ASTV ผู้จัดการรายวัน – TFEX เนื้อหอม! ต่างชาติเริ่มให้น้ำหนักเพิ่ม โยกเงินเข้าออกมากขึ้นหลายพันล้าน เพื่อหวังสร้างผลตอบแทนในช่วงที่หุ้นผันผวนผ่าน SET50 Index Futures ภาพรวมปริมาณการซื้อขายทั้งตลาดขยายตัวเท่าตัวจากต้นปี แม้ที่ผ่านมาราคาทองคำฉุดวอลุ่มโกลด์ ฟิวเจอร์ส ลดลง โบรกฯมั่นใจเชื่อมโยงตลาดยิ่งเป็นผลดี ทั้งด้านจำนวนลูกค้า และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มเข้ามาจากนักลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมการซื้อขายของนักลงทุนในตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX ว่า นับเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงภาวะตลาดหุ้นไทยผันผวน เพราะนั่นหมายถึงโอกาสทำกำไรจากการลงทุนในTFEX แม้ช่วงที่ผ่านราคาทองคำจะผันผวน หรืออยู่ในระดับที่ต่ำ จนทำให้ปริมาณการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สลดลงไป แต่ในทางตรงกันข้ามสินค้าอย่าง SET50 Index Futures กลับได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศที่ให้น้ำหนักลงทุนในตลาดนี้มากขึ้นกว่าเดิม
“ตั้งแต่ต้นปี2555 เรามีนักลงทุนต่างชาติในตลาดTFEX ประมาณ 10% สถาบัน 35% อีก 55%เป็นนักลงทุนรายย่อย โดยในช่วง1-2เดือนที่ผ่านมาด้วยภาวะหุ้นที่ผันผวนมากทำให้นักลงทุนรายย่อยสนใจเข้ามาป้องกันความเสี่ยง หรือเข้ามาหาผลตอบแทนจากSET50 Index Futures เพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนปรับขึ้นอยู่ที่60% ซึ่งพบว่าในเดือนมิ.ย.มีปริมาณการซื้อขาย SET50 Index Futures ทุกสัญญาโดยเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 25,000 สัญญา/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี(ม.ค.) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 12,000 สัญญา/วัน ขณะที่ก.ค.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 17,000 สัญญา/วัน และแค่2วันทำการของเดือนส.ค.อยู่ที่ 16,000 – 17,000 สัญญา/วัน แต่สถานะคงค้างของสัญญาในเดือนก.ค.สูงถึง 40,000 สัญญา มากกว่ามิ.ย. ส่วนใหญ่มาจากการถือครองของนักลงทุนต่างชาติ และสถาบัน”
ขณะเดียวกันพบว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าออกในตลาดอนุพันธ์ในจำนวนที่สูงขึ้น อาทิ ช่วงวันที่ 23-27 ก.ค. นักลงทุนต่างชาติมีการShort Position ใน SET50 Index Futures ประมาณ 7,000 สัญญา หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท แต่เมื่อต้นเดือนสิงหาคม นักลงทุนต่างชาติได้เปลี่ยนสถานะจากขายเป็นซื้อ โดยมีการ Long Position มากถึง 5,000 สัญญา หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท จึงน่าจะเรียกได้ว่าในปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดล่วงหน้าของไทยมากขึ้น แม้สัดส่วนที่เข้ามายังมีอยู่น้อย หากทีเทียบปริมาณผู้ลงทุนทั่วไปในประเทศ
“หากนับเฉพาะนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ ก็น่าจะคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดได้แล้วเพราะมีสัดส่วนรวมกันถึงประมาณ 45% มันทำให้ตลาดนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากพวกนี้จะถือPosition ค้างหรือถือข้ามวัน ผิดกับนักลงทุนทั่วไปที่จะถือและปิดสัญญาภายในวันเดียวกัน”
อย่างไรก็ตาม หากวัดกันตามความนิยมในตัวสินค้าของTFEX พบว่า นอกจาก SET50 Index Futures ที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ สินค้าประเภท Metal Futures อย่างโกลด์ ฟิวเจอร์ส ก็ได้รับความสนใจรองลงมา และถัดมาคือสินค้าใหม่อย่าง USD Futures ส่วน Oil Future เดิมได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากความผันผวนของราคาน้ำมัน แต่เมื่อราคาไม่มีการเคลื่อนไหวมาก ก็ทำให้ปริมาณการซื้อในช่วงนี้เหลือยู่ที่ประมาณ 300-500 สัญญา/วัน จากเดิมประมาณ 1,000 สัญญา/วัน
นอกจากนี้ มองว่าเมื่อมีการเชื่อมตลาดระหว่างประเทศในภูมิภาคเดียวกันได้แล้ว ตลาดอนุพันธ์ของประเทศ ไทยน่าจะได้รับประโยชน์จากเรี่องดังกล่าวด้วย โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่า ตลาดโกลด์ ฟิวเจอร์ส ของไทยถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ตลาดหนึ่งในโลก หรือคิดในอันดับ4 รองลงมาจากตลาดใหญ่ในต่างประเทศ เช่น Nymex Comex อินเดีย จีน ดังนั้นการเชื่อมตลาดระหว่างกัน จะยิ่งช่วยเพิ่มปริมาณนักลงทุนเข้ามาลงทุนในTFEX เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ตลาดในประเทศของตนเองยังไม่มีสินค้าอย่างโกลด์ ฟิวเจอร์สให้บริการ
ในส่วนของ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ก็เชื่อว่าจากความร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ น่าจะทำให้ปริมาณการซื้อขายผ่านทางบริษัทปรับตัวสูงขึ้นจากเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมา ส่วนแบ่งทางการตลาด(มาร์เกตแชร์) ในตลาดอนุพันธ์ก็ปรับตัวสูงขึ้นจากอันดับ10 ในช่วงต้นปี ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ7ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากตลาดTFEX พบว่าในเดือน ม.ค. ทั้งตลาดมีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 562,070 สัญญา แบ่ง เป็น Metal Futures คิดเป็น 49.8% หรือเท่ากับ 279,821 สัญญา ตามด้วย SET50 Index Futures 220,577 สัญญา โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนนี้เท่ากับ 28,103.50 สัญญา ลดลง 1,837 สัญญา หรือ -6.14% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ช่วงเดือนมิ.ย.มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น 1,047,416 สัญญา ส่วนใหญ่เป็นของ SET50 Index Futures คิดเป็น 48.38% หรือ 508,521 สัญญา ตามด้วย Metal Futures มีการซื้อขาย 329,697 สัญญา ทำให้ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของทั้งตลาดในเดือนดังกล่าวอยู่ที่ 52,560 สัญญา เพิ่มขึ้น 2,123 สัญญา หรือ 4.21%
ส่วนล่าสุดก.ค. มีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น 954,363 สัญญา ส่วนใหญ่เป็นของ SET50 Index Futures คิดเป็น 38.70% ตามด้วย Metal Futures มีการซื้อขาย 305,388 สัญญา ทำให้ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนนี้เท่ากับ 43,380 สัญญา ลดลง 9,180 สัญญา หรือเท่ากับ 17.47%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมการซื้อขายของนักลงทุนในตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX ว่า นับเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงภาวะตลาดหุ้นไทยผันผวน เพราะนั่นหมายถึงโอกาสทำกำไรจากการลงทุนในTFEX แม้ช่วงที่ผ่านราคาทองคำจะผันผวน หรืออยู่ในระดับที่ต่ำ จนทำให้ปริมาณการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สลดลงไป แต่ในทางตรงกันข้ามสินค้าอย่าง SET50 Index Futures กลับได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศที่ให้น้ำหนักลงทุนในตลาดนี้มากขึ้นกว่าเดิม
“ตั้งแต่ต้นปี2555 เรามีนักลงทุนต่างชาติในตลาดTFEX ประมาณ 10% สถาบัน 35% อีก 55%เป็นนักลงทุนรายย่อย โดยในช่วง1-2เดือนที่ผ่านมาด้วยภาวะหุ้นที่ผันผวนมากทำให้นักลงทุนรายย่อยสนใจเข้ามาป้องกันความเสี่ยง หรือเข้ามาหาผลตอบแทนจากSET50 Index Futures เพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนปรับขึ้นอยู่ที่60% ซึ่งพบว่าในเดือนมิ.ย.มีปริมาณการซื้อขาย SET50 Index Futures ทุกสัญญาโดยเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 25,000 สัญญา/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี(ม.ค.) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 12,000 สัญญา/วัน ขณะที่ก.ค.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 17,000 สัญญา/วัน และแค่2วันทำการของเดือนส.ค.อยู่ที่ 16,000 – 17,000 สัญญา/วัน แต่สถานะคงค้างของสัญญาในเดือนก.ค.สูงถึง 40,000 สัญญา มากกว่ามิ.ย. ส่วนใหญ่มาจากการถือครองของนักลงทุนต่างชาติ และสถาบัน”
ขณะเดียวกันพบว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าออกในตลาดอนุพันธ์ในจำนวนที่สูงขึ้น อาทิ ช่วงวันที่ 23-27 ก.ค. นักลงทุนต่างชาติมีการShort Position ใน SET50 Index Futures ประมาณ 7,000 สัญญา หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท แต่เมื่อต้นเดือนสิงหาคม นักลงทุนต่างชาติได้เปลี่ยนสถานะจากขายเป็นซื้อ โดยมีการ Long Position มากถึง 5,000 สัญญา หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท จึงน่าจะเรียกได้ว่าในปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดล่วงหน้าของไทยมากขึ้น แม้สัดส่วนที่เข้ามายังมีอยู่น้อย หากทีเทียบปริมาณผู้ลงทุนทั่วไปในประเทศ
“หากนับเฉพาะนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ ก็น่าจะคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดได้แล้วเพราะมีสัดส่วนรวมกันถึงประมาณ 45% มันทำให้ตลาดนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากพวกนี้จะถือPosition ค้างหรือถือข้ามวัน ผิดกับนักลงทุนทั่วไปที่จะถือและปิดสัญญาภายในวันเดียวกัน”
อย่างไรก็ตาม หากวัดกันตามความนิยมในตัวสินค้าของTFEX พบว่า นอกจาก SET50 Index Futures ที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ สินค้าประเภท Metal Futures อย่างโกลด์ ฟิวเจอร์ส ก็ได้รับความสนใจรองลงมา และถัดมาคือสินค้าใหม่อย่าง USD Futures ส่วน Oil Future เดิมได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากความผันผวนของราคาน้ำมัน แต่เมื่อราคาไม่มีการเคลื่อนไหวมาก ก็ทำให้ปริมาณการซื้อในช่วงนี้เหลือยู่ที่ประมาณ 300-500 สัญญา/วัน จากเดิมประมาณ 1,000 สัญญา/วัน
นอกจากนี้ มองว่าเมื่อมีการเชื่อมตลาดระหว่างประเทศในภูมิภาคเดียวกันได้แล้ว ตลาดอนุพันธ์ของประเทศ ไทยน่าจะได้รับประโยชน์จากเรี่องดังกล่าวด้วย โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่า ตลาดโกลด์ ฟิวเจอร์ส ของไทยถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ตลาดหนึ่งในโลก หรือคิดในอันดับ4 รองลงมาจากตลาดใหญ่ในต่างประเทศ เช่น Nymex Comex อินเดีย จีน ดังนั้นการเชื่อมตลาดระหว่างกัน จะยิ่งช่วยเพิ่มปริมาณนักลงทุนเข้ามาลงทุนในTFEX เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ตลาดในประเทศของตนเองยังไม่มีสินค้าอย่างโกลด์ ฟิวเจอร์สให้บริการ
ในส่วนของ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ก็เชื่อว่าจากความร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ น่าจะทำให้ปริมาณการซื้อขายผ่านทางบริษัทปรับตัวสูงขึ้นจากเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมา ส่วนแบ่งทางการตลาด(มาร์เกตแชร์) ในตลาดอนุพันธ์ก็ปรับตัวสูงขึ้นจากอันดับ10 ในช่วงต้นปี ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ7ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากตลาดTFEX พบว่าในเดือน ม.ค. ทั้งตลาดมีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 562,070 สัญญา แบ่ง เป็น Metal Futures คิดเป็น 49.8% หรือเท่ากับ 279,821 สัญญา ตามด้วย SET50 Index Futures 220,577 สัญญา โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนนี้เท่ากับ 28,103.50 สัญญา ลดลง 1,837 สัญญา หรือ -6.14% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ช่วงเดือนมิ.ย.มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น 1,047,416 สัญญา ส่วนใหญ่เป็นของ SET50 Index Futures คิดเป็น 48.38% หรือ 508,521 สัญญา ตามด้วย Metal Futures มีการซื้อขาย 329,697 สัญญา ทำให้ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของทั้งตลาดในเดือนดังกล่าวอยู่ที่ 52,560 สัญญา เพิ่มขึ้น 2,123 สัญญา หรือ 4.21%
ส่วนล่าสุดก.ค. มีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น 954,363 สัญญา ส่วนใหญ่เป็นของ SET50 Index Futures คิดเป็น 38.70% ตามด้วย Metal Futures มีการซื้อขาย 305,388 สัญญา ทำให้ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนนี้เท่ากับ 43,380 สัญญา ลดลง 9,180 สัญญา หรือเท่ากับ 17.47%
