ประจวบคีรีขันธ์ - เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว และยางพาราในพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และสุราษฏร์ธานี ที่เดือดร้อนจากพืชผลราคาตกต่ำ กว่า 1,000 คน เดินทางมารวมตัวชุมนุมประท้วงที่ประจวบคีรีขันธ์ เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามารับซื้อผลผลิต หากวันนี้ยังไม่ได้รับคำตอบ พร้อมจะมีมาตรการขั้นต่อไป
เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (3 ก.ย.) กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรสวนยางพารา มะพร้าว ปาล์ม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดระนอง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคามะพร้าว และยางพาราตกต่ำมานานหลายเดือนกว่า 1,000 คน ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมประท้วงที่บริเวณลานวัดเขาโพธิ์ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยแกนนำกลุ่มเกษตรที่ได้รับความเดือดร้อนได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีกล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนจากราคาผลผลิตที่ตกต่ำ แต่รัฐบาลกลับยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะที่ผ่านมา ปล่อยให้มีการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศทั้งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องเข้ามาจำนวนมาก จนส่งผลกระทบต่อชาวสวนมะพร้าวไทย
ทั้งนี้ ในการชุมนุม พ.ต.อ.ณรงค์ ศุภเอม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกำลัง อส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลายร้อยนายมาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณจุดที่มีการชุมนุม พร้อมชุดควบคุมฝูงชนเข้ามาประจำการเพื่อที่จะไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนเพชรเกษม เพราะจะกระทบต่อผู้ที่เดินทางขึ้นลงภาคใต้ รวมทั้งยังใช้เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจตระเวนชายแดนบินตรวจสภาพการจราจรบริเวณเส้นทางเพชรเกษมอีกด้วย
นายปรีชา คำทอง ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรที่มาร่วมชุมนุม กล่าวว่า ที่มาชุมนุมครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาผลผลิตมะพร้าวที่ตกต่ำเหลือเพียงลูกละ 1-3 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกจนส่งผลกระทบให้เกษตรกรขาดทุน มะพร้าวไม่สามารถขายได้ อีกทั้งรัฐบาลล้มเหลวในการพยุงราคามะพร้าว โดยใช้วิธีให้คณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรแห่งชาติ อุ้มราคามะพร้าวในวงเงินงบประมาณ 66 ล้านบาท เพราะจนถึงขณะนี้ การช่วยเหลือเยียวยายังไม่ถึงเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวแต่อย่างใด และมีแนวโน้มว่าผลประโยชน์จากการแทรกแซงราคามะพร้าวจากนโยบายดังกล่าวอาจเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มพ่อค้า และกลุ่มผลประโยชน์อื่นๆ เช่นเดียวกับกรณียางพารา รวมไปถึงรัฐบาลต้องเร่งในการแก้ปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ประกันราคามะพร้าวผลราคาลูกละ 12 บาท ส่วนราคามะพร้าวแห้งกิโลกรัมละ 21 บาท และยกเลิกการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศ รวมทั้งให้รัฐบาลรับซื้อยางพารา ในราคากิโลกรัมละ 120 บาท โดยไม่คัดเกรด และเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดจุดรับซื้อยางพาราผ่านพ่อค้าท้องถิ่น โดยให้มีการกระจายจุดรับซื้ออย่างทั่วถึง และเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อเรียกร้องดังกล่าวของกลุ่มผู้ชุมนุม เบื้องต้น ทางหน่วยงานภาครัฐได้รับเรื่อง และดำเนินการส่งต่อไปยังรัฐบาลแล้ว โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศจะรอฟังคำตอบจากรัฐบาลในวันนี้ (3 ก.ย.) หากไม่ดำเนินการตามข้อเสนอของกลุ่มเกษตรกรทางผู้ที่มาชุมนุมก็จะมีมาตรการขั้นต่อไป
เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (3 ก.ย.) กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรสวนยางพารา มะพร้าว ปาล์ม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดระนอง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคามะพร้าว และยางพาราตกต่ำมานานหลายเดือนกว่า 1,000 คน ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมประท้วงที่บริเวณลานวัดเขาโพธิ์ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยแกนนำกลุ่มเกษตรที่ได้รับความเดือดร้อนได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีกล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนจากราคาผลผลิตที่ตกต่ำ แต่รัฐบาลกลับยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะที่ผ่านมา ปล่อยให้มีการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศทั้งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องเข้ามาจำนวนมาก จนส่งผลกระทบต่อชาวสวนมะพร้าวไทย
ทั้งนี้ ในการชุมนุม พ.ต.อ.ณรงค์ ศุภเอม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกำลัง อส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลายร้อยนายมาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณจุดที่มีการชุมนุม พร้อมชุดควบคุมฝูงชนเข้ามาประจำการเพื่อที่จะไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนเพชรเกษม เพราะจะกระทบต่อผู้ที่เดินทางขึ้นลงภาคใต้ รวมทั้งยังใช้เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจตระเวนชายแดนบินตรวจสภาพการจราจรบริเวณเส้นทางเพชรเกษมอีกด้วย
นายปรีชา คำทอง ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรที่มาร่วมชุมนุม กล่าวว่า ที่มาชุมนุมครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาผลผลิตมะพร้าวที่ตกต่ำเหลือเพียงลูกละ 1-3 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกจนส่งผลกระทบให้เกษตรกรขาดทุน มะพร้าวไม่สามารถขายได้ อีกทั้งรัฐบาลล้มเหลวในการพยุงราคามะพร้าว โดยใช้วิธีให้คณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรแห่งชาติ อุ้มราคามะพร้าวในวงเงินงบประมาณ 66 ล้านบาท เพราะจนถึงขณะนี้ การช่วยเหลือเยียวยายังไม่ถึงเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวแต่อย่างใด และมีแนวโน้มว่าผลประโยชน์จากการแทรกแซงราคามะพร้าวจากนโยบายดังกล่าวอาจเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มพ่อค้า และกลุ่มผลประโยชน์อื่นๆ เช่นเดียวกับกรณียางพารา รวมไปถึงรัฐบาลต้องเร่งในการแก้ปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ประกันราคามะพร้าวผลราคาลูกละ 12 บาท ส่วนราคามะพร้าวแห้งกิโลกรัมละ 21 บาท และยกเลิกการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศ รวมทั้งให้รัฐบาลรับซื้อยางพารา ในราคากิโลกรัมละ 120 บาท โดยไม่คัดเกรด และเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดจุดรับซื้อยางพาราผ่านพ่อค้าท้องถิ่น โดยให้มีการกระจายจุดรับซื้ออย่างทั่วถึง และเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อเรียกร้องดังกล่าวของกลุ่มผู้ชุมนุม เบื้องต้น ทางหน่วยงานภาครัฐได้รับเรื่อง และดำเนินการส่งต่อไปยังรัฐบาลแล้ว โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศจะรอฟังคำตอบจากรัฐบาลในวันนี้ (3 ก.ย.) หากไม่ดำเนินการตามข้อเสนอของกลุ่มเกษตรกรทางผู้ที่มาชุมนุมก็จะมีมาตรการขั้นต่อไป
