นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงความไม่ชอบมาพากลในหลายโครงการของกทม. ว่า ที่ตนแถลงเรื่องนี้ไม่ใช่ในฐานะรองโฆษกรัฐบาล แต่ทำในฐานะคนกทม. ที่เสียภาษี เนื่องจากพบว่า หลายโครงการของกทม. มีความไม่ชอบมาพากล และเป็นการใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย คือ
1. โครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอย จำนวน 4 โครงการ วงเงิน 4 พันกว่าล้านบาท ซึ่งโครงการขนาดใหญ่ มีเพียง 2 บริษัทเสนอราคา คือบริษัทอิทธิพร อิมปอร์ต จำกัด และ ห.จ.ก. ที.ไอ.พี. ออโต้พาร์ท และ 2 บริษัทดังกล่าว เป็นผู้ได้งานทั้งหมด ทั้งที่มีผู้ร่วมประมูล 13 ราย ซึ่งงบประมาณส่วนนี้อยู่ที่ สำนักงานสิ่งแวดล้อม มีนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.ดูแล ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการล็อกสเปกให้ 2 บริษัทเข้ามาดำเนินการได้
2.โครงการรถดูดล้างท่อขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 42 คัน ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น FRR90LZL ราคาคันละ 8,145,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 342 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 22 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นการยัดเยียดให้แต่ละเขต ทั้งที่ไม่มีการ้องขอ และยังพบว่า รถดังกล่าวไม่สามารถใช้การได้
3.โครงการจัดซื้อรถบดสั่นสะเทือนล้อเหล็ก จำนวน 5 ชุด รถขุดตีนตะขาบแขนยาว พร้อมหัวคีบตัดจำนวน 2 ชุด รถไสผิวถนน ขนาดความกว้างหัวไสไม่น้อยกว่า 2 เมตร พร้อมรถเทรลเลอร์หัวลาก และหางกึ่งพ่วงชานต่ำ ขนาดบรรทุกไม่น้อยกว่า 35 ตัน จำนวน 3 ชุด รวม 1 พันล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อรถแต่ละชุด ไม่ได้มีการระบุวงเงินการจัดซื้อ ทั้งนี้ มีการคุยเรื่องนี้เพียง 2 วัน ก็ตกลงจัดซื้อแล้ว
ทั้งนี้งบฯดังกล่าวนี้ อยู่ในงบประมาณปี 55 โดยงบฯ 1,000 ล้านบาท วางตัวเลขกลมๆ แต่ไม่ได้ระบุว่า 1 พันล้านบาท จะนำไปซื้ออะไร โดยนายธีระชน ได้โอนงบฯดังกล่าวให้สำนักงานโยธาธิการ 1 พันล้านบาท ภายใน 2 วัน และไม่มีการระบุสเปก และเงินส่วนนี้ 100 ล้านบาท ใช้งบฯปี 55 ส่วนอีก 900 ล้านบาท ใช้งบฯปี 56 จึงอยากถามว่า ถ้าไม่ทิ้งทวนก่อนครบวาระการเป็นผู้ว่าฯ หรือรองผู้ว่าฯ ทำไมไม่รอให้ผู้ว่าฯคนใหม่เข้ามาจัดสรรงบประมาณ ดำเนินการแบบนี้เพราะต้องการใช้งบฯให้หมดหรือไม่ ทั้งที่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนมกราคม 2556 นี้
" เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีหลายหน่วยงานทำหนังสือเปิดผนึกร้องเรียนมา เพราะโดนฮั้วประมูลโดยกทม. ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเปิดซองได้ตามกฎหมาย และ 2-3 บริษัท เป็นของพรรคประชาธิปัตย์เอง โครงการเหล่านี้ยังส่อพิรุธ เพราะกำหนดเงื่อนไขผู้เสนอราคาต้องเป็นผู้ผลิต หรือผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งโดยตรงจากผู้ผลิตคุรุภัณฑ์ทุกประเภท ภายใน 180 วัน
" ถือเป็นการกีดกันตัวแทนจำหน่ายอื่น ถ้าไม่หมายความว่าล็อกให้บริษัทที่ต้องการเข้ามา จะออกข้อกำหนดอย่างนี้ทำไม มันผิดกฎหมายชัดเจน เรื่องทั้งหมดผมจะมีการยื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยบริษัทที่เป็นผู้เสียหาย ที่ไม่สามารถเข้าร่วมการประมูลได้ เพราะมีการผูกขาดข้อกำหนดไว้ที่จะเป็นผู้ยื่นเอง นอกจากนี้ผมจะรวบรวมเอกสารทั้งหมดให้กับกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลด้วย" นายภักดีหาญส์ กล่าว
ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีที่นายนายภักดีหาญส์ เตรียมยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. ว่า ตนไม่ได้กำกับดูแลสำนักสิ่งแวดล้อม ตามที่นายภักดีหาญส์อ้างถึง ซึ่งโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัย นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ เป็นรองผู้ว่าฯกทม. และหากโครงการไหนที่ตนเองรับผิดชอบ และมีการร้องเรียนเข้ามา ตนจะส่งเรื่องกลับไปยังปลัดกทม. เสมอ อาทิ บริษัท วายแลนด์ จำกัด ได้ส่งหนังสือขอให้ทบทวนร่างของเขตงาน และร่างเอกสารการประมูลซื้อครุภัณฑ์ จำนวน 11 รายการ ซึ่งได้ส่งเรื่องมาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 55 ตนก็ได้ส่งเรื่องกลับไปยังปลัดกทม. ในวันที่ 2 ก.ค.55
"นายภักดีหาญส์ เตรียมรับหมายศาลได้เลย ผมเป็นคนสั่งสำนักสิ่งแวดล้อมเหรอ ตอนนี้จิรายุ มาแล้ว ธาริต มาแล้ว ต่อมาก็ภักดีหาญส์ ก็มาแล้ว ไม่เป็นไร เรามีทนายหลายชุด แต่ขออย่างเดียวอย่ามายุ่งกับชีวิตผม" นายธีระชน กล่าว
1. โครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอย จำนวน 4 โครงการ วงเงิน 4 พันกว่าล้านบาท ซึ่งโครงการขนาดใหญ่ มีเพียง 2 บริษัทเสนอราคา คือบริษัทอิทธิพร อิมปอร์ต จำกัด และ ห.จ.ก. ที.ไอ.พี. ออโต้พาร์ท และ 2 บริษัทดังกล่าว เป็นผู้ได้งานทั้งหมด ทั้งที่มีผู้ร่วมประมูล 13 ราย ซึ่งงบประมาณส่วนนี้อยู่ที่ สำนักงานสิ่งแวดล้อม มีนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.ดูแล ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการล็อกสเปกให้ 2 บริษัทเข้ามาดำเนินการได้
2.โครงการรถดูดล้างท่อขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 42 คัน ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น FRR90LZL ราคาคันละ 8,145,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 342 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 22 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นการยัดเยียดให้แต่ละเขต ทั้งที่ไม่มีการ้องขอ และยังพบว่า รถดังกล่าวไม่สามารถใช้การได้
3.โครงการจัดซื้อรถบดสั่นสะเทือนล้อเหล็ก จำนวน 5 ชุด รถขุดตีนตะขาบแขนยาว พร้อมหัวคีบตัดจำนวน 2 ชุด รถไสผิวถนน ขนาดความกว้างหัวไสไม่น้อยกว่า 2 เมตร พร้อมรถเทรลเลอร์หัวลาก และหางกึ่งพ่วงชานต่ำ ขนาดบรรทุกไม่น้อยกว่า 35 ตัน จำนวน 3 ชุด รวม 1 พันล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อรถแต่ละชุด ไม่ได้มีการระบุวงเงินการจัดซื้อ ทั้งนี้ มีการคุยเรื่องนี้เพียง 2 วัน ก็ตกลงจัดซื้อแล้ว
ทั้งนี้งบฯดังกล่าวนี้ อยู่ในงบประมาณปี 55 โดยงบฯ 1,000 ล้านบาท วางตัวเลขกลมๆ แต่ไม่ได้ระบุว่า 1 พันล้านบาท จะนำไปซื้ออะไร โดยนายธีระชน ได้โอนงบฯดังกล่าวให้สำนักงานโยธาธิการ 1 พันล้านบาท ภายใน 2 วัน และไม่มีการระบุสเปก และเงินส่วนนี้ 100 ล้านบาท ใช้งบฯปี 55 ส่วนอีก 900 ล้านบาท ใช้งบฯปี 56 จึงอยากถามว่า ถ้าไม่ทิ้งทวนก่อนครบวาระการเป็นผู้ว่าฯ หรือรองผู้ว่าฯ ทำไมไม่รอให้ผู้ว่าฯคนใหม่เข้ามาจัดสรรงบประมาณ ดำเนินการแบบนี้เพราะต้องการใช้งบฯให้หมดหรือไม่ ทั้งที่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนมกราคม 2556 นี้
" เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีหลายหน่วยงานทำหนังสือเปิดผนึกร้องเรียนมา เพราะโดนฮั้วประมูลโดยกทม. ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเปิดซองได้ตามกฎหมาย และ 2-3 บริษัท เป็นของพรรคประชาธิปัตย์เอง โครงการเหล่านี้ยังส่อพิรุธ เพราะกำหนดเงื่อนไขผู้เสนอราคาต้องเป็นผู้ผลิต หรือผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งโดยตรงจากผู้ผลิตคุรุภัณฑ์ทุกประเภท ภายใน 180 วัน
" ถือเป็นการกีดกันตัวแทนจำหน่ายอื่น ถ้าไม่หมายความว่าล็อกให้บริษัทที่ต้องการเข้ามา จะออกข้อกำหนดอย่างนี้ทำไม มันผิดกฎหมายชัดเจน เรื่องทั้งหมดผมจะมีการยื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยบริษัทที่เป็นผู้เสียหาย ที่ไม่สามารถเข้าร่วมการประมูลได้ เพราะมีการผูกขาดข้อกำหนดไว้ที่จะเป็นผู้ยื่นเอง นอกจากนี้ผมจะรวบรวมเอกสารทั้งหมดให้กับกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลด้วย" นายภักดีหาญส์ กล่าว
ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีที่นายนายภักดีหาญส์ เตรียมยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. ว่า ตนไม่ได้กำกับดูแลสำนักสิ่งแวดล้อม ตามที่นายภักดีหาญส์อ้างถึง ซึ่งโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัย นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ เป็นรองผู้ว่าฯกทม. และหากโครงการไหนที่ตนเองรับผิดชอบ และมีการร้องเรียนเข้ามา ตนจะส่งเรื่องกลับไปยังปลัดกทม. เสมอ อาทิ บริษัท วายแลนด์ จำกัด ได้ส่งหนังสือขอให้ทบทวนร่างของเขตงาน และร่างเอกสารการประมูลซื้อครุภัณฑ์ จำนวน 11 รายการ ซึ่งได้ส่งเรื่องมาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 55 ตนก็ได้ส่งเรื่องกลับไปยังปลัดกทม. ในวันที่ 2 ก.ค.55
"นายภักดีหาญส์ เตรียมรับหมายศาลได้เลย ผมเป็นคนสั่งสำนักสิ่งแวดล้อมเหรอ ตอนนี้จิรายุ มาแล้ว ธาริต มาแล้ว ต่อมาก็ภักดีหาญส์ ก็มาแล้ว ไม่เป็นไร เรามีทนายหลายชุด แต่ขออย่างเดียวอย่ามายุ่งกับชีวิตผม" นายธีระชน กล่าว