เมื่อเวลา 16.20 น. วานนี้ (1ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ได้เกิดเหตุการณ์ รถแท๊กซี่มิเตอร์ สีชมพู เลขทะเบียน ทย 9522 ของสหกรณ์ปทุมวันแท็กซี่ มีนายพงศ์พิชาญ ธนาถิรพงษ์ ขับรถด้วยความเร็วสูง ฝ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตูสะพานอรทัย ผ่านประตูป้อมยามรักษาความปลอดภัย รั้วชั้นใน ด้านประตูใกล้ห้องพักสื่อมวลชน 1 (รังนกกระจอก 1) ด้วยความเร็วสูง ขึ้นไปตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และไปจอดแช่อยู่หน้าประตูตึกไทยคู่ฟ้า บริเวณที่รถประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี จอดส่งนายกรัฐมนตรีขึ้นทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าอยู่ทุกวัน พร้อมบีบแตรเสียงดังสนั่น ไม่ต่ำกว่า 5 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล และได้พากันวิ่งกรูไปที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ในขณะที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย ในทำเนียบรัฐบาล กลับยืนงงอยู่หลังกระจกประตูตึกไทยคู่ฟ้า ไม่ยอมออกมาดำเนินการอย่างใด กับคนขับรถแท็กซี่ดังกล่าว
สักครู่ใหญ่ต่อมา จึงได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตึกไทยคู่ฟ้า ออกมาเคาะกระจกรถของนายพงษ์พิชาญ แต่นายพงษ์พิชาญ ไม่ยอมลงจากรถ พร้อมทั้งยังกดแตรเสียงดังสนั่น ด้วยท่าทีเฉยเมย ไม่สนใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียง 3-4 นาย ที่ยืนอยู่บริเวณนั้น และมีตำรวจเพียงคนเดียว ที่ไปยืนเคาะกระจกรถ แล้วเรียกว่า " ลงมา ลงมา" เท่านั้น
ทั้งนี้ ที่เบาะนั่งด้านหน้ารถแท็กซี่คันดังกล่าว มีผู้หญิงวัยกลางคนนั่งคู่กับคนขับ โดยใช้ถุงกระดาษปิดหน้าอยู่ตลอดเวลา หลังจากนายพงศ์พิชาญ กดแตรเสียงลั่นทำเนียบฯจนหนำใจแล้ว ก็ขับรถกระชากเอี๊ยด ออกจากตึกไทยคู่ฟ้าไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย ประจำทำเนียบฯ ไม่สามารถปฏิบัติการใดๆได้ แม้แต่จะปิดประตูรั้วด้านหน้าที่ประตูหนึ่ง ด้านสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งรถแท๊กซี่ดังกล่าวพุ่งออกไปสู่ถนนพิษณุโลก อย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ขับรถแท็กซี่ดังกล่าวคือ นายพงศ์พิชาญ ที่เคยขับรถเข้ามาป่วนในทำเนียบรัฐบาล มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรก คือในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามาจอดบริเวณหน้าตึกบัญชาการ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมาในยุครัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เข้ามาที่หน้าตึกบัญชาการ พร้อมกดแตรดังลั่น และล่าสุดคือครั้งนี้ ที่ขับรถขึ้นไปจอดหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และกดแตรเสียงดังลั่นไปทั้งทำเนียบฯ ซึ่งในช่วงเวลานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ไปเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา
ทั้งนี้ พฤติกรรมของนายพงศ์พิชาญ ที่เข้ามาก่อความวุ่นวายในทำเนียบรัฐบาลฯ หลายครั้งเนื่องจากมีความไม่พอใจ เรื่องสิทธิ์รับเงินเยียวยาจากการชุมนุมทางการเมือง ที่ก่อนหน้านี้ เขาระบุว่า ยังได้เงินไม่ครบจำนวน 7.5 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากการชุมนุม 2 เหตุการณ์ แต่ได้รับการเยียวยาเพียงเหตุการณ์เดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้ข้าราชการ และสื่อมวลชน ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ในทำเนียบรัฐบาล ที่หละหลวมเป็นอย่างมากที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซ้ำแล้วซ้ำอีก จากคนขับแท็กซี่คนเดิม ที่นึกจะเข้า จะออกเมื่อไรก็ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดเหตุวุ่นวาย มีเพียงผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น ที่วิ่งกรูกันไปยังจุดเกิดเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาล จะมาถึงหน้าตึกไทยคู่ฟ้าด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่แท็กซี่จอมซ่าส์ ขับรถออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับสูง ของทำเนียบรัฐบาล ก็มาบ่นกับผู้สื่อข่าวว่า "งานเข้าอีกแล้ว"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล และได้พากันวิ่งกรูไปที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ในขณะที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย ในทำเนียบรัฐบาล กลับยืนงงอยู่หลังกระจกประตูตึกไทยคู่ฟ้า ไม่ยอมออกมาดำเนินการอย่างใด กับคนขับรถแท็กซี่ดังกล่าว
สักครู่ใหญ่ต่อมา จึงได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตึกไทยคู่ฟ้า ออกมาเคาะกระจกรถของนายพงษ์พิชาญ แต่นายพงษ์พิชาญ ไม่ยอมลงจากรถ พร้อมทั้งยังกดแตรเสียงดังสนั่น ด้วยท่าทีเฉยเมย ไม่สนใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียง 3-4 นาย ที่ยืนอยู่บริเวณนั้น และมีตำรวจเพียงคนเดียว ที่ไปยืนเคาะกระจกรถ แล้วเรียกว่า " ลงมา ลงมา" เท่านั้น
ทั้งนี้ ที่เบาะนั่งด้านหน้ารถแท็กซี่คันดังกล่าว มีผู้หญิงวัยกลางคนนั่งคู่กับคนขับ โดยใช้ถุงกระดาษปิดหน้าอยู่ตลอดเวลา หลังจากนายพงศ์พิชาญ กดแตรเสียงลั่นทำเนียบฯจนหนำใจแล้ว ก็ขับรถกระชากเอี๊ยด ออกจากตึกไทยคู่ฟ้าไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย ประจำทำเนียบฯ ไม่สามารถปฏิบัติการใดๆได้ แม้แต่จะปิดประตูรั้วด้านหน้าที่ประตูหนึ่ง ด้านสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งรถแท๊กซี่ดังกล่าวพุ่งออกไปสู่ถนนพิษณุโลก อย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ขับรถแท็กซี่ดังกล่าวคือ นายพงศ์พิชาญ ที่เคยขับรถเข้ามาป่วนในทำเนียบรัฐบาล มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรก คือในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามาจอดบริเวณหน้าตึกบัญชาการ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมาในยุครัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เข้ามาที่หน้าตึกบัญชาการ พร้อมกดแตรดังลั่น และล่าสุดคือครั้งนี้ ที่ขับรถขึ้นไปจอดหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และกดแตรเสียงดังลั่นไปทั้งทำเนียบฯ ซึ่งในช่วงเวลานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ไปเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา
ทั้งนี้ พฤติกรรมของนายพงศ์พิชาญ ที่เข้ามาก่อความวุ่นวายในทำเนียบรัฐบาลฯ หลายครั้งเนื่องจากมีความไม่พอใจ เรื่องสิทธิ์รับเงินเยียวยาจากการชุมนุมทางการเมือง ที่ก่อนหน้านี้ เขาระบุว่า ยังได้เงินไม่ครบจำนวน 7.5 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากการชุมนุม 2 เหตุการณ์ แต่ได้รับการเยียวยาเพียงเหตุการณ์เดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้ข้าราชการ และสื่อมวลชน ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ในทำเนียบรัฐบาล ที่หละหลวมเป็นอย่างมากที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซ้ำแล้วซ้ำอีก จากคนขับแท็กซี่คนเดิม ที่นึกจะเข้า จะออกเมื่อไรก็ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดเหตุวุ่นวาย มีเพียงผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น ที่วิ่งกรูกันไปยังจุดเกิดเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาล จะมาถึงหน้าตึกไทยคู่ฟ้าด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่แท็กซี่จอมซ่าส์ ขับรถออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับสูง ของทำเนียบรัฐบาล ก็มาบ่นกับผู้สื่อข่าวว่า "งานเข้าอีกแล้ว"