วานนี้(4 ก.ย.55) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดภาพกลุ่มชายชุดดำ กระทำความรุนแรงในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ปี 2553 พร้อมแถลงถึงกรณีที่นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอหลักฐานเกี่ยวกับชายชุดดำ ในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ปี 2553 ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงของกลุ่มชายชุดดำในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีทั้งภาพถ่าย และคลิปวิดีโอ ซึ่งกลุ่มชายชุดดำ 14 ราย ที่ถูกจับกุมที่ต่างรับสารภาพว่าได้กระทำความรุนแรง และใช้อาวุธจริง และคดีกำลังอยู่ในชั้นศาล ดังนั้นหากนพ.เหวง แกล้งไม่รู้ หรือสมองถูกกระทบกระเทือนทำให้ลืมเหตุการณ์ดังกล่าว ตนก็พร้อมที่จะรวบรวมหลักฐานดังกล่าวเพื่อมอบให้กับนพ.เหวง เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง
“โดยนายอภิสิทธิ์ได้มอบหมายให้นายศิริโชค (โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์) เป็นผู้ส่งมอบหลักฐานดังกล่าวให้กับนพ.เหวง แต่หากนพ.เหวงไม่มารับ แสดงว่านพ.เหวง จงใจทำเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง"นายชวนนท์กล่าวและว่า ทั้งนี้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต 6 ศพ ที่วัดปทุมวนาราม โดยระบุว่า ทหารเป็นผู้ยิงจากรางรถไฟฟ้า จากผลการชันสูตร พบว่า มี 2 ศพ ที่มีวิถีกระสุนยิงจากล่างขึ้นบน หรือจากบั้นท้าย ทะลุคอ จึงอยากให้ผู้ที่กล่าวหาได้คิดว่า ทหารจะยิงจากรางรถไฟฟ้าได้หรือไม่”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ และอัยการมีมติให้ส่งคดีการสลายการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ไปยัง บชน. เนื่องจากมีพยานหลักฐานสมควรน่าเชื่อว่า การตายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ 36 ศพ จากคดีสลายการชุมนุม ว่า ตนเป็นคนสั่งเองว่า จะเอาสำนวนไปเก็บไม่ได้ ต้องชันสูตรพลิกศพก่อน เพราะว่าเป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่ ต้องชันสูตรพลิกศพให้ชัดเจนว่าใช่หรือไม่ใช่ ส่วนผลชันสูตรพลิกศพ การไต่สวนของศาลเป็นอย่างไรนั้นก็ค่อยเอาไปรวมสำนวนในคดีอาญา ซึ่งต้องแยกสำนวนออกจากกัน ซึ่งรัฐบาลที่แล้วเอาไปเก็บไว้หมด และตนไม่มีแกล้งใคร
ส่วนคดี 36 ศพ นั้นมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อะไรๆ ก็ตามนั้น เป็นการกระทำโดยอ้างว่าเป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ เเต่มันเป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐต้องชันสูตรพลิกศพ และตนได้ตั้งพนักงานสอบสวนเพิ่ม 50 คน ไปช่วยงานดีเอสไอ เพื่อให้มันกระจ่างชัด ใครไม่ผิดก็ไม่ผิด ไม่ต้องวิตกจริต และการดำเนินการนั้นไม่มีล่าช้าแน่นอน เมื่อถามว่า สำนวนจะส่งศาลได้เมื่อใด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไปขีดเส้นว่ากี่วันคงไม่ได้ต้องละเอียดรอบคอบ
สำหรับกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การสืบสวนมีการตั้งธงไว้แล้ว และอยากจะขอความเป็นธรรม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ให้ทำหนังสือมา ผมอยากถามว่า ใครจะกล้าแกล้งนายสุเทพ กับนายอภิสิทธิ์ ผมไม่กล้าหรอก หมดอำนาจก็เข้าคุกสิ การสอบนั้นตั้งธงไม่ได้ มันต้องมีเอกสารพยานวัตถุ พยานบุคคล ต้องมีข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย
พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดี กล่าวว่า ล่าสุดนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในฐานะอดีตเลขาธิการศอฉ.ได้เลื่อนการเข้าให้การกับดีเอสไอตามที่ออกหมายเรียกเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 จากวันที่ 5 ก.ย.นี้ ไปเป็นวันที่ 12 ก.ย. โดยดีเอสไอต้องการสอบถามประเด็นคำสั่งที่ประกาศให้มีปฏิบัติการทุกฉบับ
ทั้งนี้ในวันที่ 6 ก.ย.เวลา 15.00 น. ดีเอสไอจะออกหมายเรียกให้พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช หรือเสธ.อู้ สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นตัวแทนที่เข้าไปเจรจากับกลุ่มแกนนำนปช. เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2553 มาสอบถามรายละเอียดกับผลการเจรจาในวันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีเอสไอยังรอเอกสารที่ได้ทำหนังสือขอให้กองทัพบกรวบรวมประกาศคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) มาประกอบการพิจารณาก่อนเรียกบุคคลอื่นเข้าให้การเพิ่มเติม รวมถึงพลแม่นปืนซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอเรียกเข้าให้การแล้ว 2 นาย แต่จากข้อมูลเชื่อว่ามีพลแม่นปืนที่ประจำจุดต่าง ๆ อีกหลายรายแต่ไม่มีภาพปรากฏ ดังนั้น ต้องตรวจสอบจากเอกสารอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าจำเป็นต้องเรียกพลแม่นปืนทุกจุดเข้าให้การ
กรณีที่ดีเอสไอขอให้กองทัพส่งมอบอาวุธของพลแม่นปืน 2 รายมาให้ตรวจสอบว่าตรงกับที่ให้ปากคำไว้หรือไม่นั้น ได้ทำหนังสือร้องขอไปแล้ว แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมหรือไม่ เพราะการเบิกจ่ายอาวุธในช่วงดังกล่าวไม่ระบุว่า ส่งมอบอาวุธกระบอกใดให้ทหารรายใดใช้ ดังนั้นคงได้เพียงนำมาตรวจสอบว่า ระบบการทำงานเป็นไปตามที่เคยให้การหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยมีการส่งมอบอาวุธปืนกว่า 40 กระบอกมาให้ตรวจสอบแล้ว แต่เบื้องต้นอาวุธที่นำมาตรวจไม่ตรงกับหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุ.
“โดยนายอภิสิทธิ์ได้มอบหมายให้นายศิริโชค (โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์) เป็นผู้ส่งมอบหลักฐานดังกล่าวให้กับนพ.เหวง แต่หากนพ.เหวงไม่มารับ แสดงว่านพ.เหวง จงใจทำเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง"นายชวนนท์กล่าวและว่า ทั้งนี้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต 6 ศพ ที่วัดปทุมวนาราม โดยระบุว่า ทหารเป็นผู้ยิงจากรางรถไฟฟ้า จากผลการชันสูตร พบว่า มี 2 ศพ ที่มีวิถีกระสุนยิงจากล่างขึ้นบน หรือจากบั้นท้าย ทะลุคอ จึงอยากให้ผู้ที่กล่าวหาได้คิดว่า ทหารจะยิงจากรางรถไฟฟ้าได้หรือไม่”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ และอัยการมีมติให้ส่งคดีการสลายการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ไปยัง บชน. เนื่องจากมีพยานหลักฐานสมควรน่าเชื่อว่า การตายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ 36 ศพ จากคดีสลายการชุมนุม ว่า ตนเป็นคนสั่งเองว่า จะเอาสำนวนไปเก็บไม่ได้ ต้องชันสูตรพลิกศพก่อน เพราะว่าเป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่ ต้องชันสูตรพลิกศพให้ชัดเจนว่าใช่หรือไม่ใช่ ส่วนผลชันสูตรพลิกศพ การไต่สวนของศาลเป็นอย่างไรนั้นก็ค่อยเอาไปรวมสำนวนในคดีอาญา ซึ่งต้องแยกสำนวนออกจากกัน ซึ่งรัฐบาลที่แล้วเอาไปเก็บไว้หมด และตนไม่มีแกล้งใคร
ส่วนคดี 36 ศพ นั้นมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อะไรๆ ก็ตามนั้น เป็นการกระทำโดยอ้างว่าเป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ เเต่มันเป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐต้องชันสูตรพลิกศพ และตนได้ตั้งพนักงานสอบสวนเพิ่ม 50 คน ไปช่วยงานดีเอสไอ เพื่อให้มันกระจ่างชัด ใครไม่ผิดก็ไม่ผิด ไม่ต้องวิตกจริต และการดำเนินการนั้นไม่มีล่าช้าแน่นอน เมื่อถามว่า สำนวนจะส่งศาลได้เมื่อใด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไปขีดเส้นว่ากี่วันคงไม่ได้ต้องละเอียดรอบคอบ
สำหรับกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การสืบสวนมีการตั้งธงไว้แล้ว และอยากจะขอความเป็นธรรม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ให้ทำหนังสือมา ผมอยากถามว่า ใครจะกล้าแกล้งนายสุเทพ กับนายอภิสิทธิ์ ผมไม่กล้าหรอก หมดอำนาจก็เข้าคุกสิ การสอบนั้นตั้งธงไม่ได้ มันต้องมีเอกสารพยานวัตถุ พยานบุคคล ต้องมีข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย
พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดี กล่าวว่า ล่าสุดนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในฐานะอดีตเลขาธิการศอฉ.ได้เลื่อนการเข้าให้การกับดีเอสไอตามที่ออกหมายเรียกเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 จากวันที่ 5 ก.ย.นี้ ไปเป็นวันที่ 12 ก.ย. โดยดีเอสไอต้องการสอบถามประเด็นคำสั่งที่ประกาศให้มีปฏิบัติการทุกฉบับ
ทั้งนี้ในวันที่ 6 ก.ย.เวลา 15.00 น. ดีเอสไอจะออกหมายเรียกให้พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช หรือเสธ.อู้ สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นตัวแทนที่เข้าไปเจรจากับกลุ่มแกนนำนปช. เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2553 มาสอบถามรายละเอียดกับผลการเจรจาในวันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีเอสไอยังรอเอกสารที่ได้ทำหนังสือขอให้กองทัพบกรวบรวมประกาศคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) มาประกอบการพิจารณาก่อนเรียกบุคคลอื่นเข้าให้การเพิ่มเติม รวมถึงพลแม่นปืนซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอเรียกเข้าให้การแล้ว 2 นาย แต่จากข้อมูลเชื่อว่ามีพลแม่นปืนที่ประจำจุดต่าง ๆ อีกหลายรายแต่ไม่มีภาพปรากฏ ดังนั้น ต้องตรวจสอบจากเอกสารอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าจำเป็นต้องเรียกพลแม่นปืนทุกจุดเข้าให้การ
กรณีที่ดีเอสไอขอให้กองทัพส่งมอบอาวุธของพลแม่นปืน 2 รายมาให้ตรวจสอบว่าตรงกับที่ให้ปากคำไว้หรือไม่นั้น ได้ทำหนังสือร้องขอไปแล้ว แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมหรือไม่ เพราะการเบิกจ่ายอาวุธในช่วงดังกล่าวไม่ระบุว่า ส่งมอบอาวุธกระบอกใดให้ทหารรายใดใช้ ดังนั้นคงได้เพียงนำมาตรวจสอบว่า ระบบการทำงานเป็นไปตามที่เคยให้การหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยมีการส่งมอบอาวุธปืนกว่า 40 กระบอกมาให้ตรวจสอบแล้ว แต่เบื้องต้นอาวุธที่นำมาตรวจไม่ตรงกับหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุ.