ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “หลวงพ่อคูณ” หายอาพาธเดินทางกลับวัดบ้านไร่แล้ว ท่ามกลางทีมแพทย์พยาบาลและญาติผู้ป่วยมารอส่งล้นหลาม ขณะที่วัดบ้านไร่คึกชาวด่านขุนทด รอรับการกลับมาของหลวงพ่อคูณอย่างอบอุ่น แพทย์วางกฎเหล็ก 2 สัปดาห์แรกห้ามรับญาติโยม ให้กราบผ่านห้องกระจกเท่านั้น
วานนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.39 น.ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทีมแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และคณะลูกศิษย์ ได้นิมนต์พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงมายังบริเวณชั้น 1 เพื่อขึ้นรถตู้ที่มาจอดรอรับเดินทางกลับวัดบ้านไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตวันนี้หลวงพ่อคูณมีใบหน้าที่สดชื่น แสดงอาการดีใจที่ได้กลับวัดบ้านไร่ให้เห็นอย่างชัดเขน และหลับตาตั้งสมาธิอยู่ตลอดเวลา ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับหลวงพ่อได้โบกมือทั้ง 2 ข้างให้กับญาติโยมเพื่อยืนยันว่าแข็งแรงและกลับวัดบ้านไร่แล้ว ทุกคนต่างยกมือสาธุด้วยความดีใจ โดยการเดินทางกลับวัดบ้านไร่ครั้งนี้ นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้ร่วมเดินทางไปส่งด้วยตัวเอง เพื่อดูแลหลวงพ่อคูณไปจนถึงวัดบ้านไร่
ขณะที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังจากเงียบเหงามานานกว่า 1 เดือนในช่วงที่หลวงพ่อคูณอาพาธ พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล วันนี้คึกคักเป็นพิเศษ มีประชาชนชาวด่านขุนทด และนักเรียนได้เดินทางมารอรับหลวงพ่อคูณ กลับวัดบ้านไร่อย่างอบอุ่น ซึ่งทุกคนดีใจที่หลวงพ่อคูณกลับมาเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรอีกครั้ง
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการตรวจร่างกายหลวงพ่อคูณล่าสุดวันนี้ ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีอะไรน่าห่วง เพียงแต่ท่านอายุมากภูมิต้านทานโรคจะต่ำไปตามวัย การดูแลจึงต้องใส่ใจมากกว่าคนปกติทั่วไป
“ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ที่ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ จะยังไม่อนุญาตให้ท่านออกมารับญาติโยมด้านนอกห้องกระจก เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อนซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด โดยอาจจะให้ประชาชนกราบนมัสการท่านผ่านประตูกระจกแทน และในช่วงแรกทีมแพทย์ของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จะคอยไปเป็นพี่เลี้ยงในการดูแลท่าน หลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่หลักของทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลด่านขุนทด ต่อไป”นพ.ณรงค์ กล่าว
วานนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.39 น.ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทีมแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และคณะลูกศิษย์ ได้นิมนต์พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ลงมายังบริเวณชั้น 1 เพื่อขึ้นรถตู้ที่มาจอดรอรับเดินทางกลับวัดบ้านไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตวันนี้หลวงพ่อคูณมีใบหน้าที่สดชื่น แสดงอาการดีใจที่ได้กลับวัดบ้านไร่ให้เห็นอย่างชัดเขน และหลับตาตั้งสมาธิอยู่ตลอดเวลา ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับหลวงพ่อได้โบกมือทั้ง 2 ข้างให้กับญาติโยมเพื่อยืนยันว่าแข็งแรงและกลับวัดบ้านไร่แล้ว ทุกคนต่างยกมือสาธุด้วยความดีใจ โดยการเดินทางกลับวัดบ้านไร่ครั้งนี้ นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้ร่วมเดินทางไปส่งด้วยตัวเอง เพื่อดูแลหลวงพ่อคูณไปจนถึงวัดบ้านไร่
ขณะที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังจากเงียบเหงามานานกว่า 1 เดือนในช่วงที่หลวงพ่อคูณอาพาธ พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล วันนี้คึกคักเป็นพิเศษ มีประชาชนชาวด่านขุนทด และนักเรียนได้เดินทางมารอรับหลวงพ่อคูณ กลับวัดบ้านไร่อย่างอบอุ่น ซึ่งทุกคนดีใจที่หลวงพ่อคูณกลับมาเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรอีกครั้ง
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการตรวจร่างกายหลวงพ่อคูณล่าสุดวันนี้ ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีอะไรน่าห่วง เพียงแต่ท่านอายุมากภูมิต้านทานโรคจะต่ำไปตามวัย การดูแลจึงต้องใส่ใจมากกว่าคนปกติทั่วไป
“ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ที่ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ จะยังไม่อนุญาตให้ท่านออกมารับญาติโยมด้านนอกห้องกระจก เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อนซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด โดยอาจจะให้ประชาชนกราบนมัสการท่านผ่านประตูกระจกแทน และในช่วงแรกทีมแพทย์ของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จะคอยไปเป็นพี่เลี้ยงในการดูแลท่าน หลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่หลักของทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลด่านขุนทด ต่อไป”นพ.ณรงค์ กล่าว