วานนี้ (11 ก.ย.55) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนเองได้ลงนามบัญชีการเต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2556 เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
** แย้ม”แม่ทัพ1”ถึงเวล 5 เสือทบ.
ที่วิทยาลัยการทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ความเป็นห่วงว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลอาจจะล่าช้า เนื่องจากต้องรอคำวินิจฉัยของศาลปกครอง ที่พล.อ.เสถียรเพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นฟ้องพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมว่า เป็นเรื่องของศาลปกครอง ที่ศาลปกครองต้องว่าไป จะถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ศาลต้องพิจารณากันไป แต่การประชุมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพลของคณะกรรมการได้ผ่านไปแล้ว แต่ถ้าศาลปกครองบอกว่า ประชุมไม่ได้ก็ประชุมใหม่ ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะคนยังอยู่ที่เก่า ทุกคนก็อยู่หมด ถ้าบอกว่าเข้าประชุมกันไม่ได้หรือไม่ได้เข้าประชุมก็เชิญมาประชุมใหม่ ถ้าบอกเข้าได้ก็เข้ามา ก็แค่นั้น ยังมีเวลา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่มีการแต่งตั้งพล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 1อาจจะต้องโตเข้ามาอยู่ในไลน์ 5 เสือทบ.แต่ถ้ายังไม่มีก็ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิไปก่อนเพื่อรอเวลา แต่ถ้ามีตำแหน่งว่างก็ได้เป็น ขณะนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะปรับหรือโยกย้ายกันได้หรือไม่ หรือตำแหน่งพอหรือไม่ที่จะนำที่คนเกษียณขึ้นไปดำรงตำแหน่งจอมพล หรือไปเป็นพล.อ. ในส่วนของ 5 เสือ ทบ.จะโตมาในสองส่วน คือ จากกองทัพในตำแหน่ง พล.ท. ที่จะเข้ามาอยู่ในไลน์ 5 เสือ 1-2 คน
**ยันไม่มีทายาทสืบทอดอำนาจทหาร
ส่วนที่เหลืออีก 1-2 คนจะต้องมาจากกรมฝ่ายเสนาธิการ เพื่อที่จะโตขึ้นมาดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.ต่อไปในอนาคต ซึ่งจะต้องมาช่วยกันทำงาน การที่สื่อใช้คำว่าแม่ทัพภาคที่1 ผงาดขึ้นมาเป็นเสนาธิการทหารบกนั้น อยากถามว่าผงาดอย่างไร เพราะเสนาธิการจะผงาดได้หรือไม่ ถ้าผงาดขึ้นมาผบ.ทบ.ก็จะเอาตาย จะผงาดได้หรือ ทั้ง 5 คนจะต้องร่วมกันทำงาน ไม่มีการแบ่งแยก เป็นพี่น้องกันทั้งนั้น เพราะโตมาด้วยกัน อย่ามาบอกว่ามีทายาท ตนไม่มีอะไรปะข้างหลังถึงจะต้องมีทายาท ทายาทของตนคือลูกสาว แต่ทายาททางทหารไม่มี ซึ่งทหารจะต้องโตเพื่อปกครองกองทัพ อย่าทำตัวเป็นพยาธิ
** “วิทวัส” ปัด“เจ๊ ด.”ดันทนงศักดิ์
พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นเรื่องร้องศาลปกครองให้คุ้มครองจากคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม ว่า หากศาลปกครองรับคำร้องก็ไม่มีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพลในปีนี้ เพราะว่ากระบวนการพิจารณานั้น ดำเนินด้วยคณะกรรมการที่เป็นไปตามกฎหมาย ของระเบียบกระทรวงกลาโหม ที่เข้าร่วมประชุม 2 ใน 3 ถือว่าถูกต้อง
"ผมไม่สามารถบอกได้ว่า พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) จะขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมตามที่มีการเสนอข่าวหรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นความลับและต้องรักษาจรรยาบรรณในเรื่องความลับ รวมถึงยังไม่มีพระบรมราชโองการ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีชื่อ เจ๊ ด. เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งแน่นอน และไม่มีแรงกระเพื่อมในกองทัพ เพราะขั้นตอนการแต่งตั้งทำตามหลักเกณฑ์และคุณธรรม" พล.อ.วิทวัสระบุ
**ทนายเชื่อศาลปค.เพิกถอนโผได้
นายธนพนธ์ ชูชยานนท์ ทนายความของ พลเอกเสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และพลเอกชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในคำร้องขอให้ศาลปกครองสั่งทุเลาการบังคับใช้คำสั่งของ พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ทั้ง 2 นาย ไปช่วยราชการ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กรณีที่ คณะรัฐมนตรี ได้รับรองรายชื่อโยกย้ายนายทหารระดับพลเอก ประจำปี 2556 แล้ว โดยไม่รอคำสั่งศาลปกครอง จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต เนื่องจาก พลเอกเสถียร ไม่ได้เข้าร่วมประชุมพิจารณารายชื่อด้วย และไม่ได้มีหนังสือเชิญให้เข้าร่วมประชุมบอร์ด
กระทรวงได้
"ที่เขาอ้างว่า สมบูรณ์ แต่ทางเราก็มีสิทธิ์ร้องขอให้เพิกถอกลาโหม ถือว่า การพิจารณาไม่สมบูรณ์ตามขั้นตอน หากศาลฯมีคำสั่งทุเลาคำสั่ง สามารถที่จะร้องขอให้ศาลฯ เพิกถอนคำสั่งนายกรัฐมนตรี หรือ มติคณะรัฐมนตรีนคำสั่งตรงนั้นได้ เพราะคุณไม่มีหนังสือเชิญ พลเอกเสถียร เข้ามาประชุม ตอนนี้ทางเรากำลังหารือว่า จะดำเนินคดีอาญากับผู้แจ้งประชุมได้ไหม ว่าทำไมคุณไม่เชิญปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าประชุม กำลังหาลู่ทาง หาข้อกฎหมายอยู่ว่า จะดำเนินคดี 157 ได้หรือไม่" ธนพนธ์ กล่าว
ทั้งนี้ ทนายความของพลเอกเสถียร ยังได้เปิดเผยว่า จากการติดตามกระบวนพิจารณาคดีของศาลปกครอง ได้รับแจ้งจากนิติกรเจ้าของคดี ได้รับข้อมูลว่าในคำร้องขอให้ศาลฯทุเลาการบังคับใช้คำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจได้รับความชัดเจนในวันพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 18.00น. รายงานข่าวจากสำนักงานศาลปกครองแจ้งว่า ทางตุลาการศาลปกครองได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 1746/2555 ที่พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และคดีหมายเลขดำที่1747/2555พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นฟ้องรมว.กลาโหม ขอให้เพิกถอนคำสั่ง กระทรวงกลาโหม(เฉพาะ) ที่383/55 เรื่องให้พล.อ.เสถียร และพล.อ.ชาตรี ไปช่วยปฏิบัติราชการที่สำนักรัฐมนตรีกระทวงกลาโหม ฉบับลงวันที่ 27 ส.ค. 55 เนื่องจากเห็นว่าเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยทั้งสองขอให้ศาลสั่งทุเลาการบังคับใช้คำสั่งทางปกครองนั้น ขณะที่ศาลได้มีคำสั่งในเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นไปตามกระบวนการปกติ คือทางศาลจะจัดส่งคำสั่งไปให้คู่กรณีทั้งสองทางไปรษณีย์
** แย้ม”แม่ทัพ1”ถึงเวล 5 เสือทบ.
ที่วิทยาลัยการทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ความเป็นห่วงว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลอาจจะล่าช้า เนื่องจากต้องรอคำวินิจฉัยของศาลปกครอง ที่พล.อ.เสถียรเพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นฟ้องพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมว่า เป็นเรื่องของศาลปกครอง ที่ศาลปกครองต้องว่าไป จะถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ศาลต้องพิจารณากันไป แต่การประชุมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพลของคณะกรรมการได้ผ่านไปแล้ว แต่ถ้าศาลปกครองบอกว่า ประชุมไม่ได้ก็ประชุมใหม่ ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะคนยังอยู่ที่เก่า ทุกคนก็อยู่หมด ถ้าบอกว่าเข้าประชุมกันไม่ได้หรือไม่ได้เข้าประชุมก็เชิญมาประชุมใหม่ ถ้าบอกเข้าได้ก็เข้ามา ก็แค่นั้น ยังมีเวลา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่มีการแต่งตั้งพล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 1อาจจะต้องโตเข้ามาอยู่ในไลน์ 5 เสือทบ.แต่ถ้ายังไม่มีก็ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิไปก่อนเพื่อรอเวลา แต่ถ้ามีตำแหน่งว่างก็ได้เป็น ขณะนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะปรับหรือโยกย้ายกันได้หรือไม่ หรือตำแหน่งพอหรือไม่ที่จะนำที่คนเกษียณขึ้นไปดำรงตำแหน่งจอมพล หรือไปเป็นพล.อ. ในส่วนของ 5 เสือ ทบ.จะโตมาในสองส่วน คือ จากกองทัพในตำแหน่ง พล.ท. ที่จะเข้ามาอยู่ในไลน์ 5 เสือ 1-2 คน
**ยันไม่มีทายาทสืบทอดอำนาจทหาร
ส่วนที่เหลืออีก 1-2 คนจะต้องมาจากกรมฝ่ายเสนาธิการ เพื่อที่จะโตขึ้นมาดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.ต่อไปในอนาคต ซึ่งจะต้องมาช่วยกันทำงาน การที่สื่อใช้คำว่าแม่ทัพภาคที่1 ผงาดขึ้นมาเป็นเสนาธิการทหารบกนั้น อยากถามว่าผงาดอย่างไร เพราะเสนาธิการจะผงาดได้หรือไม่ ถ้าผงาดขึ้นมาผบ.ทบ.ก็จะเอาตาย จะผงาดได้หรือ ทั้ง 5 คนจะต้องร่วมกันทำงาน ไม่มีการแบ่งแยก เป็นพี่น้องกันทั้งนั้น เพราะโตมาด้วยกัน อย่ามาบอกว่ามีทายาท ตนไม่มีอะไรปะข้างหลังถึงจะต้องมีทายาท ทายาทของตนคือลูกสาว แต่ทายาททางทหารไม่มี ซึ่งทหารจะต้องโตเพื่อปกครองกองทัพ อย่าทำตัวเป็นพยาธิ
** “วิทวัส” ปัด“เจ๊ ด.”ดันทนงศักดิ์
พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นเรื่องร้องศาลปกครองให้คุ้มครองจากคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม ว่า หากศาลปกครองรับคำร้องก็ไม่มีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพลในปีนี้ เพราะว่ากระบวนการพิจารณานั้น ดำเนินด้วยคณะกรรมการที่เป็นไปตามกฎหมาย ของระเบียบกระทรวงกลาโหม ที่เข้าร่วมประชุม 2 ใน 3 ถือว่าถูกต้อง
"ผมไม่สามารถบอกได้ว่า พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) จะขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมตามที่มีการเสนอข่าวหรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นความลับและต้องรักษาจรรยาบรรณในเรื่องความลับ รวมถึงยังไม่มีพระบรมราชโองการ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีชื่อ เจ๊ ด. เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งแน่นอน และไม่มีแรงกระเพื่อมในกองทัพ เพราะขั้นตอนการแต่งตั้งทำตามหลักเกณฑ์และคุณธรรม" พล.อ.วิทวัสระบุ
**ทนายเชื่อศาลปค.เพิกถอนโผได้
นายธนพนธ์ ชูชยานนท์ ทนายความของ พลเอกเสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และพลเอกชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในคำร้องขอให้ศาลปกครองสั่งทุเลาการบังคับใช้คำสั่งของ พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ทั้ง 2 นาย ไปช่วยราชการ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กรณีที่ คณะรัฐมนตรี ได้รับรองรายชื่อโยกย้ายนายทหารระดับพลเอก ประจำปี 2556 แล้ว โดยไม่รอคำสั่งศาลปกครอง จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต เนื่องจาก พลเอกเสถียร ไม่ได้เข้าร่วมประชุมพิจารณารายชื่อด้วย และไม่ได้มีหนังสือเชิญให้เข้าร่วมประชุมบอร์ด
กระทรวงได้
"ที่เขาอ้างว่า สมบูรณ์ แต่ทางเราก็มีสิทธิ์ร้องขอให้เพิกถอกลาโหม ถือว่า การพิจารณาไม่สมบูรณ์ตามขั้นตอน หากศาลฯมีคำสั่งทุเลาคำสั่ง สามารถที่จะร้องขอให้ศาลฯ เพิกถอนคำสั่งนายกรัฐมนตรี หรือ มติคณะรัฐมนตรีนคำสั่งตรงนั้นได้ เพราะคุณไม่มีหนังสือเชิญ พลเอกเสถียร เข้ามาประชุม ตอนนี้ทางเรากำลังหารือว่า จะดำเนินคดีอาญากับผู้แจ้งประชุมได้ไหม ว่าทำไมคุณไม่เชิญปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าประชุม กำลังหาลู่ทาง หาข้อกฎหมายอยู่ว่า จะดำเนินคดี 157 ได้หรือไม่" ธนพนธ์ กล่าว
ทั้งนี้ ทนายความของพลเอกเสถียร ยังได้เปิดเผยว่า จากการติดตามกระบวนพิจารณาคดีของศาลปกครอง ได้รับแจ้งจากนิติกรเจ้าของคดี ได้รับข้อมูลว่าในคำร้องขอให้ศาลฯทุเลาการบังคับใช้คำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจได้รับความชัดเจนในวันพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 18.00น. รายงานข่าวจากสำนักงานศาลปกครองแจ้งว่า ทางตุลาการศาลปกครองได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 1746/2555 ที่พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และคดีหมายเลขดำที่1747/2555พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นฟ้องรมว.กลาโหม ขอให้เพิกถอนคำสั่ง กระทรวงกลาโหม(เฉพาะ) ที่383/55 เรื่องให้พล.อ.เสถียร และพล.อ.ชาตรี ไปช่วยปฏิบัติราชการที่สำนักรัฐมนตรีกระทวงกลาโหม ฉบับลงวันที่ 27 ส.ค. 55 เนื่องจากเห็นว่าเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยทั้งสองขอให้ศาลสั่งทุเลาการบังคับใช้คำสั่งทางปกครองนั้น ขณะที่ศาลได้มีคำสั่งในเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นไปตามกระบวนการปกติ คือทางศาลจะจัดส่งคำสั่งไปให้คู่กรณีทั้งสองทางไปรษณีย์