xs
xsm
sm
md
lg

ตุลาการศาล รธน.ถอนฟ้อง “พสิษฐ์-มติชน” พบลงประกาศตุกติก-ใช้ชายฉกรรจ์คุมห้องสูท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการส่วนตัวของนายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ภาพจากแฟ้ม)
3 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถอนฟ้อง “พสิษฐ์” อดีตเลขาตุลาการฯ ชัช และ นสพ.มติชน ปล่อยคลิปโจมตีหาโกงข้อสอบเป็นเจ้าหน้าที่ศาล ชี้ทำตามเงื่อนไขเผยแพร่คลิปขอโทษ-ขอขมานอกศาล-ลงโฆษณามติชน-จ่ายค่าทนาย 3 แสน ยันไม่มีผลเป็นผู้บริสุทธิ์ เผยกว่าจะจบได้ทำตุกติก ลงข้อความคลาดเคลื่อน ยัดโฆษณากรอบเล็ก แถมตอนนัดขอขมาส่วนตัวที่ห้องสูทมิราเคิล ชั้น 14 ยังใช้ชายฉกรรจ์หลายคนยืนหน้าห้อง

วันนี้ (14 ส.ค.) รายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 คน ประกอบด้วย นายจรูญ อินทรจาร, นายเฉลิมพล เอกอุรุ และนายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มอบหมายให้นายจรูญพงษ์ อินทรจาร ผู้รับมอบอำนาจกระทำการแทนที่ศาลอาญา ไปดำเนินการถอนฟ้องนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการส่วนตัวของนายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 และบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 ในคดีเผยแพร่คลิปกล่าวหา 3 ตุลาการร่วมโกงข้อสอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2552 หลังจากที่นายพสิษฐ์ และบริษัท มติชนฯ ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วคือ เผยแพร่คลิปขอโทษ 3 ตุลาการในเว็บไซต์ยูทิวบ์ ลงข้อความในหนังสือพิมพ์มติชน ขอขมา 3 ตุลาการนอกศาล และจ่ายเงินค่าทนายรวม 3 แสนบาท

“นายพสิษฐ์ได้มีการขออภัย และยืนยันว่าตุลาการทั้งสามคนไม่ได้กระทำอย่างที่กล่าวหา แม้ในช่วงแรกหลังการไกล่เกลี่ยไปเมื่อวันที่ 6 ส.ค. มีการลงข้อความที่คลาดเคลื่อนไปจากความจริงซึ่งตุลาการทั้งสามก็ได้มีการทักท้วงให้แก้ไขข้อความเสียใหม่ นายพสิษฐ์ก็ได้ดำเนินการตามที่ร้องขอ และลงข้อความใหม่ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามเงื่อนไข รวมไปถึงข้อความที่ลงให้หนังสือพิมพ์มติชน ที่ลงขนาดเล็กก็แก้ให้ใหญ่ขึ้นตามที่ตุลาการฯ ต้องการ รวมถึงเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา นายพสิษฐ์ก็ได้ทำพิธีขอขมาต่อตุลาการทั้งสามที่โรงแรมมิราเคิล ซึ่งก็เป็นที่ยอมรับได้ เพราะที่นายพสิษฐ์ และบริษัทมติชนฯ ได้ดำเนินการก็เป็นไปตามเงื่อนไขของการไกล่เกลี่ยในคดีแพ่งครบถ้วนแล้ว 3 ตุลาการจึงถอนฟ้องและขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ” แหล่งข่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม ในคำขอถอนฟ้องนี้ 3 ตุลาการซึ่งเป็นโจทก์ได้ระบุในคำฟ้องด้วยว่า การถอนฟ้องจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 นั้นเป็นการลดข้อพิพาทระหว่างบุคคลต่อบุคคล หามีผลผูกพันที่จะยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ไม่ได้กระทำความผิดต่อโจทก์ทั้งสามไม่ อีกทั้งโจทก์ทั้งสามก็ไม่ได้ยืนยันว่าจำเลยที่ 1 ที่ 3 เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้องต่อโจทก์ทั้งสาม โดยโจทก์ทั้งสามขอยืนยันว่าพฤติการณ์และข้อเท็จจริงแห่งการกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 3 เป็นไปตามที่โจทก์ทั้งสามได้เบิกความไว้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ทั้งจากพฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ก่อนและหลังการปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมในคดีแพ่ง เป็นที่ปรากฏชัดถึงการร่วมกันกระทำการในทุกขั้นตอน

โดยเฉพาะในส่วนของจำเลยที่ 1 ที่ระหว่างก่อนและหลังการปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอม ยังมีพฤติการณ์ที่ไม่ชอบพามากล โดยมีลักษณะที่พยายามบิดเบือน สร้างเงื่อนไข และแสวงประโยชน์จากการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในคำพิพากษาตามยอมในคดีแพ่ง โดยบางส่วนได้ร่วมกันกับจำเลยที่ 3 จึงให้ลงข้อความตามที่ได้ตกลงกันโดยให้ลงในหนังสือพิมพ์มติชนรายวันเพื่อเป็นการขอโทษโจทก์ทั้งสาม โดยจะต้องลงข้อความในหนังสือพิมพ์มติชนรายวันโดยมีขนาดของกรอบข้อความใหญ่กว่าขนาดกรอบข้อความของจำเลยที่ 2 คือนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่โจทก์ทั้งสามได้ถอนฟ้องไปแล้วนั้น ร้อยละ 25

รายงานข่าวแจ้งว่า สำรับการขอขมานั้น นายพสิษฐ์ได้ติดต่อมายังตุลาการฯ ทั้งสามคน โดยเป็นการนัดเจอที่โรงแรมมิราเคิล ชั้น 14 ซึ่งเป็นห้องสูท แต่ปรากฎว่าเมื่อตุลาการการทั้งสามคนไปถึงก็มีชายฉกรรจ์จำนวนหลายคนยืนอยู่บริเวณนั้นด้วย ทำให้ตุลาการทั้งสามไม่กล้าที่จะเข้าไปในห้องตามที่นายพสิษฐ์ได้จัดเตรียมไว้เพื่อทำพิธีขอขมา จึงได้ให้นายพสิษฐ์ยกมือไหว้และกล่าวคำว่าขอโทษต่อตัวตุลาการทีละคน
กำลังโหลดความคิดเห็น