xs
xsm
sm
md
lg

กู้บ้านหลังแรกอืดคาดคลังไม่ต่ออายุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ธอส.เผยยอดขอสินเชื่อโครงการบ้านหลังแรก 0% นาน 3 ปียื่นเข้ามาเพียง 4 พันล้านบาท เชื่อคลังไม่ต่ออายุโครงการออกไปอีก ชี้หากขยายวงเงินเป็น 2 ล้านบาทอาจซ้ำซ้อนกับโครงการคืนภาษี ยันแม้จะปล่อนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแต่ไม่กระทบผลดำเนินงานมากนัก

นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า โครงบ้านหลังแรก 0% นาน 3 ปี สำหรับผู้ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ที่เปิดให้ยื่นคำขอตั้งแต่ 11 ต.ค. 2554 มีกำหนดสิ้นสุดยื่นคำขอถึง 30 ก.ย.2555 ต้องทำนิติกรรมให้จบภายในวันที่ 31 ธ.ค.2555 นี้ ทางกระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะต่ออายุมาตรการหรือปรับเปลี่ยนเงื่อนไขหรือไม่ โดยมองว่าอาจจะให้หมดระยะเวลาไปตามเดิมและหากจะมีโครงการใหม่ออกมาก็สามารถเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า ซึ่งกระทรวงการคลังต้องชดเชยภาระดอกเบี้ยให้เหมือนโครงการที่ผ่านๆ มา
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปล่อยกู้บ้านหลังแรกยังดำเนินการไม่ได้มากนัก โดยล่าสุดธอส. ปล่อยไปได้เพียง 4 พันล้านบาท จากวงเงินเป้าหมาย 2 หมื่นล้านบาท แต่เชื่อสอดคล้องกับข้อมูลของบ้านที่สร้างเสร็จและมีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาททั่วประเทศขณะนี้ที่มีประมาณ 1.2 หมื่นยูนิต มูลค่าประมาณ 7-8 พันล้านบาท แม้จะปล่อยได้ทั้งหมดก็ยังไม่เต็มวงเงินเพราะมีเงื่อนไขต้องเป็นบ้านหลังแรกด้วย ทำให้ผู้มีสิทธิเข้าโครงการยิ่งลดจำนวนลง
“เข้าใจว่ากระทรวงการคลังคงไม่ต่ออายุมาตรการบ้านหลังแรกในเงื่อนไขเดิมราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทออกไป หากจบโครงการปีหน้าก็สามารถทำโครงการใหม่ภายใต้เงื่อนไขใหม่ได้ซึ่งคงขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง”นายวรวิทย์ กล่าวและว่า หากปรับเงื่อนไขราคาบ้านเป็น 2 ล้านบาทแม้จำทำให้มีโครงการเข้าข่ายมากขึ้นเป็น 6 หมื่นยูนิต แต่มองว่าจะไปซ้ำซ้อนกับมาตรการคืนภาษีบ้านหลังแรกของกรมสรรพากรซึ่งไม่ตามวัตถุประสงค์ในการช่วยผู้มีรายได้น้อยให้มีบ้านหลังแรก
สำหรับการปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย คงที่ 3% ระยะเวลา 5 ปี ในส่วนของวงเงินแรก 9 พันล้านบาท ขณะนี้อนุมัติไปแล้วกว่า 4 พันล้านบาท โดยพบว่ามีลูกค้าบางส่วนที่ใช้สิทธิ 0% นาน 6 เดือน 9 เดือนที่เพิ่งได้รับอนุมัติหรือที่ยังไม่ถึงกำหนดพ้นระยะเวลาถูกคิดค่าปรับหากรีไฟแนนซ์ก่อนกำหนดซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับประโยชน์จากการผ่อนผันค่างวดช่วงน้ำท่วม 3-6 เดือนยื่นเข้าโครงการประมาณพันรายซึ่งเดิมจะให้กลุ่มนี้มาทำสัญญาใหม่เปลี่ยนเป็นการกู้ตามดอกเบี้ยปกติก่อนจะรีไฟแนนซ์แต่เห็นว่าอาจยุ่งยากและควรให้สิทธิคนกลุ่มนี้ด้วยจึงอาจให้เข้าตามโครงการใหม่ 3% 5 ปีหลังทำสัญญาใหม่เลยเพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้า
ส่วนการขออนุมัติวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)อีก จำนวน 1.4 หมื่นล้านบาทและธนาคารสมทบวงเงินอีก 6 พันล้านบาท นั้นขณะนี้รอให้กระทรวงการคลังเสนอเข้าสู่การพิจารณาของครม.จากนั้นน่าจะดำเนินการได้ทันทีเพราะมีความต้องการขอสินเชื่อรออยู่แล้วทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้ธนาคารจะดำเนินโครงการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำหลายโครงการแต่ยังไม่พบว่ามีผลกระทบกับผลการดำเนินงานของธนาคารแต่อย่างใด โดยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาธอส.มีกำไรแล้วประมาณ 3.6 พันล้านบาท ยังไม่รวมกับการสำรองเงิน 0.47% อีกเดือนละ 300 ล้านบาทรวม 4 เดือนตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมาเป็นเงิน 1.2 พันล้านบาท จึงเชื่อว่าทั้งปีจะมีกำไรประมาณ 7 พันล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้.
กำลังโหลดความคิดเห็น