กระแสข่าวต่อต้านการที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ทักษิณเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ ได้ ทำให้คนไทยเกิดความกังขาข้องใจในพฤติกรรมการเมืองสามานย์ของสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่สังคมไทยในปัจจุบันก็ไม่ได้มีอะไรข้องใจและต่อต้านสหรัฐฯ ในเหตุการณ์ชั่วต่างตั้งแต่เรื่องอิรักและอัฟกานิสถานอย่างเป็นรูปธรรมหรือเป็นกระแสรุนแรง นอกจากการวิจารณ์ วิพากย์หรือตั้งแง่ตำหนิสหรัฐฯ บ้างในเรื่องการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่เน้นว่า “ชาติอื่นใดจงอย่าได้แทรกแซงกิจการภายในของประเทศใดก็ตาม” แต่สหรัฐฯ ก็เลือกปฏิบัติหรือใช้พลังทางการเมือง เศรษฐกิจ และกำลังทหารแทรกแซงโดยตรง เช่น การแทรกแซงอิรักด้วยการโฆษณาชวนเชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ทำทารุณกับชาวเคิร์ด หรือมีอาวุธร้ายแรงครอบครอง และการแทรกแซงลิเบีย พร้อมทั้งเริ่มเปิดยุทธการเด็ดหัว พันเอกกัดดาฟีด้วยการเครื่องบินรบ F-111 บินถล่มทำเนียบพันเอกกัดดาฟีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 แล้วแต่กัดดาฟีรอดในครั้งนั้น
เหตุการณ์เหล่านี้ คนไทยก็จะไม่ได้ให้ความสำคัญในเชิงสังคมการเมืองระหว่างประเทศเลย เพราะเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องการก่อการร้ายสากล เป็นการสะสมอาวุธชั่วร้าย และเป็นเรื่องความอำมหิตของผู้นำชั่วโหดร้ายซึ่งสังคมไทยไม่ชอบอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของคนไทยสังคมไทยจึงไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย ทั้งๆ ที่เมื่อความแตกว่าเรื่องทั้งหมดทั้งปวงเป็นเรื่องโกหกมดเท็จ เช่น การหาเรื่องบุกอิรักเพื่อให้สหประชาชาติลงมติเห็นชอบกับการบุกอิรักโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนเพราะครอบครองอาวุธร้ายแรง แต่เมื่อเข้าประเทศอิรักแล้วได้ทำการตรวจค้นอย่างละเอียดอย่างไรๆ ก็ไม่พบอาวุธร้ายแรงที่สหรัฐฯ กล่าวอ้าง ซึ่งเป็นเรื่องโกหกนี้สังคมไทยก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ยกเว้นนักวิชาการบางคน สื่อบางฉบับ หรือ NGO ต่างก็วิจารณ์พฤติกรรมอันธพาลทางทหาร และสงครามจารชนของสหรัฐฯเพียงเล็กน้อย
โลกในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศและยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งระบบการเงิน เศรษฐกิจ ครองอาณัติในการควบคุมโลก และสาเหตุของความขัดแย้งทางการค้าก็ยังเป็นต้นกำเนิดของความขัดแย้ง
ดังนั้นสงครามเย็นยุคที่ 2 เริ่มต้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 สาเหตุจากการประชุม APEC – Asia-Pacific Economic Cooperation ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และอดีตประธานาธิบดีบุช ได้ขอให้รัฐบาลจีนขึ้นค่าเงินหยวน แต่รัฐบาลจีนฉลาดพอที่จะเล่นเกมนี้ และไม่ได้ทำตามที่สหรัฐฯ ร้องขอ
สหรัฐฯ เสียดุลการค้ากับจีนอย่างมหาศาล ก็ถือว่าทำสงครามการค้าแพ้จีน เพราะจีนตักตวงกำไรจากผู้บริโภคอเมริกันซึ่งมีศักยภาพพลังการซื้อมากที่สุดในโลกด้วยประชากร 300 ล้านคน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ร่ำรวยจนจีนมีเงินสร้างจรวดและเทคโนโลยีไปอวกาศ สร้างกองเรือบรรทุกเครื่องบิน สร้างเครื่องบินรบไอพ่นล่องหน และสะสมขีปนาวุธยิงดาวเทียมในอวกาศได้อย่างมีประสิทธิภาพแม่นยำ
สงครามเย็นครั้งที่ 2 นี้จีนเป็นผู้นำ แต่ด้วยสำนึกของจีนแล้วเป็นประเทศที่ไม่ก้าวร้าว แต่อดทนและรอดูจังหวะ เราเห็นได้จากพฤติกรรมของการยึดหลักป้องกันดีกว่ารุกรานได้จากการสร้างกำแพงเมืองจีนยาว 20,000 กว่ากิโลเมตร เพื่อป้องกันการรุกรานจากพวกมองโกลเมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว
ในยุคปัจจุบันแนวป้องกันด้านตะวันออก ด้านใต้ และด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีนในภูมิภาคนี้เห็นได้ชัดเจนว่ารัศมีจากกรุงปักกิ่งหมุนผ่านแนวทะเลจีนใต้ อาเซียน และอินเดีย ปากีสถาน อันเป็นแนวปะทะกับแนวปิดล้อมของสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่หลังสงครามเวียดนาม
ดังนั้น อาณาบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไหหลำ ซึ่งมีจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบรูไน ต่างร้องสิทธิอธิปไตยเหนือหมู่เกาะเหล่านี้ ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล
แต่ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของจีนแล้วหมู่เกาะสแปรตลีย์ เป็นป้อมปราการสำคัญของการสงครามยุคใหม่ เพราะเป็นแนวป้องกันอิทธิพลทางนาวีนุภาพและการรุกรานของสหรัฐฯ หากเกิดสงคราม ทั้งยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ควบคุมเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลกอีกแห่งหนึ่งด้วย
ขณะนี้สหรัฐฯ และจีนเผชิญหน้ากันโดยตรง โดยบทวิเคราะห์ของ ดร.ซูพาช คาปิลา ได้กล่าวถึงนโยบายหรือยุทธศาสตร์การเฉือนไส้กรอกซาลามีของจีน ที่เฉือนทีละชิ้นๆ ไปเรื่อยหมายถึงการคืบคลานการครอบครองพื้นที่ทีละน้อย โดยไม่ยึดติดกับเวลา ดร.ซูพาช ยังกล่าวอ้างบทวิเคราะห์ของโรเบิร์ต แฮดคิค แห่งนิตยสารนโยบายการเมือง ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา กล่าวหาว่าจีนกำลังรุกรานพื้นที่ทะเลบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์เพื่อการยึดครองเอเซียตะวันออกและอาเซียน
อย่างไรก็ดี ฝ่ายที่สนับสนุนสหรัฐฯ ก็จะมองว่า จีนกำลังขยายอำนาจเพื่อกดดันสหรัฐฯ แต่ผู้เขียนมองตรงกันข้ามว่าสหรัฐฯ ต้องการปิดล้อมจีนมากกว่า และสร้างแนวทางกดดันบีบคั้นจีนอยู่ในขณะนี้
ความขัดแย้งระหว่างชาติอาเซียน โดยเฉพาะไทยกับกัมพูชาเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ทั้งจีนและสหรัฐฯ กำลังแสวงประโยชน์ โดยจีนซึ่งเป็นเจ้าหนี้กัมพูชาอยู่แล้ว ยอมสร้างเงื่อนไขเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด แต่ขณะเดียวกันจีนก็ยังคงต้องรักษาสัมพันธ์กับไทยไว้อย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องการรักษายุทธศาสตร์และทรัพยากรทางทะเล และขอให้ไทยปฏิเสธสหรัฐฯ เข้ามาตั้งฐานทัพเรือที่อู่ตะเภา หรือสถาปนาฐานทัพลอยน้ำในอ่าวไทยของสหรัฐฯ จีนจึงจำเป็นต้องญาติดีกับไทยมากที่สุด เพราะไทยไม่มีผลประโยชน์ได้เสียในหมู่เกาะสแปรตลีย์หรือข้องเกี่ยวโดยตรงกับความขัดแย้งของทั้งสองประเทศ ซึ่งสหรัฐฯ รู้เรื่องนี้ดี จึงจำเป็นพยายามเข้ามาใช้ประโยชน์จากประเทศไทยมากที่สุดด้วยวิธีการต่างๆ
นอกจากสงครามเย็นยุคที่ 2 ในเอเชียแล้ว การปฏิวัติชาติอาหรับโดยเฉพาะเหตุการณ์ในซีเรีย ซึ่งกลายเป็นหอกแหลมแทงใจสหรัฐฯ อยู่ เมื่อรัสเซียส่งเรือรบเข้าไปในน่านน้ำซีเรียด้วยหลายสาเหตุ เช่น สร้างความสมดุลทางการทหารให้เกิดขึ้นในซีเรีย เพราะ CIA สนับสนุนอาวุธ เครื่องมือสงครามสารสนเทศ สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และเงินให้กับกองกำลังต่อต้านประธานาธิบดีอัสซาด หรือปกป้องอำนาจอิทธิพลของรัสเซียในภูมิภาคทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เนื่องจากซีเรียมีท่าเรือสำคัญอยู่ 2 ท่า คือ แลตตาเคีย และตาร์ตุส ซึ่งเป็นท่าเรือยุทธศาสตร์สำคัญในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพราะหากสหรัฐฯ สามารถช่วงชิงเขตอิทธิพลได้แล้ว ปีกยุทธศาสตร์ด้านใต้ของรัสเซียก็จะถูกประกบด้วยตุรกีและซีเรียหากเกิดสงครามร้อนขึ้นระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และหากสหรัฐฯ มีอิทธิพลเหนือซีเรียแล้ว อิทธิพลสหรัฐฯ จะครอบครองตะวันออกกลางอย่างสมบูรณ์แบบ
ในการได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ 2 แนว คือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทะเลจีนใต้ อาเซียน และตะวันออกกลาง จึงกลายเป็นบำเหน็จที่ประธานาธิบดีโอบามาต้องการให้ได้มา เพื่อเอาใจปีกเหยี่ยวสงครามในรัฐสภาสหรัฐฯ
การสั่งการให้กระทรวงการการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกวีซ่าให้ทักษิณ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์นี้ เพราะกำลังแก้วสามประการของทักษิณประกอบด้วยพรรคการเมือง กำลังมวลชนและกองกำลังติดอาวุธซึ่ง CIA มีส่วนร่วมในการให้ทุนสถาปนาหมู่บ้านแดง รวมทั้งอำนาจเงิน และอำนาจมืดทางการเมืองของทักษิณนั้น พวกล็อบบี้ยิสต์อเมริกันรู้ดีและหวังใช้ประโยชน์ และคนหนึ่งที่รู้ดีคือ นายสตีเฟน เพน ล็อบบี้ยิสต์หนุ่มที่รับคำขอของทักษิณไปกินกลางวันกันที่ฮุสตัน รัฐเท็กซัส เพื่อการต่อรองและเสนอบำเหน็จรางวัลให้ทักษิณ
ทักษิณต้องการให้สหรัฐฯ สร้างภาพความบริสุทธ์ของเขาและทำให้ขบวนการยุติธรรมของไทยเป็นเรื่องการเมืองภายในเหมือนกับหลายประเทศกำลังพัฒนาที่กำจัดผู้นำชั่วและถูกขับออกจากประเทศโดยประชาชนหรือทหารกระทำรัฐประหารก็ตาม แต่ถ้าเคยช่วยสหรัฐฯ ก็จะช่วยให้ที่พักพิงและไม่โจมตีทับถม รวมทั้งให้โลกและสังคมไทยมองว่าทักษิณเป็นผู้นิยมประชาธิปไตย และเป็นแบบอย่างของผู้นำประชาธิปไตย และให้สหรัฐฯ วิจารณ์ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2549 นั้น เป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศที่ประสงค์ขจัดทักษิณ
ส่วนสหรัฐฯ ต้องการอำนาจอิทธิพลเหนือรัฐบาลไทย สามารถบงการรัฐบาลไทยได้ สามารถให้ไทยเป็นตัวเชื่อมกลุ่มประเทศอาเซียน และให้สหรัฐฯ สถาปนาฐานทัพในประเทศไทยได้ง่ายๆ และเป็นรูปแบบอะไรก็ตามที่สถานการณ์จะพาไป เช่น เชิงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์บังหน้าแต่แฝงการทหารไว้เบื้องหลัง หรือสหรัฐฯ สามารถสถาปนาฐานทัพเรือลอยน้ำในอ่าวไทยก็ได้เมื่อต้องการ
นี่คือเหตุและผลที่ทักษิณและสหรัฐฯ กำลังดำเนินการอยู่เพื่อผลประโยชน์ร่วม และคาดหวังว่าทักษิณจะทำได้ เพราะเขาเป็นคนตั้งน้องสาวให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประธานาธิบดีโอบามา ได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 และเหตุทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์เรื่องราวที่สังคมไทยต้องศึกษาพฤติกรรมของนาย Stephen Payne นักล็อบบี้ยิสต์สายตระกูลบุชแห่งมลรัฐเท็กซัสซึ่งให้ความนับถือทักษิณและเป็นสายสามานย์ทั้งคู่
การที่สหรัฐฯ ใช้ความพยายามสร้างอิทธิพลเหนือการเมืองไทย การไม่เคารพขบวนการยุติธรรมของไทยและการใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือดำเนินกลยุทธ์ทางยุทธศาสตร์ครอบครองภูมิภาคเอเชียตะวันออกและอาเซียนเป็นการดูหมิ่นเกียรติและปัญญาคนไทย พฤติกรรมนี้แทงใจคนไทย เราจึงผนึกกำลังต่อต้านทางการสหรัฐฯเพื่อให้คนอเมริกันจัดการกับพฤติกรรมชั่วทางการเมืองของรัฐบาลสหรัฐฯ อยากให้คนอเมริกันใช้สิทธิ์ Magna Carta ตามอุดมการณ์ดั่งเดิมเพื่อรักษาสัมพันธ์อันดีระหว่างคนอเมริกันกันคนไทยและเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ จัดการกับทักษิณ
เหตุการณ์เหล่านี้ คนไทยก็จะไม่ได้ให้ความสำคัญในเชิงสังคมการเมืองระหว่างประเทศเลย เพราะเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องการก่อการร้ายสากล เป็นการสะสมอาวุธชั่วร้าย และเป็นเรื่องความอำมหิตของผู้นำชั่วโหดร้ายซึ่งสังคมไทยไม่ชอบอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของคนไทยสังคมไทยจึงไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย ทั้งๆ ที่เมื่อความแตกว่าเรื่องทั้งหมดทั้งปวงเป็นเรื่องโกหกมดเท็จ เช่น การหาเรื่องบุกอิรักเพื่อให้สหประชาชาติลงมติเห็นชอบกับการบุกอิรักโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนเพราะครอบครองอาวุธร้ายแรง แต่เมื่อเข้าประเทศอิรักแล้วได้ทำการตรวจค้นอย่างละเอียดอย่างไรๆ ก็ไม่พบอาวุธร้ายแรงที่สหรัฐฯ กล่าวอ้าง ซึ่งเป็นเรื่องโกหกนี้สังคมไทยก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ยกเว้นนักวิชาการบางคน สื่อบางฉบับ หรือ NGO ต่างก็วิจารณ์พฤติกรรมอันธพาลทางทหาร และสงครามจารชนของสหรัฐฯเพียงเล็กน้อย
โลกในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศและยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งระบบการเงิน เศรษฐกิจ ครองอาณัติในการควบคุมโลก และสาเหตุของความขัดแย้งทางการค้าก็ยังเป็นต้นกำเนิดของความขัดแย้ง
ดังนั้นสงครามเย็นยุคที่ 2 เริ่มต้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 สาเหตุจากการประชุม APEC – Asia-Pacific Economic Cooperation ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และอดีตประธานาธิบดีบุช ได้ขอให้รัฐบาลจีนขึ้นค่าเงินหยวน แต่รัฐบาลจีนฉลาดพอที่จะเล่นเกมนี้ และไม่ได้ทำตามที่สหรัฐฯ ร้องขอ
สหรัฐฯ เสียดุลการค้ากับจีนอย่างมหาศาล ก็ถือว่าทำสงครามการค้าแพ้จีน เพราะจีนตักตวงกำไรจากผู้บริโภคอเมริกันซึ่งมีศักยภาพพลังการซื้อมากที่สุดในโลกด้วยประชากร 300 ล้านคน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ร่ำรวยจนจีนมีเงินสร้างจรวดและเทคโนโลยีไปอวกาศ สร้างกองเรือบรรทุกเครื่องบิน สร้างเครื่องบินรบไอพ่นล่องหน และสะสมขีปนาวุธยิงดาวเทียมในอวกาศได้อย่างมีประสิทธิภาพแม่นยำ
สงครามเย็นครั้งที่ 2 นี้จีนเป็นผู้นำ แต่ด้วยสำนึกของจีนแล้วเป็นประเทศที่ไม่ก้าวร้าว แต่อดทนและรอดูจังหวะ เราเห็นได้จากพฤติกรรมของการยึดหลักป้องกันดีกว่ารุกรานได้จากการสร้างกำแพงเมืองจีนยาว 20,000 กว่ากิโลเมตร เพื่อป้องกันการรุกรานจากพวกมองโกลเมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว
ในยุคปัจจุบันแนวป้องกันด้านตะวันออก ด้านใต้ และด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีนในภูมิภาคนี้เห็นได้ชัดเจนว่ารัศมีจากกรุงปักกิ่งหมุนผ่านแนวทะเลจีนใต้ อาเซียน และอินเดีย ปากีสถาน อันเป็นแนวปะทะกับแนวปิดล้อมของสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่หลังสงครามเวียดนาม
ดังนั้น อาณาบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไหหลำ ซึ่งมีจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบรูไน ต่างร้องสิทธิอธิปไตยเหนือหมู่เกาะเหล่านี้ ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล
แต่ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของจีนแล้วหมู่เกาะสแปรตลีย์ เป็นป้อมปราการสำคัญของการสงครามยุคใหม่ เพราะเป็นแนวป้องกันอิทธิพลทางนาวีนุภาพและการรุกรานของสหรัฐฯ หากเกิดสงคราม ทั้งยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ควบคุมเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลกอีกแห่งหนึ่งด้วย
ขณะนี้สหรัฐฯ และจีนเผชิญหน้ากันโดยตรง โดยบทวิเคราะห์ของ ดร.ซูพาช คาปิลา ได้กล่าวถึงนโยบายหรือยุทธศาสตร์การเฉือนไส้กรอกซาลามีของจีน ที่เฉือนทีละชิ้นๆ ไปเรื่อยหมายถึงการคืบคลานการครอบครองพื้นที่ทีละน้อย โดยไม่ยึดติดกับเวลา ดร.ซูพาช ยังกล่าวอ้างบทวิเคราะห์ของโรเบิร์ต แฮดคิค แห่งนิตยสารนโยบายการเมือง ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา กล่าวหาว่าจีนกำลังรุกรานพื้นที่ทะเลบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์เพื่อการยึดครองเอเซียตะวันออกและอาเซียน
อย่างไรก็ดี ฝ่ายที่สนับสนุนสหรัฐฯ ก็จะมองว่า จีนกำลังขยายอำนาจเพื่อกดดันสหรัฐฯ แต่ผู้เขียนมองตรงกันข้ามว่าสหรัฐฯ ต้องการปิดล้อมจีนมากกว่า และสร้างแนวทางกดดันบีบคั้นจีนอยู่ในขณะนี้
ความขัดแย้งระหว่างชาติอาเซียน โดยเฉพาะไทยกับกัมพูชาเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ทั้งจีนและสหรัฐฯ กำลังแสวงประโยชน์ โดยจีนซึ่งเป็นเจ้าหนี้กัมพูชาอยู่แล้ว ยอมสร้างเงื่อนไขเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด แต่ขณะเดียวกันจีนก็ยังคงต้องรักษาสัมพันธ์กับไทยไว้อย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องการรักษายุทธศาสตร์และทรัพยากรทางทะเล และขอให้ไทยปฏิเสธสหรัฐฯ เข้ามาตั้งฐานทัพเรือที่อู่ตะเภา หรือสถาปนาฐานทัพลอยน้ำในอ่าวไทยของสหรัฐฯ จีนจึงจำเป็นต้องญาติดีกับไทยมากที่สุด เพราะไทยไม่มีผลประโยชน์ได้เสียในหมู่เกาะสแปรตลีย์หรือข้องเกี่ยวโดยตรงกับความขัดแย้งของทั้งสองประเทศ ซึ่งสหรัฐฯ รู้เรื่องนี้ดี จึงจำเป็นพยายามเข้ามาใช้ประโยชน์จากประเทศไทยมากที่สุดด้วยวิธีการต่างๆ
นอกจากสงครามเย็นยุคที่ 2 ในเอเชียแล้ว การปฏิวัติชาติอาหรับโดยเฉพาะเหตุการณ์ในซีเรีย ซึ่งกลายเป็นหอกแหลมแทงใจสหรัฐฯ อยู่ เมื่อรัสเซียส่งเรือรบเข้าไปในน่านน้ำซีเรียด้วยหลายสาเหตุ เช่น สร้างความสมดุลทางการทหารให้เกิดขึ้นในซีเรีย เพราะ CIA สนับสนุนอาวุธ เครื่องมือสงครามสารสนเทศ สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และเงินให้กับกองกำลังต่อต้านประธานาธิบดีอัสซาด หรือปกป้องอำนาจอิทธิพลของรัสเซียในภูมิภาคทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เนื่องจากซีเรียมีท่าเรือสำคัญอยู่ 2 ท่า คือ แลตตาเคีย และตาร์ตุส ซึ่งเป็นท่าเรือยุทธศาสตร์สำคัญในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพราะหากสหรัฐฯ สามารถช่วงชิงเขตอิทธิพลได้แล้ว ปีกยุทธศาสตร์ด้านใต้ของรัสเซียก็จะถูกประกบด้วยตุรกีและซีเรียหากเกิดสงครามร้อนขึ้นระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และหากสหรัฐฯ มีอิทธิพลเหนือซีเรียแล้ว อิทธิพลสหรัฐฯ จะครอบครองตะวันออกกลางอย่างสมบูรณ์แบบ
ในการได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ 2 แนว คือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทะเลจีนใต้ อาเซียน และตะวันออกกลาง จึงกลายเป็นบำเหน็จที่ประธานาธิบดีโอบามาต้องการให้ได้มา เพื่อเอาใจปีกเหยี่ยวสงครามในรัฐสภาสหรัฐฯ
การสั่งการให้กระทรวงการการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกวีซ่าให้ทักษิณ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์นี้ เพราะกำลังแก้วสามประการของทักษิณประกอบด้วยพรรคการเมือง กำลังมวลชนและกองกำลังติดอาวุธซึ่ง CIA มีส่วนร่วมในการให้ทุนสถาปนาหมู่บ้านแดง รวมทั้งอำนาจเงิน และอำนาจมืดทางการเมืองของทักษิณนั้น พวกล็อบบี้ยิสต์อเมริกันรู้ดีและหวังใช้ประโยชน์ และคนหนึ่งที่รู้ดีคือ นายสตีเฟน เพน ล็อบบี้ยิสต์หนุ่มที่รับคำขอของทักษิณไปกินกลางวันกันที่ฮุสตัน รัฐเท็กซัส เพื่อการต่อรองและเสนอบำเหน็จรางวัลให้ทักษิณ
ทักษิณต้องการให้สหรัฐฯ สร้างภาพความบริสุทธ์ของเขาและทำให้ขบวนการยุติธรรมของไทยเป็นเรื่องการเมืองภายในเหมือนกับหลายประเทศกำลังพัฒนาที่กำจัดผู้นำชั่วและถูกขับออกจากประเทศโดยประชาชนหรือทหารกระทำรัฐประหารก็ตาม แต่ถ้าเคยช่วยสหรัฐฯ ก็จะช่วยให้ที่พักพิงและไม่โจมตีทับถม รวมทั้งให้โลกและสังคมไทยมองว่าทักษิณเป็นผู้นิยมประชาธิปไตย และเป็นแบบอย่างของผู้นำประชาธิปไตย และให้สหรัฐฯ วิจารณ์ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2549 นั้น เป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศที่ประสงค์ขจัดทักษิณ
ส่วนสหรัฐฯ ต้องการอำนาจอิทธิพลเหนือรัฐบาลไทย สามารถบงการรัฐบาลไทยได้ สามารถให้ไทยเป็นตัวเชื่อมกลุ่มประเทศอาเซียน และให้สหรัฐฯ สถาปนาฐานทัพในประเทศไทยได้ง่ายๆ และเป็นรูปแบบอะไรก็ตามที่สถานการณ์จะพาไป เช่น เชิงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์บังหน้าแต่แฝงการทหารไว้เบื้องหลัง หรือสหรัฐฯ สามารถสถาปนาฐานทัพเรือลอยน้ำในอ่าวไทยก็ได้เมื่อต้องการ
นี่คือเหตุและผลที่ทักษิณและสหรัฐฯ กำลังดำเนินการอยู่เพื่อผลประโยชน์ร่วม และคาดหวังว่าทักษิณจะทำได้ เพราะเขาเป็นคนตั้งน้องสาวให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประธานาธิบดีโอบามา ได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 และเหตุทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์เรื่องราวที่สังคมไทยต้องศึกษาพฤติกรรมของนาย Stephen Payne นักล็อบบี้ยิสต์สายตระกูลบุชแห่งมลรัฐเท็กซัสซึ่งให้ความนับถือทักษิณและเป็นสายสามานย์ทั้งคู่
การที่สหรัฐฯ ใช้ความพยายามสร้างอิทธิพลเหนือการเมืองไทย การไม่เคารพขบวนการยุติธรรมของไทยและการใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือดำเนินกลยุทธ์ทางยุทธศาสตร์ครอบครองภูมิภาคเอเชียตะวันออกและอาเซียนเป็นการดูหมิ่นเกียรติและปัญญาคนไทย พฤติกรรมนี้แทงใจคนไทย เราจึงผนึกกำลังต่อต้านทางการสหรัฐฯเพื่อให้คนอเมริกันจัดการกับพฤติกรรมชั่วทางการเมืองของรัฐบาลสหรัฐฯ อยากให้คนอเมริกันใช้สิทธิ์ Magna Carta ตามอุดมการณ์ดั่งเดิมเพื่อรักษาสัมพันธ์อันดีระหว่างคนอเมริกันกันคนไทยและเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ จัดการกับทักษิณ