xs
xsm
sm
md
lg

แม่ใจสลายขอความเป็นธรรม ตาย1ไม่ได้สติ2สธ.ตั้งคกก.สอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "เจ๊ปิ๊ก" พาแม่เด็กบุก สธ.ร้องขอความเป็นธรรม รวดเดียว 3 ราย เด็กติดเชื้อจากทางช่องคลอดตาย1 ราย รอผลชันสูตร รายที่ 2 ระบุฉีดวัคซีนอาการหนักไม่ได้สติ รายที่ 3 คลอดในภาวะแทรกซ้อนนอนไอซียูยังไม่ได้สติ ปลัดสธ.สั่งตั้งคกก.ตรวจสอบ 2 รพ. 1 อนามัยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เบื้องต้นเยียวยาตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ไม่พิสูจน์ผิดถูกแล้ว

วานนี้ (27 ส.ค.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางนำผู้ร้องทุกข์จำนวน 3 ราย ได้แก่ นางมลจันทร์ คงเพ็ง อายุ 23 ปี น.ส.ศรีเนตร เอี่ยมรุ่งโรจน์ อายุ 28 ปี และนางสิรินทร์ ศรีจันทรา อายุ 30 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.

นางมลจันทร์ กล่าวว่า ตนได้คลอดบุตรที่โรงพยาบาลพุทธโสธร ในวันที่ 25 พ.ค. และต่อมาบุตรได้เสียชีวิตในวันที่ 26 พ.ค.ซึ่งแพทย์แจ้งว่าเด็กติดเชื้อจากทางช่องคลอด แต่ตนยังไม่ปักใจเชื่อในสาเหตุการเสียชีวิตของบุตร เนื่องจากตลอดระยะเวลาของการฝากครรภ์แพทย์ก็แจ้งว่าเด็กเด็กแข็งแรงและปกติ ด้วยเหตุนี้ตนจึงเข้าร้องต่อนางปวีณาและภายหลังจากการรับแจ้งนางปวีณา ได้ประสาน กับ พ.ต.อ.สนั่น บุญเผื่อน ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อทำหนังสือส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจแล้ว โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

ด้าน น.ส.ศรีเนตร กล่าวว่า ตนได้พาบุตรชายอายุ 2 เดือน ไปรับการรักษาที่สถานีอนามัยบึงกาสาม จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ด้วยอาการไอ เจ็บตา แต่พยาบาลกลับฉีดวัคซีนให้ ซึ่งตนพยายามแจ้งกับพยาบาลให้ทราบว่า ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ เนื่องจากบุตรคลอดก่อนกำหนด แต่พยาบาลก็ยังฉีดให้ ส่งผลให้พอกลับมาถึงบ้านไม่กี่ชั่วโมงบุตรก็มีอาการตัวร้อน ซึมลง ไม่กินนม จนเช้าวันที่ 9 ส.ค. บุตรมีอาการตัวเขียว จึงได้นำบุตรส่ง รพ.หนองเสือ โดยระหว่างทำการรักษาอยู่นั้นบุตรหยุดหายใจไป 1 ครั้ง แพทย์จึงให้ออกซิเจนหลังจากนั้นจึงส่งต่อไปที่ รพ.ปทุมธานี หมอแจ้งว่าเด็กขาดออกซิเจนทำให้ตัวซีดและมีไข้สูง โดยขณะนี้ทาง รพ.ให้การช่วยเหลือโดยการให้เลือด น้ำเกลือ และเครื่องช่วยหายใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อตนติดต่อไปยังสถานีอนามัยก็ไม่มีใครออกมารับผิดชอบและยังออกตอบกลับมาว่า ไม่ได้ทำร้ายเด็กแต่ช่วยเหลือเด็ก ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบ

ส่วนนางสิรินทร์ กล่าวว่า ตนมีกำหนดผ่าคลอดในวันที่ 1 ส.ค. แต่ว่าตนเจ็บท้องในวันที่ 29 ก.ค.ทำให้ต้องคลอดก่อนกำหนด จึงเดินทางไปที่ รพ.สมุทรปราการ เพื่อทำคลอดโดยใช้สิทธิบัตรทอง และตนได้แจ้งรายละเอียดกับพยาบาลให้ทราบก่อนแล้วว่า หมอนัดตนผ่าคลอดในวันที่ 1 ส.ค. เนื่องจากมีภาวะเบาหวาน ส่งผลให้เด็กในท้องตัวใหญ่ผิดปกติมีน้ำหนักเกือบ 5 กิโลกรัม แต่พยาบาลกลับบอกว่าหมอที่ฝากครรภ์ไม่ได้เข้าเวรวันนี้ ดังนั้นต้องคลอดเองไม่มีการผ่าตัด ทั้งนี้ตนก็ได้ย้ำอีกว่าต้องไม่มีแรงคลอดเองแต่พยาบาลก็ไม่รับฟัง จากนั้นพยาบาลให้ตนออกแรงเบ่ง ตนก็พยายามเบ่งแต่เนื่องจากมีภาวะเบาหวานจึงไม่มีแรงเบ่งมากพอ ส่งผลให้หัวของเด็กโผล่ออกมาจากช่องคลอดได้ แต่หัวไหล่ไม่สามารถออกมาได้ คอเด็กจึงคาอยู่ที่ช่องคลอดนานกว่า 15 นาที ทำให้เด็กหายใจไม่ออก หมอจึงตัดสินใจใช้วิธีหัตถการกับเด็กคือหักไหล่เด็กแล้วดึงตัวเด็กออกมา แต่พอบุตรออกมาตนก็สังเกตว่าบุตรชายหมดสติและไม่มีการร้อง จากนั้นหมอก็รีบนำตัวบุตรไปที่ห้องไอซียูแรกเกิด ต่อมาภายหลังทราบว่า จากการทำคลอดส่งผลให้บุตรชาย หัวไหลหัก แขนขวาหัก แขนซ้ายลีบไม่มีแรง ปอดติดเชื้ออวัยวะต่างๆในร่างกายไม่ทำงาน สมองสั่งการเพียง 10% ประสาทตาไม่ทำงานและมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง และที่สำคัญตอนหมอส่งบุตรไปห้องไอซียู ไม่ได้แจ้งกับตนว่าบุตรแขนขาหัก ซึ่งตนมาทราบหลังจากไปอยู่ห้องไอซียูแล้ว 2 สัปดาห์ ว่าบุตรแขนขาหัก ทั้งนี้ บุตรได้รับการใส่เฝือกเมื่อวันที่ 14 ส.ค. โดยขณะนี้บุตรยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลและยังไม่รู้สึกตัว ด้วยเหตุนี้ ตนจึงอยากขอความเป็นธรรมจึงเดินทางมาร้องเรียนในวันนี้

ด้าน นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ตนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนกรณีเด็กที่เสียชีวิตนั้นจะให้ตรวจสอบอีกครั้งโดยจะคอยผลการชันสูตรจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ต่อไป ทั้งนี้ตนจะสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกับ 2 โรงพยาบาลคือ รพ.พุทธโสธร ,รพ.สมุทรปราการ และสถานีอนามัยบึงกาสาม ที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นนั้นจะมีการให้พิจารณาชดเชยตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ซึ่งจะเยียวยาความเสียหายทางการแพทย์โดยไม่ต้องมีการพิสูจน์ผิดถูก โดยเป็นการรีบให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น