ASTVผู้จัดการรายวัน -ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคุก 1 ปี “สมยศ” หมิ่น “พล.อ.สพรั่ง” อดีต ผช.ผบ.ทบ. กล่าวหาใช้เงินยุค คมช. 1,200 ล้าน ระบุเป็นการด่าทอไม่ใช่แสดงความเห็นโดยสุจริต
วานนี้ (5 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 915 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.3833/2550 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนายน เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2550 จำเลยปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ระบุว่า พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีต ผช.ผบ.ทบ. และเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ใช้เงินในการปฏิวัติรัฐประหารจำนวน 1,200 ล้านบาท และมีการเซ็นเบิกจ่ายเงินจำนวน 12 ล้านบาท ให้นายเชียรช่วง กัลยาณมิตร ญาติของ พล.อ.สพรั่ง ดำเนินการช่วยเหลือประชาสัมพันธ์ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 1 ปี ปรับ 100,000 บาท และโทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี คุมประพฤติปีละ 4 ครั้ง และทำงานบริการสังคม 20 ชั่วโมง
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วว่า แม้จำเลยอ้างว่าการปราศรัยดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่นเช่นกัน ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นการด่าทอและกล่าวหาบุคคลอื่น จึงไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือติชมด้วยความเป็นธรรม อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่นายสมยศ ตกเป็นจำเลยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 นั้น ศาลนัดพิพากษาวันที่ 19 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
วานนี้ (5 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 915 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.3833/2550 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนายน เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2550 จำเลยปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ระบุว่า พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีต ผช.ผบ.ทบ. และเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ใช้เงินในการปฏิวัติรัฐประหารจำนวน 1,200 ล้านบาท และมีการเซ็นเบิกจ่ายเงินจำนวน 12 ล้านบาท ให้นายเชียรช่วง กัลยาณมิตร ญาติของ พล.อ.สพรั่ง ดำเนินการช่วยเหลือประชาสัมพันธ์ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 1 ปี ปรับ 100,000 บาท และโทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี คุมประพฤติปีละ 4 ครั้ง และทำงานบริการสังคม 20 ชั่วโมง
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วว่า แม้จำเลยอ้างว่าการปราศรัยดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่นเช่นกัน ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นการด่าทอและกล่าวหาบุคคลอื่น จึงไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือติชมด้วยความเป็นธรรม อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่นายสมยศ ตกเป็นจำเลยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 นั้น ศาลนัดพิพากษาวันที่ 19 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
