xs
xsm
sm
md
lg

โจรใต้ลวงปลิดชีพ ซุกบึ้มใต้ธงชาติ เปิดทางพื้นที่เสนอตั้งผู้ว่าฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-โจรใต้มามุขใหม่ ผูกธงชาติไทยริมถนนในระแงะ ซุกบึ้มแบบเหยียบไว้ข้างใต้ ลวงปลิดชีพเจ้าหน้าที่ขณะปลดธงลง โชคดีเก็บกู้ได้ "ยุทธศักดิ์" เผยหน่วยข่าวพบมีกลุ่มใหม่ก่อเหตุป่วนใต้ปักธงมาเลย์ หลังเบอร์ซาตู-ทางการมาเลเซียปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง เตรียมให้อำนาจ "ผอ.ศอ.บต.-ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า" ชงมท.1 ตั้งผู้ว่าฯ 5 จังหวัดใต้ ขณะที่ผู้ว่าฯ เสนอตั้งนายอำเภอได้ หวังทำงานเป็นทีมเวิร์ก

เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (6 ก.ย.) ร.ต.ท.สัณฐิติ ทองจันทร์ ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจาก ร.ท.บำเพ็ญ คชเวช ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 4505 กรมทหารพรานที่ 45 พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดฝังอยู่ที่บริเวณริมถนนสายตันหยงมัส-ตอหลัง บ้านทุ่งนา ม.1 ต.ตันหยงมัส จึงพร้อมด้วย พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 ร.ต.ท.นัฐวิทย์ บำเพ็ญศรี รอง หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดอโณทัย รวมทั้งกำลังตำรวจ ทหาร ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบบริเวณริมไหล่ถนนคนร้ายฝังวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดไว้ มีธงชาติไทยผูกติดไว้กับกิ่งไม้ เจ้าหน้าที่จึงแกะออกก่อนที่จะใช้เหล็กแหลมและพลั่วขุดดินรอบๆ วัตถุต้องสงสัยจนกระทั่งลึก 5 นิ้ว พบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้กระป๋องของปลากระป๋องยี่ห้อหนึ่ง หนักครึ่งกิโลกรัม จุดชนวนด้วยระบบเท้าเหยียบ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเก็บกู้ประมาณ 15 นาที

ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ ร.ท.บำเพ็ญ ได้นำกำลังรวม 12 นาย ออกจากฐานซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกฮูลูปาเร๊ะ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม.เพื่อเดินเท้าลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทาง เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบคนร้ายได้นำธงชาติไทยมาผูกติดไว้กับกิ่งไม้ริมถนน จึงได้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าตรวจสอบ พบที่บริเวณไหล่ถนนใต้ธงชาติที่ผูกไว้มีร่องรอยคล้ายดินถูกกลบฝังใหม่ๆ และมีดวงไฟสีแดงกระพริบเป็นระยะๆ จึงประสานไปยังตำรวจ สภ.ระแงะ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาตรวจพิสูจน์และพบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นระเบิดที่คนร้ายได้ฝังไว้เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ปักธงชาติมาเลเซียว่า ยังไม่ถือว่าเป็นการเสียดินแดน ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และทางการมาเลเซียไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด และกำลังสืบหากลุ่มที่กำลังกระทำการดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน

ส่วนการลงพื้นที่ภาคใต้ของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการแก้ไขปัญหา เพราะการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ต้องใช้ทุกภาคส่วนร่วมกัน ไม่ใช่แค่ทหารเพียงอย่างเดียว แต่ยอมรับว่า คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาการวางระเบิดในพื้นที่ได้ 100% เนื่องจากไม่สามารถดำเนินกลยุทธ์ทางการทหารได้อย่างเต็มที่ในพื้นที่ได้

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กล่าวว่า กลุ่มตาลิบันในตะวันออกกลาง หรือกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใด ไม่มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องในการสนับสนุนทางการเงินต่อโรงเรียนปอเนาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้ที่ผ่านมา มีการตรวจสอบจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ประกาศยึดทรัพย์เจ้าของโรงเรียนปอเนาะอิสลามบูรพา จังหวัดนราธิวาส ก็ตาม

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน ก.ค.2550 ทางเจ้าหน้าที่จับกุมเด็กในโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนปอเนาะดังกล่าว จากการตรวจสอบพบอาวุธซุกซ่อนอยู่ในโรงเรียน จากนั้น ป.ป.ง.ได้ขยายผลไปตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าทั้งเจ้าของโรงเรียน ผู้บริหาร กรรมการมูลนิธิ มีการโอนเงินผิดปกติ จึงได้สั่งอาญัติไว้ เพื่อการตรวจสอบ แต่ไม่มีความเชื่อมโยงว่าเส้นทางเงินดังกล่าวมาจากต่างประเทศ

ทางด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) กล่าวถึงกรณีการก่อเหตุความไม่สงบแล้วมีการปักธงชาติมาเลเซียว่า ในวันนี้ (7 ก.ย.) นายกฯ จะเดินทางไปประชุมเอเปกที่รัสเซีย คงจะได้มีการพบกับนายกฯ มาเลเซียด้วย ซึ่งได้ให้ข้อมูลกับนายกฯ เพื่อใช้ในการหารือกับทางนายกฯ มาเลเซียแล้ว ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆ ของมาเลเซียรวมทั้งมีรายงานข่าวว่า ประธานกลุ่มเบอร์ซาตูก็ออกมาปฏิเสธแล้วว่า การก่อเหตุที่มีการปักธงชาติมาเลเซีย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา

"เรื่องนี้ทางการข่าวบอกว่าอาจจะมีอีกกลุ่มหนึ่ง แต่รอผมได้ข้อมูลที่ละเอียดกว่านี้ก่อน เรารู้แล้วว่ามันมีกลุ่มไหนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่เป็นกลุ่มใหม่ที่มีความคิดอย่างนี้ เขามีความคิดก็อยากสร้างความแตกแยกให้เรากับมาเลเซีย ทำให้เรามีความสัมพันธ์ไม่ดีต่อกัน ระแวงกัน แต่เชื่อว่าเขาทำไม่สำเร็จ"

พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเขียนโครงสร้าง ศปก.จชต. เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ถ้าโครงสร้างนี้ ทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เห็นด้วยกับโครงสร้าง ก็จะทำให้นโยบายต่างๆ มีความกระชับมากยิ่งขึ้น ทำให้หน่วยงานต่างๆ ทำงานเป็นทีมเวิร์กขึ้น ซึ่งนับแต่นี้เป็นต้นไป จะเป็นการที่หน่วยล่างเสนอขึ้นมายังผู้บังคับบัญชาว่าทีมเวิร์กของแต่ละหน่วยจะเป็นอย่างไร

"ตำรวจ ก็ให้ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภาค 9 เป็นผู้ที่มีสิทธิ์เลือกผู้กำกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีสิทธิ์ในการเลือกนายอำเภอที่ตั้งใจทำงาน ขณะเดียวกันตัวของผู้ว่าราชการจังหวัด ทาง กอ.รมน.และ ศอ.บต.ก็จะเป็นผู้เสนอกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยว่า ต้องการผู้ว่าฯ ใน 5 จังหวัดภาคใต้อย่างไร เพื่อลงไปทำงานในภาคใต้ที่จะทำงานร่วมกันได้เป็นทีมเวิร์ก ไม่ใช่ว่าหน่วยเหนือส่งคนนั้นไปทีคนนี้ไปทีแล้ว 4-5 เดือนยังไม่พูดกันเลย เป็นไปไม่ได้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็จะจัดบุคคลที่สมควรทำงานร่วมกับคนอื่นได้ มีความตั้งใจลงไปในพื้นที่ โดยนายกฯ สั่งการแล้วและจะมีการออกเป็นคำสั่งอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อรู้นโยบายเป็นวาจาแล้วก็สั่งการได้เลยไม่ต้องมานั่งรอกันไปรอกันมา" รองนายกฯ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น