วานนี้ ( 15 ส.ค.) นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่า ตามที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 คน คือ นายจรูญ อินทจาร นายสุพจน์ ไข่มุกด์ นายเฉลิมพล เอกอุรุ ได้ยื่นฟ้อง นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และ บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) ต่อศาลอาญา และศาลแพ่งในข้อหาหมิ่นประมาท และความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดคอมพิวเตอร์ กรณีเผยแพร่คลิปวีดีโอกล่าวหาว่า 3 ตุลาการ มีส่วนร่วมในการโกงข้อสอบเพื่อสอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 52 นั้น ขณะนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 3 คน ได้มอบอำนาจให้บุคคลไปถอนฟ้องในคดีอาญากับบุคคลดังกล่าวแล้ว หลังจากที่นายพร้อมพงศ์ นายพิสิษฐ์ และบริษัทมติชน ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของการขอไกล่เกลี่ยครบถ้วนแล้ว
โดยในกรณีของ นายพร้อมพงศ์นั้น ได้ติดต่อผ่านคณะที่ปรึกษากฎหมายของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 3 คน ขอไกล่เกลี่ย โดยเห็นว่า ตุลาการฯทั้ง 3 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบ และการออกข้อสอบ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่า 3 ตุลาการ ย่อมไม่กระทำการเช่นนั้น ซึ่งนายพร้อมพงศ์ ได้จัดทำคลิปวีดีโอ เผยแพร่คำขอโทษ และลงประกาศคำขอโทษต่อ 3 ตุลาการ ในหนังสือพิมพ์มติชนเป็นเวลา 5 วัน ตามเงื่อนไข 3 ตุลาการฯ จึงได้ถอนฟ้องนายพร้อมพงศ์ ทั้งในคดีอาญา และคดีแพ่ง เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนกรณีนายพสิษฐ์ และบริษัทมติชนฯ นั้นในชั้นการไกล่เกลี่ย บริษัทมติชน และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ตกลงที่จะลงข้อความขอโทษในหนังสือพิมพ์มติชน เป็นระยะเวลา 5 วันติดต่อกัน และจะถอดข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่นำเสนอข่าวทำให้ 3 ตุลาการฯเสื่อมเสีย ออกจากเว็บไซต์ มติชนออนไลน์ และยินยอมชดใช้ค่าทนายความแก่ 3 ตุลาการ
ส่วนนายพสิษฐ์ ก็ได้ทำตามเงื่อนไขที่ตกลง โดยให้ผู้สื่อข่าวลงบทสนทนาขอโทษเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ ยูทูป ลงข้อความขอโทษในหนังสือพิมพ์มติชน รวม 10 วันติดต่อกัน ดำเนินการขอโทษ 3 ตุลาการ เป็นการส่วนตัว ในสถานที่นอกสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และยินยอมชำระค่าทนายแก่ 3 ตุลาการฯ
“แม้การปฏิบัติตามเงื่อนไขของนายพสิษฐ์ จะยังไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขข้อตกลง แต่เมื่อนายพสิษฐ์ จะได้ดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามข้อตกลงที่กำหนดกันไว้ในศาลต่อไป เพื่อให้เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งศาล 3 ตุลาการจึงได้มอบอำนาจให้บุคคลไปถอนฟ้อง ในคดีอาญาเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ยื่นขอถอนประกันเนื่องจากทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวไปปราศรัยโจมตีและเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตุลาการและครอบครัว ขอยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มทำให้ศาลอาญาต้องเลื่อนการพิจารณาออกไป นายพิมลกล่าวว่า ทางสำนักงานฯ ก็ได้ยื่นเอกสารหลักฐานไปทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาของศาลอาญา
โดยในกรณีของ นายพร้อมพงศ์นั้น ได้ติดต่อผ่านคณะที่ปรึกษากฎหมายของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 3 คน ขอไกล่เกลี่ย โดยเห็นว่า ตุลาการฯทั้ง 3 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบ และการออกข้อสอบ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่า 3 ตุลาการ ย่อมไม่กระทำการเช่นนั้น ซึ่งนายพร้อมพงศ์ ได้จัดทำคลิปวีดีโอ เผยแพร่คำขอโทษ และลงประกาศคำขอโทษต่อ 3 ตุลาการ ในหนังสือพิมพ์มติชนเป็นเวลา 5 วัน ตามเงื่อนไข 3 ตุลาการฯ จึงได้ถอนฟ้องนายพร้อมพงศ์ ทั้งในคดีอาญา และคดีแพ่ง เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนกรณีนายพสิษฐ์ และบริษัทมติชนฯ นั้นในชั้นการไกล่เกลี่ย บริษัทมติชน และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ตกลงที่จะลงข้อความขอโทษในหนังสือพิมพ์มติชน เป็นระยะเวลา 5 วันติดต่อกัน และจะถอดข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่นำเสนอข่าวทำให้ 3 ตุลาการฯเสื่อมเสีย ออกจากเว็บไซต์ มติชนออนไลน์ และยินยอมชดใช้ค่าทนายความแก่ 3 ตุลาการ
ส่วนนายพสิษฐ์ ก็ได้ทำตามเงื่อนไขที่ตกลง โดยให้ผู้สื่อข่าวลงบทสนทนาขอโทษเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ ยูทูป ลงข้อความขอโทษในหนังสือพิมพ์มติชน รวม 10 วันติดต่อกัน ดำเนินการขอโทษ 3 ตุลาการ เป็นการส่วนตัว ในสถานที่นอกสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และยินยอมชำระค่าทนายแก่ 3 ตุลาการฯ
“แม้การปฏิบัติตามเงื่อนไขของนายพสิษฐ์ จะยังไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขข้อตกลง แต่เมื่อนายพสิษฐ์ จะได้ดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามข้อตกลงที่กำหนดกันไว้ในศาลต่อไป เพื่อให้เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งศาล 3 ตุลาการจึงได้มอบอำนาจให้บุคคลไปถอนฟ้อง ในคดีอาญาเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ยื่นขอถอนประกันเนื่องจากทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวไปปราศรัยโจมตีและเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตุลาการและครอบครัว ขอยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มทำให้ศาลอาญาต้องเลื่อนการพิจารณาออกไป นายพิมลกล่าวว่า ทางสำนักงานฯ ก็ได้ยื่นเอกสารหลักฐานไปทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาของศาลอาญา