สุดมึน! รปภ.นายกฯ เปลี่ยนป้ายแดงรถโฟล์คกันกระสุน ใช้ทะเบียน ช 3429 อ้างรักษาความปลอดภัย แต่พอขบวนจริงมาถึงกลับเอาป้ายเดิมมาติดแทน ด้านรองเลขาฯ นายกฯ สั่งฝ่ายอาคารเอาต้นตะค้ำปลูกแทนต้นกระพี้จั่นที่ถูกลมพัดล้มเมื่อวานก่อน บอกชื่อเป็นมงคล ขณะที่บรรยากาศช่วงเย็นฝนตกหนักพายุพัดต้นจันทร์ข้างรังนกกระจอกหักอีกแล้ว
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถโฟล์คสีดำกันกระสุนที่นายกรัฐมนตรีใช้เป็นประจำ จากทะเบียน ช 3438 กทม.มาเป็นเลขทะเบียน ช 3429 กทม. แต่เป็นป้ายแดงเช่นเดิม โดยอ้างเป็นหนึ่งในขั้นตอนเพื่อการรักษาความปลอดภัย แต่เมื่อขบวนรถของนายกรัฐมนตรีมาถึงทำเนียบรัฐบาล ก็ได้นำป้ายทะเบียนเดิมมาติดแทน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้กล่าวทีเล่นทีจริงกับผู้สื่อข่าวว่า นอกจากเป็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยแล้วก็เพื่อให้นักเสี่ยงโชคได้มีตัวเลขใหม่ๆ ได้ลุ้นกัน
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณข้างห้องผู้สื่อข่าวเก่า ประจำทำเนียบรัฐบาล หรือรังเก่า ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ได้นำต้น “ตะค้ำ” มาปลูกแทน “ต้นกระพี้จั่น” ต้นไม้เก่าแก่ที่หักโค่นไปหลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองเมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าอาจเป็นลางร้ายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดย พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า สาเหตุที่เลือกต้นตะค้ำมาปลูกแทนต้นกระพี้จั่นเพราะเป็นไม้ที่มีใบจำนวนมาก ให้ร่มเงา ที่สำคัญชื่อเป็นมงคล
นอกจากนี้ ภายหลังที่คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเสร็จไม่นาน ได้เกิดฝนตกและลมกระโชกขึ้นอย่างรุนแรงเป็นเวลาต่อเนื่องประมาณ 30 นาทีภายในทำเนียบรัฐบาลและพื้นที่ใกล้เคียง ส่งผลให้ต้นกระพี้จั่น ต้นจันทร์ ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ความสูงกว่า 5 เมตรที่ปลูกอยู่ด้านข้างห้องสื่อมวลชน 1 (รังนกกระจอกเก่า) เยื้องกับตึกนารีสโมสร สถานที่แถลงข่าว ครม.เกิดหักและโค่นล้มลงมา สร้างความโกลาหลให้ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ใดได้รับความบาดเจ็บ แต่มีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา โดยก่อนหน้านี้ช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาก็ได้เกิดเหตุต้นกระพี้จั่นเก่าแก่ อายุ 40 ปี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกันได้ได้โค่นล้มลงมาในช่วงกลางดึกแล้วครั้งหนึ่ง สำหรับต้นที่เพิ่งโค่นวันนี้เป็นต้นลูกที่ได้จากการเพาะมาจากต้นที่โค่นเมื่อเดือนก่อน
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถโฟล์คสีดำกันกระสุนที่นายกรัฐมนตรีใช้เป็นประจำ จากทะเบียน ช 3438 กทม.มาเป็นเลขทะเบียน ช 3429 กทม. แต่เป็นป้ายแดงเช่นเดิม โดยอ้างเป็นหนึ่งในขั้นตอนเพื่อการรักษาความปลอดภัย แต่เมื่อขบวนรถของนายกรัฐมนตรีมาถึงทำเนียบรัฐบาล ก็ได้นำป้ายทะเบียนเดิมมาติดแทน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้กล่าวทีเล่นทีจริงกับผู้สื่อข่าวว่า นอกจากเป็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยแล้วก็เพื่อให้นักเสี่ยงโชคได้มีตัวเลขใหม่ๆ ได้ลุ้นกัน
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณข้างห้องผู้สื่อข่าวเก่า ประจำทำเนียบรัฐบาล หรือรังเก่า ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ได้นำต้น “ตะค้ำ” มาปลูกแทน “ต้นกระพี้จั่น” ต้นไม้เก่าแก่ที่หักโค่นไปหลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองเมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าอาจเป็นลางร้ายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดย พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า สาเหตุที่เลือกต้นตะค้ำมาปลูกแทนต้นกระพี้จั่นเพราะเป็นไม้ที่มีใบจำนวนมาก ให้ร่มเงา ที่สำคัญชื่อเป็นมงคล
นอกจากนี้ ภายหลังที่คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเสร็จไม่นาน ได้เกิดฝนตกและลมกระโชกขึ้นอย่างรุนแรงเป็นเวลาต่อเนื่องประมาณ 30 นาทีภายในทำเนียบรัฐบาลและพื้นที่ใกล้เคียง ส่งผลให้ต้นกระพี้จั่น ต้นจันทร์ ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ความสูงกว่า 5 เมตรที่ปลูกอยู่ด้านข้างห้องสื่อมวลชน 1 (รังนกกระจอกเก่า) เยื้องกับตึกนารีสโมสร สถานที่แถลงข่าว ครม.เกิดหักและโค่นล้มลงมา สร้างความโกลาหลให้ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ใดได้รับความบาดเจ็บ แต่มีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา โดยก่อนหน้านี้ช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาก็ได้เกิดเหตุต้นกระพี้จั่นเก่าแก่ อายุ 40 ปี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกันได้ได้โค่นล้มลงมาในช่วงกลางดึกแล้วครั้งหนึ่ง สำหรับต้นที่เพิ่งโค่นวันนี้เป็นต้นลูกที่ได้จากการเพาะมาจากต้นที่โค่นเมื่อเดือนก่อน