บุกสถานทูตจี้แจงเหตุให้วีซ่า-สะพัดมะกันไล่แม้ว-ผวาพธม.ดี.ซี.ไล่เผ่นหนีโผล่ฮาวาย

ASTVผู้จัดการรายวัน - พันธมิตรฯ ร่วมเครือข่ายคนไทยรักชาติบุกสถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศไทย จี้สาเหตุให้วีซ่า “นช.แม้ว” ขณะที่ พันธมิตรฯ วอชิงตัน ดี.ซี.ไล่ขับทำ “นายใหญ่” อดกินข้าวร้านอาหารไทย สะพัดรัฐบาลโอบามา จี้ “แม้ว”งดเดินทางต่อ และให้ออกนอกสหรัฐฯ ทันที “นพเหล่”รับนายใหญ่ออกจากแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ไปพักผ่อนเกาะฮาวาย ด้านสื่ออิหร่าน จวกสหรัฐฯ ต้อนรับเผด็จการสังหารหมู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ส.ค.) เวลา 10.00 น. กลุ่มพันธมิตรประชาเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงกลุ่มเครือข่ายเฟซบุ๊คนัดชุมนุมที่หน้าสถานทูตอเมริกา ถนนวิทยุ เพื่อยื่นหนังสือฯประท้วงกรณีสหรัฐให้วีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี

**สยบสื่อไทย “บิดประเด็น”

อีกด้านผู้ใช้ชื่อว่า“ทัพหน้า” ได้ส่งภาพชุดเพื่อให้สังคมทั่วไปหายกังขา กับสื่อไทยบางฉบับที่บิดเบือนประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นกับสุภาพสตรีผู้รักความเป็นธรรมที่ออกมาร่วมชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ลอสแองเจลิส แล้วถูกจับใส่กุญแจมือ โดยมีการนำไปขยายความบิดเบือน ว่า มีพันธมิตรฯ 8 คน ถูกจับกุม จึงขอนำเสนอภาพเหตุการณ์จริง 5 ภาพ ที่เกิดขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สตรีคนดังกล่าวไม่ได้ถูกจับกุมแต่อย่างใด

** สะพัดรบ.โอบามา จี้งดเดินทางต่อ

ขณะเดียวกัน วานนี้ (16 ส.ค.) หลังจากถูกพันธมิตรฯ และกลุ่มคนไทยรักชาติรวมตัวขับไล่ที่นครลอสแองเจลิส จนต้องยกเลิกโแปรแกรมปราศรัยกับคนเสื้อแดงที่ไทยแลนด์พลาซา เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี ก็ต้องเจอกับการต่อต้านเช่นเดิม เมื่อถูกพันธมิตรฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.และเมืองใกล้เคียง รวมตัวกันขับไล่จนไม่กล้าเดินทางไปรับประทานอาหารที่ร้านไทยกาแล ในเขตอเล็กซานเดรีย

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางพบปะคนเสื้อแดงและเจรจาทางธุรกิจในสหรัฐอเมริกา มีกำหนดจะไปรับประทานอาหารที่ร้านไทยกาแล ฮอฟแมน ทาวน์ เซ็นเตอร์ เลขที่ 215 ถนนสแวมป์ฟอกซ์ เมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งอยู่ติดกับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันพุธที่ 15 สิงหาคม เวลาประมาณ 18.00-19.00 น. (ตี 5-6 โมงเช้า ของวันที่ 16 สิงหาคม ตามเวลาในไทย) ซึ่งปรากฏว่าเมื่อพันธมิตรฯ ในพื้นที่ทราบข่าวจึงได้นัดรวมตัวกันเพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 15 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีพันธมิตรฯ และคนไทยรักชาติจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รัฐเวอร์จิเนีย และรัฐแมรีแลนด์ รวมตัวกันประมาณ 150 คน ชูป้ายและแผ่นผ้ามีข้อความประท้วงและขับไล่ ที่หน้าร้านไทยกาแล จนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มารับประทานอาหารตามนัดหมาย และมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ไปแอบรับประทานอาหารอยู่อีกร้านหนึ่ง โดยมีเสื้อแดงไปต้อนรับ 4-5 คน

ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ขอให้งดเดินทางต่อและให้เดินทางออกนอกประเทศสหรัฐอเมริกาในทันที

** “ทูตมะกัน”แจ้นคารวะมท.1

เวลา 9.30 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าพบ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ซึ่งได้ใช้เวลาในการหารือกันประมาณ 10 นาที โดยนางคริสตี้ กล่าวหลังการเข้าพบว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะนายยงยุทธ และหารือในเรื่องของแนวทางการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในเมียนม่าร์ ที่สหรัฐฯ จะช่วยดูแลและให้บางส่วนอพยพไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ นอกจากนี้ นายยงยุทธ ได้มีการชี้แจงถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้รับฟังว่าตอนนี้รัฐบาลกำลังใช้นโยบายดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เหตุการณ์ในพื้นที่เกิดความสงบ

**ให้ถามรบ.ไทยส่งผู้ร้ายข้ามแดน

ส่วนกรณีที่สหรัฐฯออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นางคริสตี้ กล่าวว่า การออกวีซ่าทุกฉบับเป็นการดำเนินการภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ ซึ่งตามปกติในแต่ละปีทางสหรัฐฯก็ออกวีซ่าให้คนไทยปีละประมาณ1หมื่นคน
เมื่อถามต่อว่า รู้แปลกใจหรือไม่ที่รัฐบาลไทยไม่ยื่นเรื่องส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน นางคริสตี้ กล่าวว่า เรื่องนี้ให้ไปถามทางรัฐบาลไทย

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าว ว่า ไม่ได้มีการหารือถึงเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนางคริสตี้ ก็ยืนยันแล้วว่า เป็นการทำภายใต้กฎหมายของสหรัฐ ทั้งนี้ไม่ควรโยงเรื่องต่าง ๆ เป็นเรื่องการเมือง ส่วนประเด็นหลักที่มีการหารือ คือ สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย และเรื่องผู้อพยพชาวพม่า ที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ทางเราก็อำนวยความสะดวกและดูแล เผื่อเขาอยากจะมาเยี่ยมหรือสอบถามต่างๆ ซึ่งเร็วๆนี้จะมีการเลือกคนจะไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐ

** “นพดล”อ้างนายใหญ่ยังอยู่ฮาวาย

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ กระแสข่าวในเว็บว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกสหรัฐสั่งให้ยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศนั้น ส่วนตัวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่เป็นความจริง และยังอยู่ในรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามปกติ พร้อมระบุ การเยือนสหรัฐครั้งนี้ ไม่ใช่การเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายและการเดินทางเท่านั้น พร้อมชมสื่อมวลชนที่สอบถามความจริงก่อนลงข่าว และแขวะเว็บไซต์ที่ลือว่า ตนเองมีภรรยาแล้ว ทั้งๆ ที่ยังโสด

ต่อมานายนพดล ส่งเอกสารข่าวผ่านทางอีเมลล์ ถึงสื่อมวลชนว่า ตามที่มีการเสนอข่าวเท็จในเวปที่อ้างเป็นสื่อมวลชนว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกสหรัฐอเมริกาสั่งให้ยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองในสหรัฐและขอให้เดินทางออกนอกประเทศนั้นได้ตรวจสอบข่าวดังกล่าวแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ฟังแล้วได้แต่หัวเราะพร้อมยืนยันว่าไม่จริง เป็นข่าวเท็จที่ถูกปล่อยในเวปต่างๆจากพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองเจ้าประจำเพื่อสร้างความสับสน พวกนี้เอาทุกทางแม้แต่เต้าข่าวขึ้นมาและการปล่อยข่าวเท็จของคนกลุ่มนี้ในเรื่องต่างๆ ได้สร้างความเสียหายให้ประเทศไทยมามากแล้ว ประชาชนรู้ทันจึงอยากให้เลิกพฤติกรรมเช่นนี้เสีย ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ฮาวายตามปกติ และการไปอเมริกาก็ไม่ใช่การเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เป็นการเดินทางไปพบปะนักธุรกิจ นักการเมือง และผู้สนับสนุน.

**อิหร่าน”จวกต้อนรับ”เผด็จการ”

นายโทนี คาร์ตาลุชชี เขียนบทความลงในแอคทิวิสต์โพสต์ หัวข้อ “Hypocrisy: Syria Burns While Mass Murdering Dictator Roams Freely in” (เสแสร้ง: ซีเรียลุกไหม้ขณะที่เผด็จการสังหารหมู่เตร็ดเตร่อย่างเสรี) ซึ่งเว็บไซต์ข่าวของอิหร่านและโลกตะวันออกกลาง Hamsayeh.Net นำมาเผยแพร่อีกทอด

ในบทความนี้ผู้เขียนเจตนาโจมตีความหลอกลวงของรัฐบาลสหรัฐ ที่กำลังให้การต้อนรับพะเน้าพะนอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อ่านต่อหน้า ที่เขาเรียกว่าเผด็จการสังหารหมู่ที่กำลังหลบหนีคดี แต่อีกด้านกลับตำหนิรัฐบาลซีเรีย ที่เขากล่าวว่ากำลังสู้รบกับพวกอัลกออิดะห์

โดยกล่าวโจมตีอดีตนายกรัฐมนตรีไทย ที่ใช้นโยบายฆ่าตัดตอนผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็น “ผู้ค้ายาเสพติด” ไปเกือบ 2,800 รายในช่วงเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2546 ซึ่งการสอบสวนภายหลังพบว่า ผู้ที่ถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมกว่าครึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย ข้อมูลนี้ได้รับการ ยืนยันในรายงานของฮิวแมนไรต์วอตช์ “Thailand’s war on drugs’” เมื่อปี2551 ซึ่งเป็นรายงานต่อจากฉบับยืดยาวชื่อ”Not Enough Graves” ของปี 2547 ทว่าจนถึงทุกวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้รับผิดชอบต่อการรณรงค์ฆ่าหมู่ทั่วประเทศ ยังไม่ได้เคยถูกตั้งข้อกล่าวหาทั้งโดยรัฐไทยหรือองค์กรระหว่างประเทศ

กระนั้น หลังจากเที่ยวรื้อองค์กรตรวจสอบถ่วงดุล ใช้อำนาจกดขี่เสรีภาพพลเมืองมากขึ้นและปราบปรามสื่อที่วิจารณ์เขาในปี 2549 ระบอบเผด็จการทักษิณก็ถึงกาลอวสานจากการรัฐประหารอย่างสันติ ที่ทำให้เขาต้องหลบหนีออกนอกประเทศ ตอนแรกเขาเข้าไปหลบภัยในอังกฤษ แล้วต่อมาถึงปัจจุบันก็อยู่ที่ดูไบในยูเออี น่าประหลาดใจที่เผด็จการฆ่าหมู่ผู้นี้ไม่เพียงได้ที่พักพิงในอังกฤษ แต่เขายังได้รับอนุญาตให้ซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี เมื่อปี2550 ตอนนั้นบีบีซีรายงานว่า มีความกังวลเกี่ยวกับที่มาของเงินทุนว่าอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเขากำลังถูกสอบสวนคดีคอรัปชั่นหลายข้อกล่าวหา แต่การซื้อขายยังเดินหน้าโดยไม่มีการคอรัปชั่นหลายข้อกล่าวหา แต่การซื้อขายยังเดินหน้าโดยไม่มีการกล่าวถึงการฆ่าตัดตอน 2,800 ศพ

ปี 2551 ทักษิณถูกตัดสินจำคุก 2 ปีในคดีคอรัปชั่น แต่เขาหลบออกมาก่อนคำตัดสินแล้ว ฉะนั้นฐานะของเขาคือนักโทษหนีคดี แม้รัฐบาลหุ่นเชิดหลายชุดได้พยายามขออภัยโทษ/นิรโทษคำพิพากษา ครั้งหนึ่งในยุคของน้องเขยทักษิณ และตอนนี้เป็นรัฐบาลน้องสาวของเขา แต่ทักษิณก็ยังคงหลบหนีคดีอยู่ในต่างแดน

บทความชี้ให้เห็นความเสแสร้งของรัฐบาลสหรัฐว่า ด้วยเหตุที่สหรัฐเคยใช้การทหารแทรกแซงซีเรียด้วยข้ออ้าง “ความรับผิดชอบต่อการปกป้องคุ้มครอง” และตอนนี้นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศ กำลังใคร่ครวญจะแทรกแซงซีเรีย สหรัฐควรจะเป็นสถานที่สุดท้ายบนโลกใบนี้ที่จะพบอาชญากรหนีคดีที่กระทำผิดเข่นฆ่าพลเรือนบริสุทธิ์ 2,800 คน แต่ทว่าตอนนี้ทักษิณมาอยู่ที่สหรัฐแล้ว ล่าสุดเขาปรากฏตัวที่แคลิฟอร์เนีย ใกล้เมืองแอลเอที่ซึ่งคนไทย 2,000 คนชุมนุมประท้วงเขาหน้าสถานที่ที่ทักษิณกำลังจะปราศรัยกับคนเสื้อแดง “น่าอายที่คนไทย 2,000 คนต้องทำในสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศควรทำ คือขับไล่เผด็จการทรราชฆ่าหมู่กลับไป” บทความกล่าว

ผู้เขียนเปรียบเทียบด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดในไทยไม่เหมือนในซีเรีย ไทยไม่มีผู้ก่อการร้ายต่างชาติไล่ยิงตำรวจ-ทหาร บุกจู่โจมเมืองเล็กเมืองน้อย ทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ผู้คนที่ถูกฆ่าตามท้องถนนในไทยเมื่อปี2546 ไม่ได้เป็นผู้ประท้วงด้วยซ้ำ พวกเขาเป็นคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตปรกติ ไม่มีอาวุธ และถูกฆ่าโดยไม่ทันตั้งตัว รายงานของฮิวแมนไรต์วอตช์ฉบับปี 2543 และอีกทีปี 2551 ออกเผยแพร่เพราะรัฐบาลตัวแทนของทักษิณขณะนั้น กำลังมีแผนจะกลับมาใช้นโยบายฆ่าตัดตอนแบบนี้อีก

บทความตั้งคำถามว่า เหตุใดสหรัฐจึงใช้สองมาตรฐาน โดย ออกวีซ่าให้ทักษิณ อาชญากร, นักโทษหนีคดี, ฆาตกรฆ่าหมู่, บุคคล ที่บงการกลไกการเมืองอันดกดื่นด้วยการเล่นพรรคเล่นพวก,ฆาต กรรม, ข่มขู่คุกคาม และคอรัปชั่นอย่างกว้างขวาง เหตุใดทักษิณ ผู้กระทำความผิดในโลกแห่งความเป็นจริง จึงไปไหนมาไหนก็ได้ในกระทำความผิดในโลกแห่งความเป็นจริง จึงไปไหนมาไหนก็ได้ในสหรัฐ คำตอบอยู่ที่ผู้นั้นมีความเข้าใจความทุจริตฉ้อฉลของสหรัฐอย่างลึกซึ้งเพียงใด

คาร์ตาลุชชี อ้างข้อมูลว่า ทักษิณ ชินวัตร ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีได้พยายามแสวงโอกาสการลงทุนในวอลสตรีทและลอนดอนควบคู่กับการไต่เต้าทางการเมือง รายงานของเนชั่นปี 2544 โดยทนง ขันทอง ระบุว่า คาร์ไลล์กรุ๊ปเคยตั้งให้เขาเป็นที่ปรึกษากลางปี 2541 ทักษิณยังเคยพยายามใช้สายสัมพันธ์กับอเมริ กาส่งเสริมภาพพจน์ทางการเมืองในช่วงที่เขาก่อตั้งพรรคไทยรัก ไทย เขาเชิญบุชผู้พ่อมาเยือนกรุงเทพฯ บอกว่าภารกิจของเขาคือเป็นพ่อสื่อระหว่างกองทุนจากสหรัฐกับธุรกิจไทยเขายังเชิญเจมส์ เบเกอร์ ที่สาม รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในยุคจอร์จ บุช มาเที่ยวไทยเมื่อเดือนมีนาคมปีนั้น

เมื่อได้เป็นนายกรัฐมนตรีปี2544 ทักษิณเริ่มตอบแทนการสนับสนุนจากผู้อุปถัมภ์ชาวตะวันตกของเขา ในปี 2546 เขาส่งทหารไทยไปอิรักทั้งที่กองทัพและประชาชนคัดค้าน เขายังอนุญาตให้ซีไอเอใช้ไทยในโครงการส่งผู้ร้ายข้ามรัฐอย่างปิดลับ ปี 2547 ทักษิณพยายามผลักดันเอฟทีเอสหรัฐ-ไทยโดยไม่ผ่านสภาฯ หลังถูกรัฐประหารปี 2549 ทักษิณยังเป็นที่รักของสื่อตะวันตกอันเป็นผลจากสายสัมพันธ์กับบริษัทล็อบบี้ชั้นนำหลายแห่งในสหรัฐ ที่ยกเขาเป็นบุรุษของประชาชนที่ต่อสู้กับ “ชนชั้นนำ” ในกรุงเทพฯ แต่กลับไม่มีการกล่าวถึง “สงครามยาเสพติด” ของเขา

ตอนท้ายของบทความอธิบายเหตุผล ที่ทำให้ทักษิณเดินทางในสหรัฐได้อย่างเสรีด้วยว่า เป็นเพราะเขาอุทิศตัวรับใช้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวอลสตรีทและลอนดอนเต็มที่ พูดและทำทุกอย่างตามคำสั่งเพื่อแลกกับใบอนุญาตกำจัดใครหรืออะไรก็ตามที่ขวางทางเขา.