วานนี้ (8ส.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ทางสำนักงานกกต. ได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ว่า หลังจากได้เสนอไปให้ประธานรัฐสภาแล้ว ล่าสุดเรื่องอยู่ที่ขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แต่ก็มีการตีความเบื้องต้นว่า การแก้ไขในประเด็นที่เพิ่มจำนวนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง จาก 7 คน เป็น 9 คนนั้น อาจเป็นกฎหมายการเงิน ที่ตามหลักการจะต้องให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบก่อนที่จะนำเข้าที่ประชุมสภาฯได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทางเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะส่งร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ดังกล่าวไปยังนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี และผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาฯเสียก่อน เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มีประโยชน์ในหลายด้าน ทั้งการเพิ่มจำนวนกรรมการประจำหน่วยที่จะทำให้การดูแลหน่วยเลือกตั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น การกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องอยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 90 วัน เช่นเดียวกับการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน หรือการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่จะอ้างอิงพื้นที่ ความสะดวกในการเดินทางระหว่างพื้นที่มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดที่ได้มีการแก้ไขในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น หากลาออกก่อนครบวาระ โดยไม่มีเหตุผลอันควร จะต้องชดใช้ค่าเลือกตั้งซ่อม เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้บริหารท้องถิ่นลาออกเพื่อไปสมัครตำแหน่งอื่น และส่งผลให้กกต.ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่เป็นเงินจำนวนมาก
นายประพันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กกต.ได้ออกระเบียบว่าด้วยเงินส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานที่ดีของพนักงาน และลูกจ้างประจำสำนักงานกกต. พ.ศ. 2555 ว่า กกต.ทั้ง 5 คน ได้เห็นชอบในการการออกระเบียบดังกล่าว ที่เป็นไปตามกฎหมาย เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่น หรือองค์อิสระต่างๆแล้ว ซึ่งการออกระเบียบของกกต.เป็นการออกระเบียบที่ล่าช้ากว่าหน่วยงานอื่น และสาเหตุที่ออกระเบียบนั้น ก็เพื่อประโยชน์ของพนักงานและลูกจ้างประจำของกกต. ถือเป็นค่าตอบแทนในการทำงาน เนื่องจากข้าราชการกกต.ไม่มีโบนัสเหมือนกับข้าราชการพลเรือน หรือหน่วยงานอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กกต.จะไม่ทำอะไรที่ไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งก่อนที่จะดำเนินการอะไร ก็ต้องดูความชัดเจนในข้อกฎหมาย และนำเอาระเบียบต่างๆมาเปรียบเทียบกันเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี และผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาฯเสียก่อน เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มีประโยชน์ในหลายด้าน ทั้งการเพิ่มจำนวนกรรมการประจำหน่วยที่จะทำให้การดูแลหน่วยเลือกตั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น การกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องอยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 90 วัน เช่นเดียวกับการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน หรือการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่จะอ้างอิงพื้นที่ ความสะดวกในการเดินทางระหว่างพื้นที่มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดที่ได้มีการแก้ไขในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น หากลาออกก่อนครบวาระ โดยไม่มีเหตุผลอันควร จะต้องชดใช้ค่าเลือกตั้งซ่อม เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้บริหารท้องถิ่นลาออกเพื่อไปสมัครตำแหน่งอื่น และส่งผลให้กกต.ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่เป็นเงินจำนวนมาก
นายประพันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กกต.ได้ออกระเบียบว่าด้วยเงินส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานที่ดีของพนักงาน และลูกจ้างประจำสำนักงานกกต. พ.ศ. 2555 ว่า กกต.ทั้ง 5 คน ได้เห็นชอบในการการออกระเบียบดังกล่าว ที่เป็นไปตามกฎหมาย เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่น หรือองค์อิสระต่างๆแล้ว ซึ่งการออกระเบียบของกกต.เป็นการออกระเบียบที่ล่าช้ากว่าหน่วยงานอื่น และสาเหตุที่ออกระเบียบนั้น ก็เพื่อประโยชน์ของพนักงานและลูกจ้างประจำของกกต. ถือเป็นค่าตอบแทนในการทำงาน เนื่องจากข้าราชการกกต.ไม่มีโบนัสเหมือนกับข้าราชการพลเรือน หรือหน่วยงานอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กกต.จะไม่ทำอะไรที่ไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งก่อนที่จะดำเนินการอะไร ก็ต้องดูความชัดเจนในข้อกฎหมาย และนำเอาระเบียบต่างๆมาเปรียบเทียบกันเสียก่อน
