วานนี้ (16 ส.ค.) ที่สโมสรทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหาร ว่า เป็นเรื่องของกองทัพที่มีขั้นตอนการดำเนินการอยู่ โดยเสนอขึ้นมาตามลำดับชั้น มีการกลั่นกรองผ่านการพิจารณาระดับล่างก่อนจะเข้าสู่คณะกรรมการปรับย้ายของกองทัพบกระดับนายพล ไม่ใช่เข้าคอมพิวเตอร์แล้วจะจิ้มออกมาได้
ทั้งนี้ในการพิจารณาของระดับล่าง จะปรับระดับรองขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการกองพล ซึ่งเป็นการขยับทางหาง ดังนั้นถ้ามีการมาเสียบ ก็ขยับไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเจริญเติบโตแบบทหาร เช่นในแต่ละกองทัพภาค ก็จะต้องเติบโตในส่วนของตน เพราะเขาจะชำนาญพื้นที่ สถานการณ์ และรู้จักลูกน้องของเขา เว้นแต่ว่าเป็นผู้บัญชาระดับสูงแล้วจะสามารถไปทำงานอื่นได้
" ในการเจริญเติบโตของทหาร ไม่อยากให้ใช้คำว่า วิ่งเต้น เป็นเด็กบูรพาพยัคฆ์ หรือวงศ์เทวัญ ผมไม่เคยคิด ถ้าโตมาจากกองทัพแล้วทำดี แล้วเขาจะส่งขึ้นมาข้างบน ใครจะโตขึ้นมาในระดับของกองทัพ ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณา เช่น กองทัพภาคที่ 1 จะมี ผบ.กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 เขาจะเลือกจาก 3 กองพล มาเทียบกันเพื่อมาเป็นรองแม่ทัพหรือมาเป็นแม่ทัพภาค โดยเป็นการไล่เรียงดูเรื่องความอาวุโส ไม่ได้เอารายชื่อทั้งหมดมาเข้าคณะกรรมการ แล้วมาปรับเหมือนที่ตำรวจปรับ มันคนละเรื่องกัน ซึ่งการที่เป็นระบบแบบนี้ ทำให้คุมลูกน้องได้ ผมไม่ได้ต้องการให้ทุกคนมากลัวผมคนเดียว แต่ต้องเกรงใจตั้งแต่ผู้บังคับหน่วยระดับล่างขึ้นมา ถ้าผู้บังคับการกรมตั้งคนไม่ได้ จะสั่งผู้พันฯได้หรือไม่ เช่นเดียวกับแม่ทัพ ถ้าตั้งผบ.พลไม่ได้ ก็ไม่สามารถสั่งการอะไรได้” ผบ.ทบ. กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปรับย้ายครั้งนี้ไม่มีปัญหา คนที่วิ่งเต้นเข้ามา ท้ายสุดก็รู้ตัว และจะอยู่ไม่ได้ เพราะช่วยเขาทำงานไม่ได้ และลูกน้องไม่นับถือ ก็ต้องอาย ส่วนปัจจัยภายนอกถ้าร้องขอเข้ามา ต้องดูว่า เขามีเหตุผลหรือไม่ เมื่อขอมาก็ต้องบอกว่าเหตุผลเพราะอะไร ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร ท้ายที่สุดผู้บังคับบัญชาก็คือผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาในกระทรวงกลาโหม ก็เป็นทหารทั้งหมด เข้าใจดีว่า ทหารต้องเป็นอย่างไร ทั้งนี้สื่อก็ไปเขียนกันว่า ใครจะเป็นตำแหน่งไหน ตนยังไม่รู้เลย ไม่รู้ว่าสื่อรู้กันได้อย่างไร ตนไม่ได้ดูแค่ว่า จะทำความดีเฉพาะเดือนก.ย. หรือต.ค. แต่จะดูย้อนหลังไป ดังนั้นต้องไปดูว่าตัวเองทำดีหรือยัง กับตัวเอง ครอบครัว ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าดีก็จะเติบโตตลอด ไม่ต้องวิ่งเต้น ผู้บังคับบัญชาจะให้เป็นเอง ถ้าใช้คนที่ไม่มีความสามารถ และวิ่งเต้นมาดูแลกองทัพก็ล้มเหลว รบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาทำได้แค่ไหน ซึ่งขณะนี้ถือว่า ดีอยู่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะส่งโผทหารให้รมว.กลาโหม ได้ในระหว่างวันที่ 15-20 ส.ค.นี้
เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงประกาศคัดค้านการแต่งตั้งคนที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากถามว่า เขาคือใคร เป็นข้าราชการ หน่วยงาน ผู้บังคับบัญชาหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่มีส่วน ไม่เกี่ยว ที่เขาขู่มานั้น จะขู่กองทัพบกนั้นมันไม่ได้ ตนไม่ฟังนอกกฎหมายไม่เกี่ยว จะให้คนที่อยู่นอกกฎหมายมาบังคับได้หรือ เพราะทุกอย่างเป็นกฎหมาย
ทั้งนี้ในการพิจารณาของระดับล่าง จะปรับระดับรองขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการกองพล ซึ่งเป็นการขยับทางหาง ดังนั้นถ้ามีการมาเสียบ ก็ขยับไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเจริญเติบโตแบบทหาร เช่นในแต่ละกองทัพภาค ก็จะต้องเติบโตในส่วนของตน เพราะเขาจะชำนาญพื้นที่ สถานการณ์ และรู้จักลูกน้องของเขา เว้นแต่ว่าเป็นผู้บัญชาระดับสูงแล้วจะสามารถไปทำงานอื่นได้
" ในการเจริญเติบโตของทหาร ไม่อยากให้ใช้คำว่า วิ่งเต้น เป็นเด็กบูรพาพยัคฆ์ หรือวงศ์เทวัญ ผมไม่เคยคิด ถ้าโตมาจากกองทัพแล้วทำดี แล้วเขาจะส่งขึ้นมาข้างบน ใครจะโตขึ้นมาในระดับของกองทัพ ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณา เช่น กองทัพภาคที่ 1 จะมี ผบ.กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 เขาจะเลือกจาก 3 กองพล มาเทียบกันเพื่อมาเป็นรองแม่ทัพหรือมาเป็นแม่ทัพภาค โดยเป็นการไล่เรียงดูเรื่องความอาวุโส ไม่ได้เอารายชื่อทั้งหมดมาเข้าคณะกรรมการ แล้วมาปรับเหมือนที่ตำรวจปรับ มันคนละเรื่องกัน ซึ่งการที่เป็นระบบแบบนี้ ทำให้คุมลูกน้องได้ ผมไม่ได้ต้องการให้ทุกคนมากลัวผมคนเดียว แต่ต้องเกรงใจตั้งแต่ผู้บังคับหน่วยระดับล่างขึ้นมา ถ้าผู้บังคับการกรมตั้งคนไม่ได้ จะสั่งผู้พันฯได้หรือไม่ เช่นเดียวกับแม่ทัพ ถ้าตั้งผบ.พลไม่ได้ ก็ไม่สามารถสั่งการอะไรได้” ผบ.ทบ. กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปรับย้ายครั้งนี้ไม่มีปัญหา คนที่วิ่งเต้นเข้ามา ท้ายสุดก็รู้ตัว และจะอยู่ไม่ได้ เพราะช่วยเขาทำงานไม่ได้ และลูกน้องไม่นับถือ ก็ต้องอาย ส่วนปัจจัยภายนอกถ้าร้องขอเข้ามา ต้องดูว่า เขามีเหตุผลหรือไม่ เมื่อขอมาก็ต้องบอกว่าเหตุผลเพราะอะไร ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร ท้ายที่สุดผู้บังคับบัญชาก็คือผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาในกระทรวงกลาโหม ก็เป็นทหารทั้งหมด เข้าใจดีว่า ทหารต้องเป็นอย่างไร ทั้งนี้สื่อก็ไปเขียนกันว่า ใครจะเป็นตำแหน่งไหน ตนยังไม่รู้เลย ไม่รู้ว่าสื่อรู้กันได้อย่างไร ตนไม่ได้ดูแค่ว่า จะทำความดีเฉพาะเดือนก.ย. หรือต.ค. แต่จะดูย้อนหลังไป ดังนั้นต้องไปดูว่าตัวเองทำดีหรือยัง กับตัวเอง ครอบครัว ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าดีก็จะเติบโตตลอด ไม่ต้องวิ่งเต้น ผู้บังคับบัญชาจะให้เป็นเอง ถ้าใช้คนที่ไม่มีความสามารถ และวิ่งเต้นมาดูแลกองทัพก็ล้มเหลว รบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาทำได้แค่ไหน ซึ่งขณะนี้ถือว่า ดีอยู่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะส่งโผทหารให้รมว.กลาโหม ได้ในระหว่างวันที่ 15-20 ส.ค.นี้
เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงประกาศคัดค้านการแต่งตั้งคนที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากถามว่า เขาคือใคร เป็นข้าราชการ หน่วยงาน ผู้บังคับบัญชาหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่มีส่วน ไม่เกี่ยว ที่เขาขู่มานั้น จะขู่กองทัพบกนั้นมันไม่ได้ ตนไม่ฟังนอกกฎหมายไม่เกี่ยว จะให้คนที่อยู่นอกกฎหมายมาบังคับได้หรือ เพราะทุกอย่างเป็นกฎหมาย
