีกทั้งจะได้ช่วยเป็นปากเป็นเสียง เพื่อสะท้อนความต้องการของประชาชนต่อนายกฯ อีกทางหนึ่งด้วย" นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ที่นายณัฐวุฒิ อาจถูกปรับออก และให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ามาแทนที่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรี คงไม่ถือเป็นโควต้าของคนเสื้อแดง หรือกลุ่ม นปช. เราเป็นเพียงผู้เล่นเท่านั้น และการปรับ ครม. เป็นเรื่องที่นายกฯ จะตัดสินใจ เราไม่มีเงื่อนไข และนายจตุพร ก็เป็นผู้ที่มีความสามารถไม่เป็นรองใคร สามารถเป็นรัฐมนตรีได้เช่นกัน ยืนยันว่าตนกับนายจตุพร ไม่มีเรื่องบาดหมางใจกัน ในเรื่องตำแหน่ง อีกทั้งมีการพูดคุย พบปะกันประจำทุกวัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ และความมั่นคง ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่ ที่คนใต้ต้องการให้รัฐบาลไปแก้ไข นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่สำคัญคงเป็นเรื่องการทำกิน และโอกาสประกอบอาชีพด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว งานบริการ หรือการประกอบการภาคเอกชน คนใต้ ก็ต้องการได้รับการแก้ปัญหาไม่ต่างจากภูมิภาคอื่น ครั้งนี้นายกฯ ก็ตั้งใจที่จะลงไปสัมผัสกับข้อเท็จจริงในพื้นที่ เชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดี
" มั่นใจว่าพี่น้องชาวใต้ รอคอยการประชุม ครม.ของรัฐบาลชุดนี้อยู่ โดยผมจะร่วมคณะของนายกฯ ลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 14 ก.ย. เพื่อไปดูการแก้ไขปัญหาในบ้านเกิดของผม ว่าเป็นอย่างไร อีกทั้งจะได้ช่วยเป็นปากเป็นเสียง เพื่อสะท้อนความต้องการของประชาชนต่อนายกฯ อีกทางหนึ่งด้วย" นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ที่นายณัฐวุฒิ อาจถูกปรับออก และให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ามาแทนที่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรี คงไม่ถือเป็นโควต้าของคนเสื้อแดง หรือกลุ่ม นปช. เราเป็นเพียงผู้เล่นเท่านั้น และการปรับ ครม. เป็นเรื่องที่นายกฯ จะตัดสินใจ เราไม่มีเงื่อนไข และนายจตุพร ก็เป็นผู้ที่มีความสามารถไม่เป็นรองใคร สามารถเป็นรัฐมนตรีได้เช่นกัน ยืนยันว่าตนกับนายจตุพร ไม่มีเรื่องบาดหมางใจกัน ในเรื่องตำแหน่ง อีกทั้งมีการพูดคุย พบปะกันประจำทุกวัน