ASTV ผู้จัดการรายวัน-พ่อบ้านตระกูลวิทยา เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง หลังปฏิเสธข้อหาแจ้งความเท็จในชั้นอัยการ พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มฐานช่วยเหลือผู้อื่นให้ไม่ต้องรับโทษเพิ่มเติม ชี้โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 4,000 บาท อัยการคาดส่งตัวฟ้องศาลแขวงพระนครใต้ได้ทัน 14 ก.ย. ด้านทายาทกระทิงแดงนัดรับทราบข้อหาเมาแล้วขับพุธ
วานนี้ (10 ก.ย.) นายสุเวช หอมอุบล อายุ 45 ปี พ่อบ้านตระกูลอยู่วิทยา พร้อมผู้ติดตาม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ ตามหมายนัดของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะนำตัวนายสุเวชไปส่งฟ้องต่ออัยการที่ศาลแขวงพระนครใต้ ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานและให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหา โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายสุเวช เพิ่มเติม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนายสุเวชได้เดินทางขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปที่ศาลแขวงพระนครใต้โดยทันทีพร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ซึ่งนายสุเวชเดินขึ้นรถด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดและไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.อัครวินต์ สุคนธวิท รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวนายสุเวชมาเข้าพบก่อนจะนำตัวไปส่งศาลแขวงพระนครใต้ ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ โดยผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนได้ให้การยอมรับสารภาพ แต่ในชั้นอัยการให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนจึงต้องกลับมาทำการสรุปสำนวนคดีอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้สำนวนคดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เมื่อนำตัวผู้ต้องหาส่งอัยการ ซึ่งทางผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธก็ตามเชื่อว่าหลักฐานสามารถมัดตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีได้ ทั้งนี้หากผู้ต้องหารับสารภาพทางอัยการก็สามารถนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลได้เลยภายในวันนี้ แต่หากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธก็ต้องต่อสู้กันไปตามขบวนการพิจารณาของศาล
พ.ต.ท.อัครวินต์เผยต่อว่า ส่วนคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส บุตรชายของนายเฉลิม อยู่วิทยา ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการนัดนายบอสมาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเมาแล้วขับเพิ่มเติมในวันที่ 12 ก.ย.นี้ ส่วนเรื่องกล่องดำของรถเฟอร์รารีคันที่เกิดเหตุ ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานทางบริษัทผู้นำเข้ารถคันดังกล่าวเพื่อขอผลตรวจพิสูจน์กล่องดำภายในรถคันดังกล่าวเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี แต่ทางบริษัทดังกล่าวระบุว่ายังไม่สามารถประสานงานผู้ชำนาญการได้ ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบกล่องดำของรถคันที่เกิดเหตุได้ นอกจากนี้ ส่วนกรณีภาพจากกล้องวงจรปิดทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งหากได้ผลการตรวจสอบมาแล้วจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้
ต่อมาที่ศาลแขวงพระนครใต้ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้นำตัวนายสุเวช มายื่นคำร้องขอผัดฟ้องต่อศาลเป็นครั้งที่ 2 เป็นเวลาอีก 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-16 ก.ย. 2555 เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ผัดฟ้องได้ตามคำร้อง
ด้านพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 ยานนาวา เปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สน. ทองหล่อส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายสุเวช ข้อหาแจ้งความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพมาให้อัยการพิจารณาเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางอัยการจึงนำสำนวน พร้อมความเห็น และผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องด้วยวาจาต่อศาลแขวงพระนครใต้ แต่เมื่อศาลสอบคำให้การ นายสุเวชกลับให้การปฏิเสธ ทางพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ จึงต้องยื่นคำร้องผัดฟ้องครั้งแรกเป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-10 ก.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นศาลได้คืนสำนวนการสอบสวนกลับมาให้อัยการ ต่อมาอัยการจึงส่งสำนวนดังกล่าวไปให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้แจ้งข้อหานายสุเวชเพิ่มเติม ฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้ไม่ต้องรับโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 และพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวน พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายสุเวชให้อัยการพิจารณาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.) โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา
“อัยการจะได้พิจารณาสำนวนและพยานหลักฐานอย่างรอบคอบหากพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟ้องได้ก็จะยื่นฟ้องนายสุเวชในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เนื่องจากวันที่ 16 ก.ย. ซึ่งเป็นวันครบกำหนดผัดฟ้องนั้นเป็นวันหยุดราชการ อย่างไรก็ตาม คดีนี้ทางอัยการจะไม่ตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณา เนื่องจากคดีไม่สลับซับซ้อน และไม่รู้สึกหนักอะไร” พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 กล่าว
วานนี้ (10 ก.ย.) นายสุเวช หอมอุบล อายุ 45 ปี พ่อบ้านตระกูลอยู่วิทยา พร้อมผู้ติดตาม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ ตามหมายนัดของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะนำตัวนายสุเวชไปส่งฟ้องต่ออัยการที่ศาลแขวงพระนครใต้ ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานและให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหา โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายสุเวช เพิ่มเติม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนายสุเวชได้เดินทางขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปที่ศาลแขวงพระนครใต้โดยทันทีพร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ซึ่งนายสุเวชเดินขึ้นรถด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดและไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.อัครวินต์ สุคนธวิท รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวนายสุเวชมาเข้าพบก่อนจะนำตัวไปส่งศาลแขวงพระนครใต้ ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ โดยผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนได้ให้การยอมรับสารภาพ แต่ในชั้นอัยการให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนจึงต้องกลับมาทำการสรุปสำนวนคดีอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้สำนวนคดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เมื่อนำตัวผู้ต้องหาส่งอัยการ ซึ่งทางผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธก็ตามเชื่อว่าหลักฐานสามารถมัดตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีได้ ทั้งนี้หากผู้ต้องหารับสารภาพทางอัยการก็สามารถนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลได้เลยภายในวันนี้ แต่หากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธก็ต้องต่อสู้กันไปตามขบวนการพิจารณาของศาล
พ.ต.ท.อัครวินต์เผยต่อว่า ส่วนคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส บุตรชายของนายเฉลิม อยู่วิทยา ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการนัดนายบอสมาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเมาแล้วขับเพิ่มเติมในวันที่ 12 ก.ย.นี้ ส่วนเรื่องกล่องดำของรถเฟอร์รารีคันที่เกิดเหตุ ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานทางบริษัทผู้นำเข้ารถคันดังกล่าวเพื่อขอผลตรวจพิสูจน์กล่องดำภายในรถคันดังกล่าวเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี แต่ทางบริษัทดังกล่าวระบุว่ายังไม่สามารถประสานงานผู้ชำนาญการได้ ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบกล่องดำของรถคันที่เกิดเหตุได้ นอกจากนี้ ส่วนกรณีภาพจากกล้องวงจรปิดทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งหากได้ผลการตรวจสอบมาแล้วจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้
ต่อมาที่ศาลแขวงพระนครใต้ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้นำตัวนายสุเวช มายื่นคำร้องขอผัดฟ้องต่อศาลเป็นครั้งที่ 2 เป็นเวลาอีก 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-16 ก.ย. 2555 เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ผัดฟ้องได้ตามคำร้อง
ด้านพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 ยานนาวา เปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สน. ทองหล่อส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายสุเวช ข้อหาแจ้งความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพมาให้อัยการพิจารณาเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางอัยการจึงนำสำนวน พร้อมความเห็น และผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องด้วยวาจาต่อศาลแขวงพระนครใต้ แต่เมื่อศาลสอบคำให้การ นายสุเวชกลับให้การปฏิเสธ ทางพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ จึงต้องยื่นคำร้องผัดฟ้องครั้งแรกเป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-10 ก.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นศาลได้คืนสำนวนการสอบสวนกลับมาให้อัยการ ต่อมาอัยการจึงส่งสำนวนดังกล่าวไปให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้แจ้งข้อหานายสุเวชเพิ่มเติม ฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้ไม่ต้องรับโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 และพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวน พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายสุเวชให้อัยการพิจารณาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.) โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา
“อัยการจะได้พิจารณาสำนวนและพยานหลักฐานอย่างรอบคอบหากพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟ้องได้ก็จะยื่นฟ้องนายสุเวชในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เนื่องจากวันที่ 16 ก.ย. ซึ่งเป็นวันครบกำหนดผัดฟ้องนั้นเป็นวันหยุดราชการ อย่างไรก็ตาม คดีนี้ทางอัยการจะไม่ตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณา เนื่องจากคดีไม่สลับซับซ้อน และไม่รู้สึกหนักอะไร” พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 กล่าว