“โรบินสัน” ตัดใจทิ้งสาขารัชดาภิเษก ที่ทำรายได้สูงสุด หลังเจรจาเจ้าของที่ดินไม่สำเร็จ หร้อมผลักดันสาขา พระรามเก้าเป็นแฟลกชิปสโตร์แทน มั่นใจไม่กี่ปีรายได้กลับคืนแน่ พร้อมต่อสัญญากับเจ้าของที่ดินสาขาบางรักเรียบร้อยจ่อปรับใหญ่ปีหน้าพร้อมสาขาสุขุมวิท รุกเปิดสาขาชายแดนรองรับเออีซีปีหน้า ผุดอีกที่สกลนคร
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับเจ้าของที่ดินเดิมของห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขารัชดาภิเษกแล้ว หลังจากที่พิจารณามาระยะหนึ่ง ซึ่งสัญญาเช่าที่ดินเดิมนั้นเดิมจะครบกำหนดภายในสิ้นปี 2556 แม้ว่าสาขารัชดาภิเษกจะเป็นสาขาที่ทำรายได้ให้กับโรบินสันสูงสุดประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปีก็ตาม
อย่างไรก็ตามจากการเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขาพระรามเก้าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าพระรามเก้านั้น ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันเท่าใด และเปิดบริการมาได้ประมาณ 9 เดือนแล้วนั้น จะสามารถทำรายได้กลับคืนในมาในระดับที่ใกล้เคียงกับสาขารัชดาภิเษกได้ เนื่องจากว่า เป็นสตราติจิกโลเกชั่น ( STRATEGIC) LOCATION) หรือทำเลยุทธศาสตร์ที่อยู่ใกล้กับสาขารัชดาภิเษกเดิม
และกินอาณาบริเวณโดยรอบสำคัญหลายพื้นที่เช่น พระรามเก้า อโศก เพชรบุรี จนกระทั่งถึงบริเวณถนนรามคำแหงด้วย
ทั้งนี้ช่วงปีแรกของการเปิดบริการสาขาพระรามเก้านี้ บริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ให้กับริษัทฯประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งห่างจากสาขารัชดาภิเษกเดิมประมาณ 200 ล้านบาทเท่านั้น อีกทั้งบริษัทฯได้สร้างให้สาขาพระรามเก้านี้เป็นสาขาแฟลกชิปสโตร์ในอนาคตแทนที่สาขารัชดาภิเษกด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายปรีชาได้พยายามเจรจา กับทางเจ้าของที่ดินเดิมที่รัชดาภิเษก คือกลุ่มของรัชดาพาเลซเพื่อ ที่จะต่อสัญญาสาขานี้แล้วปรับปรุงใหม่ให้เป็นห้างสรรพสินค้าโรบินสันในคอนเซ็ปท์ใหม่ แต่สุดท้ายไม่สามารถสรุปการเจรจาได้ เนื่องจากว่าทางเจ้าของที่ดินเดิมต้องการนำที่ดินไปพัฒนาเอง
ขณะที่โรบินสันประสบความสำเร็จในการต่อสัญญาใหม่อีก 10 ปีกับเจ้าของที่ดินเดิมบริเวณสาขาบางรักเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการวางแผนที่จะปรับปรุงครั้งใหญ่สาขาบางรักนี้ในปีหน้าเช่นเดียวกับการวางแผนที่จะปรับปรุงครั้งใหญ่กับสาขาสุขุมวิทในปีหนเช่นกัน
นอกจากนี้แผนการลงทุนในปีหน้าบริษัทฯยังเตรียมงบประมาณมากกว่า 800 ล้านบาท ในการเปิดไลฟ์สไตล์ชอปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่จังหวัดสกลนครด้วย ซึ่งสาขาใหม่นี้จะเป็นสาขาที่ติดชายแดนสาขาที่ 4 ที่เปิดบริการในต่างจังหวัดหลังจากที่มีสาขาติดชายแดนแล้วในเชียงราย อุดรธานี และอุบลราชธานี เพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะมีเพิ่มมากขึ้นหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายใน ปี2558หรืออีก 3 ปีจากนี้
สำหรับผลประกอบการของโรบินสันในช่วงครึ่งปีแรกนี้มีรายได้รวมประมาณ 10,000 ล้านบาท เติบโต 22.9% ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยที่มีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 34.1% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท
นายปรีชากล่าวว่า ยังมีความกังวลในสถานการณ์ครึ่งปีหลัง ว่าจะไม่ดีเท่ากับครึ่งปีแรก เช่น อาจจะมีกำลังซื้อลดน้อยลงบ้าง รวมทั้งผลกระทบจากภาคการส่งออกที่ลดตัวลง ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำลงส่งผลต่อรายได้คนต่างจังหวัดลดลงด้วย
นอกจากนั้นกำลังซื้อของผู้บริโภคบางส่วนยังถูกกระทบจากโครงการรถคันแรกของรัฐบาลอีกด้วยเพราะต้องนำเงินไปใช้จ่ายในการซื้อรถผ่อนรถ และประหยัดค่าใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น เสื้อผ้่ แฟชั่นแต่บริษัทฯยังมั่นใจว่า ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาด และกิจกรรมทางการตลาดที่มีต่อเนื่องจะส่งผลให้ยอดขายทั้งปีของโรบินสันยังคงเติบโตได้ประมาณ 22% จากรายได้รวมปีที่แล้วที่มีรายได้ประมาณ 19,000 กว่าล้านบาท โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขารวม 30 สาขาจากปัจจุบันมี 27 สาขาแล้
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับเจ้าของที่ดินเดิมของห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขารัชดาภิเษกแล้ว หลังจากที่พิจารณามาระยะหนึ่ง ซึ่งสัญญาเช่าที่ดินเดิมนั้นเดิมจะครบกำหนดภายในสิ้นปี 2556 แม้ว่าสาขารัชดาภิเษกจะเป็นสาขาที่ทำรายได้ให้กับโรบินสันสูงสุดประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปีก็ตาม
อย่างไรก็ตามจากการเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขาพระรามเก้าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าพระรามเก้านั้น ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันเท่าใด และเปิดบริการมาได้ประมาณ 9 เดือนแล้วนั้น จะสามารถทำรายได้กลับคืนในมาในระดับที่ใกล้เคียงกับสาขารัชดาภิเษกได้ เนื่องจากว่า เป็นสตราติจิกโลเกชั่น ( STRATEGIC) LOCATION) หรือทำเลยุทธศาสตร์ที่อยู่ใกล้กับสาขารัชดาภิเษกเดิม
และกินอาณาบริเวณโดยรอบสำคัญหลายพื้นที่เช่น พระรามเก้า อโศก เพชรบุรี จนกระทั่งถึงบริเวณถนนรามคำแหงด้วย
ทั้งนี้ช่วงปีแรกของการเปิดบริการสาขาพระรามเก้านี้ บริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ให้กับริษัทฯประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งห่างจากสาขารัชดาภิเษกเดิมประมาณ 200 ล้านบาทเท่านั้น อีกทั้งบริษัทฯได้สร้างให้สาขาพระรามเก้านี้เป็นสาขาแฟลกชิปสโตร์ในอนาคตแทนที่สาขารัชดาภิเษกด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายปรีชาได้พยายามเจรจา กับทางเจ้าของที่ดินเดิมที่รัชดาภิเษก คือกลุ่มของรัชดาพาเลซเพื่อ ที่จะต่อสัญญาสาขานี้แล้วปรับปรุงใหม่ให้เป็นห้างสรรพสินค้าโรบินสันในคอนเซ็ปท์ใหม่ แต่สุดท้ายไม่สามารถสรุปการเจรจาได้ เนื่องจากว่าทางเจ้าของที่ดินเดิมต้องการนำที่ดินไปพัฒนาเอง
ขณะที่โรบินสันประสบความสำเร็จในการต่อสัญญาใหม่อีก 10 ปีกับเจ้าของที่ดินเดิมบริเวณสาขาบางรักเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการวางแผนที่จะปรับปรุงครั้งใหญ่สาขาบางรักนี้ในปีหน้าเช่นเดียวกับการวางแผนที่จะปรับปรุงครั้งใหญ่กับสาขาสุขุมวิทในปีหนเช่นกัน
นอกจากนี้แผนการลงทุนในปีหน้าบริษัทฯยังเตรียมงบประมาณมากกว่า 800 ล้านบาท ในการเปิดไลฟ์สไตล์ชอปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่จังหวัดสกลนครด้วย ซึ่งสาขาใหม่นี้จะเป็นสาขาที่ติดชายแดนสาขาที่ 4 ที่เปิดบริการในต่างจังหวัดหลังจากที่มีสาขาติดชายแดนแล้วในเชียงราย อุดรธานี และอุบลราชธานี เพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะมีเพิ่มมากขึ้นหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายใน ปี2558หรืออีก 3 ปีจากนี้
สำหรับผลประกอบการของโรบินสันในช่วงครึ่งปีแรกนี้มีรายได้รวมประมาณ 10,000 ล้านบาท เติบโต 22.9% ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยที่มีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 34.1% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท
นายปรีชากล่าวว่า ยังมีความกังวลในสถานการณ์ครึ่งปีหลัง ว่าจะไม่ดีเท่ากับครึ่งปีแรก เช่น อาจจะมีกำลังซื้อลดน้อยลงบ้าง รวมทั้งผลกระทบจากภาคการส่งออกที่ลดตัวลง ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำลงส่งผลต่อรายได้คนต่างจังหวัดลดลงด้วย
นอกจากนั้นกำลังซื้อของผู้บริโภคบางส่วนยังถูกกระทบจากโครงการรถคันแรกของรัฐบาลอีกด้วยเพราะต้องนำเงินไปใช้จ่ายในการซื้อรถผ่อนรถ และประหยัดค่าใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น เสื้อผ้่ แฟชั่นแต่บริษัทฯยังมั่นใจว่า ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาด และกิจกรรมทางการตลาดที่มีต่อเนื่องจะส่งผลให้ยอดขายทั้งปีของโรบินสันยังคงเติบโตได้ประมาณ 22% จากรายได้รวมปีที่แล้วที่มีรายได้ประมาณ 19,000 กว่าล้านบาท โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขารวม 30 สาขาจากปัจจุบันมี 27 สาขาแล้