“ดวง อยู่บำรุง”มึงรู้ไหมกูลูกใคร?เมื่ออดีตผู้ต้องหาฆ่า'ดาบยิ้ม' ขึ้นเป็นครูฝึกตำรวจ!

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -สร้างปรากฏการณ์ UNSEEN อีกครั้งกับตระกูล 'อยู่บำรุง' เจ้าของสโลแกน “มึงรู้ไหมกูลูกใคร” กับการย้ายข้ามห้วยข้ามสังกัด ย้ายจากทหารไปเป็นตำรวจได้อย่างฉับพลันทันใจ เรียกว่าโอนย้ายกันได้ภายใน 17 วัน !!

แม้ “คุณพ่อตัวอย่าง” อย่าง 'ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง' รองนายกรัฐมนตรี จะออกมารับประกันถึงความโปร่งใสในการโอนย้าย 'ร.ท.ดวง อยู่บำรุง' ผู้บังคับหมวด กองร้อยสารวัตรทหาร สารวัตรยุทธบริการทหาร กระทรวงกลาโหม (ผบ.มว.สท.ร้อย สห.พัน.สห.ยบ.) จากกองบัญชากองทัพไทย มาเป็นข้าราชการตำรวจยศร้อยตำรวจโท ดำรงตำแหน่ง รองสารวัตร ศูนย์ฝึกอบรม (สว.ศฝร.) สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ทำหน้าที่ครูฝึกยิงปืน ว่าเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้มีเส้นมีสาย ไม่ได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ย้ายลูกชายข้ามสังกัดอย่างที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ที่สำคัญตนเองนั้นไม่ระแคะระคายเรื่องการโอนย้ายข้ามกระทรวงของลูกชายมาก่อนเล้ย...จริงๆ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมบอกว่าที่สามารถย้ายได้รวดเร็วทันใจนั้นไม่ใช่เรื่องเส้นสายแต่เป็นเพราะ 'ลูกชายยิงปืนแม่น'

การโอนย้ายครั้งนี้จะมีเรื่องการใช้อำนาจบารมีของผู้เป็นพ่อมาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้นไม่มีใครรับประกันได้ รู้แต่ว่าในวันที่ลูกดวงแต่งกายในชุดเครื่องแบบตำรวจชั้นสัญญาบัตรยศ ร.ต.ท.แบบเต็มยศ เดินทางเข้ามารายงานตัวต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ซึ่งผู้บังคับบัญชานั้น มีนายตำรวจระดับผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการตบเท้าให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีกับ 'ร.ต.ท.' คนนี้กันอย่างคึกคัก

โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ระบุว่าได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.ดวงเป็นครูฝึกในเรื่องการใช้อาวุธปืนและการยิงปืน ซึ่งเป็นหลักสูตรการฝึกรูปแบบใหม่ที่นายตำรวจทุกนายต้องได้รับการอบรม โดยจะให้ ร.ต.ท.ดูแลการฝึกดังกล่าว

แต่ที่สำคัญการโอนย้ายแบบพิสดารพันลึกดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงเรื่อง 'หลักจริยธรรม' ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากตามกฎของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นข้าราชการ พ.ศ. 2547 นั้นระบุว่า ต้องไม่เป็นผู้ประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี

เพราะหากย้อนไปดูประวัติของลูกดวงจะพบว่าเขามีวีรกรรมที่ฉาวโฉ่โด่งดังไปทั้งประเทศ โดยตกเป็น 'ผู้ต้องหาคดีฆ่าดาบยิ้ม' ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ จากเหตุทะเลาะวิวาทในผับกลางกรุง ในขณะที่เขารับราชการทหาร ติดยศร้อยโท และหลังจากเกิดเหตุแทนที่เขาจะเข้ามอบตัวสู้คดี กลับหลบหนีออกไปนอกประเทศนานถึง 6 เดือน จึงติดต่อขอเข้ามอบตัวที่ประเทศมาเลเซีย สุดท้ายศาลตัดสินยกฟ้องเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ และในเหตุการณ์ครั้งนี้เองที่ปรากฏชื่อ 'ไอ้ปื๊ด' ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่าเป็นมือยิงดาบยิ้ม แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เคยมีใครเห็นหน้าไอ้ปื๊ดและไม่รู้ว่าหลบหนีไปอยู่แห่งหนตำบลใดตำรวจจึงตามหาไม่เจอ

นอกจากนั้น ร.ต.ท.ดวง ยังมีคดีติดตัวอีก 1 คือตกต้องหาคดีอาญา ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งศาลแขวงพระโขนงพิพากษาลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 4,000 บาท โดยโทษจำคุก ให้รอลงอาญา 2 ปี ซึ่งคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์

อย่างไรก็ดีนี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ UNSEEN ครั้งแรกของ 'ลูกดวง' แห่งตระกูลอยู่บำรุง เพราะเมื่อครั้งที่ 'นายสมัคร สุนทรเวช' อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็ง ได้เซ็นคำสั่งคืนยศ 'ร.ต.' ให้ลูกดวง ซึ่งตอนนั้นยังใช้ชื่อ 'นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง' พร้อมทั้งลงนามในคำสั่งแต่งตั้งให้นายดวงเฉลิม บุตรชายของ ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งขณะนั้นรั้งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับเข้ารับราชการ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด ในยศร้อยตรี สังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ

คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้นายดวงกลับเข้ารับราชการอีกครั้ง หลังถูกทางกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งพักราชการ ไปนานถึง 7 ปี เนื่องจากนายดวงเฉลิมตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหาร ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ หรือ "ดาบยิ้ม" เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2544 ในทเวนตี้ผับ และหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น ลงนามในคำสั่ง 'ปลดออกจากราชการ' ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และ 'ถอดยศทหาร' เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน

โดยนายสมัครให้เหตุผลในการเซ็นคำสั่งคืนยศ ร.ต. ให้นายดวงเฉลิม ว่าเนื่องจากเห็นว่าเพราะคดีความสิ้นสุดแล้ว พร้อมทั้งอ้างว่าทางกองทัพเป็นผู้เสนอเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเอง ?

นอกจากนั้นหากย้อนไปดูวีรกรรมความรักลูกของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็จะเห็นถึงสายใยแห่งความรักความผูกพันเกินบรรยายของชายชื่อ 'เฉลิม' ที่พร้อมจะกางปีกปกป้องลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้ง 3 คนชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู โดยเฉพาะ 'ลูกดวง' คนนี้ หลายท่านคงจำกันได้ถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2543 ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม บุกไปแสดงอิทธิฤทธิ์บน สน.ทองหล่อ หลังจากที่ ลูกดวง ซึ่งขณะนั้นยังใช้ชื่อ 'ดวงเฉลิม' ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุทะเลาะวิวาท จนต้องขึ้นโรงพัก สน.ทองหล่อ โดยเมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม ตามไปช่วยเคลียร์คดีให้ลูกที่โรงพัก เขาได้แสดงความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยกล่าวว่า “สน.ทองหล่อ วันนี้บัดซบ” หลังจากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ถามว่าเรื่องนี้นายวันเฉลิมลูกชายอีกคนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมได้แสดงอาการฉุนเฉียว และด่าผู้สื่อข่าวด้วยคำหยาบคาย เช่น “ทุเรศ” “ทะลึ่ง” “ชั่ว” รวมทั้งพูดถึงเจ้าของ นสพ.เดลินิวส์ โดยมีคำว่า “ไอ้” นำหน้า

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นคงจะปฏิเสธได้ไม่เต็มปากนักว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่เคยกร่างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมาย ไม่เคยด่ากราดนักข่าวที่เข้ามาซักถามเกี่ยวกับคดีความของลูกชายเขา

ส่วนในวันนี้บรรดานายตำรวจจะรู้สึกเช่นไร ที่ได้อดีต 'ผู้ต้องหาคดีฆ่าดาบยิ้ม' มาเป็นครูฝึกให้ตำรวจ ? ก็คงไม่มีใครตอบได้ และแม้ตำรวจบางนายอาจจะรู้สึกเหมือนถูก 'เหยียบหน้า' แต่ก็อาจมีเพียงเสียงวิจารณ์เบาๆที่เล็ดรอดออกมาจาก สตช.เพราะ วินาทีนี้มีเสียงที่ดังกว่ามาก กับประโยคที่บอกว่า “มึงรู้ไหมกูลูกใคร”