วานนี้(31 ก.ค.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงมติ ครม. ที่แต่งตั้ง พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาสลายการชุมนุม 7 ต.ค.51 และมีชื่อของทนาย นปช. เป็น 2 ใน 9 คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิเศษของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าในหลายเดือนที่ผ่านมา มีการขยับใช้ดีเอสไอ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองมากขึ้น ซึ่งมองว่า รัฐบาลยังจะเดินหน้ามุ่งมั่นว่าจะเอา ดีเอสไอ มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
"คนที่เข้าไปก็คงจะมีบางส่วน บางคนที่ถูกมอบหมายให้เข้าไปเพื่อไปผลักดันประเด็นทางการเมืองของรัฐบาล ซึ่งอันนี้ผมก็อยากจะเตือนนะครับว่า เราจะแข่งขันต่อสู้ทางการเมืองกันอย่างไรก็ตาม แต่พอเราเริ่มเอากลไก อย่างเช่นกลไกความมั่นคง กลไกที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายมา มันเป็นปัญหา ซึ่งจะกระทบกระเทือนกับตัวระบบกับความน่าเชื่อถือ กับความยุติธรรมในสังคม”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่หมายความว่า บอกว่าฝ่ายการเมือง หรือฝ่ายค้านตรวจสอบไม่ได้ไม่ใช่นะครับ ตรวจสอบได้ แต่ว่าก็ตรวจสอบโดยกลไกที่ดำเนินการกันไปตามกฎหมายที่มีอยู่ แล้วก็รัฐบาลก็เป็นฝ่ายมีอำนาจอยู่แล้ว หรืออำนาจบริหารอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่จะไปเอากลไกอะไรต่าง ๆ พิเศษเพิ่มเติมเข้ามาเฉพาะเจาะจง แล้วก็มีวาระทางการเมือง มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
"ตรงนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปละครับ ผมก็คาดเดาว่ามีแน่ครับ มีการพยายามผลักดันให้มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายค้านนี่แหละครับ แล้วก็กรมสอบสวนคดีพิเศษจะเป็นคนเดินเรื่องครับ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.55 ครม.อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ(กพค.) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ จำนวน 9 คน ได้แก่ 1.นายไกรสร บารมีอวยชัย ด้านกฎหมายและและการบริหารงานยุติธรรม 2.นายชัยเกษม นิติศิริ ด้านกฎหมายและการดำเนินคดีอาญา 3.นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ด้านกฎหมายและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ 4.นายประดิษฐ์ เอกมณี ด้านกฎหมายและการพิพากษาคดี
5.นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินการธนาคาร 6.นายมหิดล จันทรางกูล ด้านการเงินการธนาคารและเทคโนโลยีสารสนเทศ 7.นพ.เรวัต วิศรุตเวช ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข 8.พล.ต.ท. สุชาติ เหมือนแก้ว ด้านกระทบวนการสืบสวนสอบสวนคดีอาญา และ9.นายอนุพร อรุณรัตน์ ด้านกฎหมายและธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 2555 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ บอร์ดดีเอสไอคนใหม่ด้านกฎหมายและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ อยู่ประจำสำนักงานกฎหมายคำนวณ ชโลปถัมภ์ ร่วมก่อตั้ง สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ทั้งนี้นายนรินท์พงศ์ เป็นนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย 2552-2555 และเป็นทนายความของ 7 แกนนำ นปช ด้วย
"คนที่เข้าไปก็คงจะมีบางส่วน บางคนที่ถูกมอบหมายให้เข้าไปเพื่อไปผลักดันประเด็นทางการเมืองของรัฐบาล ซึ่งอันนี้ผมก็อยากจะเตือนนะครับว่า เราจะแข่งขันต่อสู้ทางการเมืองกันอย่างไรก็ตาม แต่พอเราเริ่มเอากลไก อย่างเช่นกลไกความมั่นคง กลไกที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายมา มันเป็นปัญหา ซึ่งจะกระทบกระเทือนกับตัวระบบกับความน่าเชื่อถือ กับความยุติธรรมในสังคม”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่หมายความว่า บอกว่าฝ่ายการเมือง หรือฝ่ายค้านตรวจสอบไม่ได้ไม่ใช่นะครับ ตรวจสอบได้ แต่ว่าก็ตรวจสอบโดยกลไกที่ดำเนินการกันไปตามกฎหมายที่มีอยู่ แล้วก็รัฐบาลก็เป็นฝ่ายมีอำนาจอยู่แล้ว หรืออำนาจบริหารอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่จะไปเอากลไกอะไรต่าง ๆ พิเศษเพิ่มเติมเข้ามาเฉพาะเจาะจง แล้วก็มีวาระทางการเมือง มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
"ตรงนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปละครับ ผมก็คาดเดาว่ามีแน่ครับ มีการพยายามผลักดันให้มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายค้านนี่แหละครับ แล้วก็กรมสอบสวนคดีพิเศษจะเป็นคนเดินเรื่องครับ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.55 ครม.อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ(กพค.) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ จำนวน 9 คน ได้แก่ 1.นายไกรสร บารมีอวยชัย ด้านกฎหมายและและการบริหารงานยุติธรรม 2.นายชัยเกษม นิติศิริ ด้านกฎหมายและการดำเนินคดีอาญา 3.นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ด้านกฎหมายและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ 4.นายประดิษฐ์ เอกมณี ด้านกฎหมายและการพิพากษาคดี
5.นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินการธนาคาร 6.นายมหิดล จันทรางกูล ด้านการเงินการธนาคารและเทคโนโลยีสารสนเทศ 7.นพ.เรวัต วิศรุตเวช ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข 8.พล.ต.ท. สุชาติ เหมือนแก้ว ด้านกระทบวนการสืบสวนสอบสวนคดีอาญา และ9.นายอนุพร อรุณรัตน์ ด้านกฎหมายและธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 2555 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ บอร์ดดีเอสไอคนใหม่ด้านกฎหมายและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ อยู่ประจำสำนักงานกฎหมายคำนวณ ชโลปถัมภ์ ร่วมก่อตั้ง สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ทั้งนี้นายนรินท์พงศ์ เป็นนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย 2552-2555 และเป็นทนายความของ 7 แกนนำ นปช ด้วย