อยากให้คนไทยทั้งประเทศอ่านบทความเรื่อง “อนาธิปไตยเกินครึ่งใบแล้ว” ของคุณโสภณ องค์การณ์ แห่งป้อมพระอาทิตย์ ใน ASTV ผู้จัดการ Online ครับ เพราะว่าท่านได้รวมความชั่ว – วัฏจักรความชั่ว แหล่งกำเนิดความชั่ว และบริบทความชั่วสามานย์ของระบอบทักษิณ และผู้คนที่เกาะกินระบอบทักษิณอย่างชัดเจนและกระทัดรัด
ผมเองได้เขียนเรื่องลัทธิอนาธิปไตยไว้หลายตอนแล้ว เคยสรุปว่าลัทธิอนาธิไตย คือ การบูชาอัตตาของตน และคิดว่าความคิดของตนนั้นถูก จึงยุยงโน้มน้าวให้ผู้อื่นเชื่อตามนั้น แต่ความเลวร้ายที่สุดของลัทธินี้ คือ การไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคล ละเมิดกรอบการรักษาสิทธิเสรีภาพบุคคล ทำให้ไม่มีระเบียบแบบแผนในการรักษาสิทธิเสรีภาพบุคคล และอนาธิปไตยนิยมไม่ยอมรับกฎระเบียบที่มีลักษณะสร้างสรรค์ ให้ความผาสุกเกิดขึ้นในแผ่นดิน แต่มุ่งมั่นทำลายล้างสิทธิเสรีภาพในความคิดของปัจเจกบุคคลด้วยหลักทางวิชาการบ้างล่ะ หรือหลอกลวงให้เชื่อบ้างล่ะ จึงไม่ต่างกับเผด็จการทั้งทหารและพลเรือน
แต่ที่ร้ายแรงก็คือ อนาธิปไตยนิยมมักมีหลายก๊ก และแต่ละก๊กนี้แสวงประโยชน์ร่วมในเรื่องความดิ้นรนร่วม แต่เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็จะหันหน้ามาเข่นฆ่ากันเอง ในประเทศเราขณะนี้กลุ่มย่อยอนาธิปไตยนิยมแสวงจุดร่วม ด้วยการมุ่งมั่นที่จะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเป็นสถาบันสูงสุดที่คนไทยเคารพสักการะ จึงเป็นอุปสรรคของอนาธิปไตยในจัดการปกครอง การดำรงชีพ และวัฒนธรรมตามแบบของพวกเขาซึ่งมีความซับซ้อนมาก
อนาธิปไตยนิยมเป็นส่วนประกอบสำคัญหนึ่งในการปฏิวัติประชาชนเสมอ เช่น การปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789-1799 การเมืองภายใน และภายนอกฝรั่งเศส สับสนวุ่นวาย มีการตั้งข้อหากลุ่มต่อต้านปฏิวัติโดยกลุ่มปฏิวัติ และตัดสินโดยกลุ่มปฏิวัติซึ่งก็แบ่งแยกเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งในช่วงแรกทุกกลุ่มปฏิวัติมีจุดร่วมเดียวกัน คือ ล้มระบบพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ให้สิ้นซาก เมื่อกระทำสำเร็จก็เริ่มหาแพะให้เป็นผู้ต่อต้านปฏิวัติ และในที่สุดกลุ่มปฏิวัติก็ฆ่ากันเอง เพราะแนวคิดต่าง เช่น จอร์เจส์ ดังตอง (Georges Danton) เป็นแกนนำกลุ่มจิลองดองส์ปฏิวัติล้มล้างระบอบกษัตริย์ช่วงแรกแรก
แต่ต่อมาในยุคหฤโหด ค.ศ. 1793 เป็นเวลา 9 เดือนที่กลุ่มจาโกแบงส์ของแมกซิมิเลียน โรเบสปิแอร์ (Maximilien Robert Spierrs) เรืองอำนาจ ก็จับจอร์เจส์ ดังตอง ประหารชีวิตในข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน อ่อนข้อกับพวกต่อต้านปฏิวัติและต่างชาติ และในยุคปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1917 ทรอสกี้ก็ถูกหน่วยล่าสังหารของสตาลินกวาดล้าง ตัวทรอสกี้ถูกตามล้างไปฆ่าถึงเม็กซิโก ในกลุ่มอนาธิปไตยนิยมที่รู้จักกันดีคือ มิเกล บูคานิน ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า “พวกปฏิวัติเมื่ออำนาจสูงสุดและเป็นเผด็จการแล้วจะเลวร้ายกว่าพระเจ้าซาร์เสียอีก” ความวุ่นวายทางการเมืองฝรั่งเศสยุติโดยการรัฐประหารของนโปเลียน
เหตุการณ์ช่วงก่อนและในวันที่ 13 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ประชาชนคนไทยได้เห็นพฤติกรรมทักษิณแดง แสดงความเป็นพวกอนาธิปไตยอย่างชัดเจน ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งขอให้สภาผู้แทนราษฎร ชะลอการพิจารณาวาระ 3 ของ พ.ร.บ.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 โดยให้เหตุผลว่ามีคนยื่นคำร้องว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ บรรดาสาวกแดงทักษิณต่างออกมาประณามกดดัน ข่มขู่ และแสดงอาการอาฆาตเคียดแค้นศาลรัฐธรรมนูญ จนในวันที่ 13 กรกฎาคม นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยประกาศตั้งข้อหาว่า “คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นกบฏ และหากตำรวจไม่จับ เขาจะนำคนเสื้อแดงไปจับ”
ส่วนนายขวัญชัย ไพรพนา นักรับจ้างจัดรายการวิทยุในระบอบทักษิณ และแกนนำคนรักอุดรฯ ออกมาประกาศย้ำเตือนข่มขู่ศาลตามนายก่อแก้วว่า“เขาจะเป็นผู้นำคนเสื้อแดงไปจับตัวคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเอง”
แต่พฤติกรรมและวาจาสามหาวของคนทั้งสอง ซึ่งสำนวนของนายก่อแก้ว ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ BANGKOK POST ได้แปลตีพิมพ์ลงหน้าแรกของฉบับวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งโดยนัยนี้แล้วทั่วโลกคงจะงงงันกับพฤติกรรมของคนเสื้อแดง และเป็นเจตจำนงชัดเจนในเรื่องการใช้ความรุนแรง การใช้ศาลเตี้ย การข่มขู่อำนาจตุลาการ อันเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของปวงชน และเป็นการให้สัญญาณถึงวาระการใช้ลัทธิอนาธิปไตยปฏิวัติ คือ การประกาศว่าบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีขื่อมีแปอีกต่อไปแล้ว
หัวหน้ารัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นหุ่นเชิด จึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรต่อพฤติกรรมของลูกพรรคและคนเสื้อแดงในอาณัติ ที่แสดงความกักขฬะให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมโลก แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ เองก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะได้ปฏิญาณตนต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วว่าจะ “ปกป้องอำนาจอธิปไตยของปวงชน” อำนาจตุลาการเป็นอำนาจหนึ่งของอำนาจอธิปไตยปวงชน และอำนาจนี้ถูกละเมิดโดยนายก่อแก้ว ซึ่งเป็นสมาชิกพรรค เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทย แต่เธอละเว้นมิได้ทำหน้าที่ปกป้องอำนาจของปวงชน
การที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่วินิจฉัย พ.ร.บ.แก้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ตามความต้องการของคนเสื้อแดง จึงเป็นอาชญากรรมในความคิดของคนเสื้อแดง จึงเป็นเรื่องที่น่าอับอายต่อสาธารณชนชาวโลก ว่าคนไทยไม่มีอารยะทางการเมือง ไร้อารยะธรรมในการปกครอง แต่มีนักการเมืองที่เป็นคนกักขฬะอันธพาล นิยมความรุนแรง และการประกาศใช้กฎหมาหมู่ เพื่อแก้ปัญหาของพวกคนเสื้อแดงโดยนักการเมืองพรรครัฐบาล
ดังนั้นเราๆ ท่านๆ จึงต้องติดตามพติกรรมอนาธิปไตยปฏิวัติของคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง และวิเคราะห์อย่างจริงจังลึกซึ้ง เพราะหากกลยุทธ์อนาธิปไตยของทักษิณสัมฤทธิผล ก็หมายความว่าทุกหย่อมหญ้าในประเทศจะไร้ขื่อไร้แป ผู้คนไม่รู้จะไปพึ่งใคร คนเสื้อแดงจะขยายผลกลยุทธ์นี้ข่มขูชาวบ้านทั่วไปให้เกิดความกลัว ให้เกิดความยุ่งยากในการติดต่อราชการ และไม่ได้รับความสะดวกสบายในการดำรงชีวิตหลายประการ รวมทั้งราคาสินค้าจำเป็นก็จะควบคุมไม่ได้ เกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้าและการเลือกตั้งในอนาคตก็จะตกอยู่ในอันตรายเมื่ออันธพาลครองเมือง
ขบวนการอนาธิปไตยที่เห็นชัดเจนประการหนึ่ง คือ กรณีนางฐิตินันท์ แก้วจันทรานนท์ แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ และได้กระทำการบังอาจต่ำช้า กระทืบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หน้าศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 กรกฎาคม นั่นเลย
ญาติๆ นางฐิตินันท์ อ้างว่าเธอเป็นบ้า จึงเกิดผลเมื่อร.อ.วีระ จันทรานุดร กัปตันเครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG491 เวลา 18.40 น. สกัดเธอมิให้เดินทางไปนิวซีแลนด์เพื่อหวังหลบหนีสังคมและคดีอาญา แต่ถูกขับออกจากบัญชีผู้โดยสาร และมีรูปคดีลักษณะคล้ายนายโจ กอร์ดอน ก็ถูกลงโทษตัดสินจำคุก 2 ปีกว่า และเพิ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว
ถ้านางฐิตินันท์ เป็นบ้า ก็จะต้องรักษาและจะเดินทางออกนอกประเทศโดยสายการบินพาณิชย์ไม่ได้อีกต่อไป เพราะกัปตันมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการปกป้องผู้โดยสารให้พ้นจากภัยอันตรายทั้งมวล และคนบ้าที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ใช้กำลัง ย่อมเป็นภัยต่อการบินและผู้โดยสาร กัปตันสามารถปฏิเสธคนที่มีอารมณ์โกรธก้าวร้าวรุนแรงขณะกำลังจะขึ้นเครื่องบิน หรือคนเมาขาดสติ ซึ่งเป็นไปตามกฎขององค์การการบินพลเรือนสากลอยู่แล้ว
พฤติกรรมเชิงการเมืองและสังคม ที่แสดงออกในช่วงการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญของคนเสื้อแดง ย่อมเน้นให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ของทักษิณ ซึ่งออกมาแสดงทัศนะที่อินโดนีเซียว่า “การนิรโทษกรรม” เป็นทางออกของประเทศไทย
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ว่าใครก็ตาม ย่อมรับรู้ว่าทักษิณคนเสื้อแดงต้องการอะไร และกลยุทธ์เหล่านี้จะยังคงดำเนินต่อไปหรือว่าจะรุนแรงมากแค่ไหน และเมื่อเกิดความรุนแรงนองเลือดเข้าขั้นสงครามกลางเมืองขึ้น อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ ทักษิณ และคนเสื้อแดง
ปัจจุบันผู้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทย อดีตสมาชิก พคท. หรือแดงรักชาติ ได้ออกมาแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และศาลรัฐธรรมนูญ หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน ประกาศจุดยืนส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยแถลงว่าพระราโชบายในการปกครองประเทศ และโครงการพระราชดำริของในหลวงทั้งมวลนั้น สอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรค และ พคท.ใหม่จะต่อต้านทุนนิยมสามานย์ ที่ทำลายโครงสร้างความเจริญของชาติ สังคมไทย ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
แนวคิดร่วมนี้จึงสอดคล้องกับพระราโชบายว่าด้วยหลักการราชประชาสมาสัย ซึ่ง ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ได้เขียนไว้ในหนังสือน่าอ่านเรื่อง “ราชประชาสมาสัย เป็นคำตอบสุดท้าย” คือ พระราชากับประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างแน่นแฟ้น และเป็นปรัชญาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์กว่าประชาธิปไตยทั่วไป เพราะเป็นเรื่องของเมตตาธรรม ความเข้าใจ การเสียสละ และร่วมแรงร่วมใจกันทั้งชาติ
ผมเองได้เขียนเรื่องลัทธิอนาธิปไตยไว้หลายตอนแล้ว เคยสรุปว่าลัทธิอนาธิไตย คือ การบูชาอัตตาของตน และคิดว่าความคิดของตนนั้นถูก จึงยุยงโน้มน้าวให้ผู้อื่นเชื่อตามนั้น แต่ความเลวร้ายที่สุดของลัทธินี้ คือ การไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคล ละเมิดกรอบการรักษาสิทธิเสรีภาพบุคคล ทำให้ไม่มีระเบียบแบบแผนในการรักษาสิทธิเสรีภาพบุคคล และอนาธิปไตยนิยมไม่ยอมรับกฎระเบียบที่มีลักษณะสร้างสรรค์ ให้ความผาสุกเกิดขึ้นในแผ่นดิน แต่มุ่งมั่นทำลายล้างสิทธิเสรีภาพในความคิดของปัจเจกบุคคลด้วยหลักทางวิชาการบ้างล่ะ หรือหลอกลวงให้เชื่อบ้างล่ะ จึงไม่ต่างกับเผด็จการทั้งทหารและพลเรือน
แต่ที่ร้ายแรงก็คือ อนาธิปไตยนิยมมักมีหลายก๊ก และแต่ละก๊กนี้แสวงประโยชน์ร่วมในเรื่องความดิ้นรนร่วม แต่เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็จะหันหน้ามาเข่นฆ่ากันเอง ในประเทศเราขณะนี้กลุ่มย่อยอนาธิปไตยนิยมแสวงจุดร่วม ด้วยการมุ่งมั่นที่จะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเป็นสถาบันสูงสุดที่คนไทยเคารพสักการะ จึงเป็นอุปสรรคของอนาธิปไตยในจัดการปกครอง การดำรงชีพ และวัฒนธรรมตามแบบของพวกเขาซึ่งมีความซับซ้อนมาก
อนาธิปไตยนิยมเป็นส่วนประกอบสำคัญหนึ่งในการปฏิวัติประชาชนเสมอ เช่น การปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789-1799 การเมืองภายใน และภายนอกฝรั่งเศส สับสนวุ่นวาย มีการตั้งข้อหากลุ่มต่อต้านปฏิวัติโดยกลุ่มปฏิวัติ และตัดสินโดยกลุ่มปฏิวัติซึ่งก็แบ่งแยกเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งในช่วงแรกทุกกลุ่มปฏิวัติมีจุดร่วมเดียวกัน คือ ล้มระบบพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ให้สิ้นซาก เมื่อกระทำสำเร็จก็เริ่มหาแพะให้เป็นผู้ต่อต้านปฏิวัติ และในที่สุดกลุ่มปฏิวัติก็ฆ่ากันเอง เพราะแนวคิดต่าง เช่น จอร์เจส์ ดังตอง (Georges Danton) เป็นแกนนำกลุ่มจิลองดองส์ปฏิวัติล้มล้างระบอบกษัตริย์ช่วงแรกแรก
แต่ต่อมาในยุคหฤโหด ค.ศ. 1793 เป็นเวลา 9 เดือนที่กลุ่มจาโกแบงส์ของแมกซิมิเลียน โรเบสปิแอร์ (Maximilien Robert Spierrs) เรืองอำนาจ ก็จับจอร์เจส์ ดังตอง ประหารชีวิตในข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน อ่อนข้อกับพวกต่อต้านปฏิวัติและต่างชาติ และในยุคปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1917 ทรอสกี้ก็ถูกหน่วยล่าสังหารของสตาลินกวาดล้าง ตัวทรอสกี้ถูกตามล้างไปฆ่าถึงเม็กซิโก ในกลุ่มอนาธิปไตยนิยมที่รู้จักกันดีคือ มิเกล บูคานิน ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า “พวกปฏิวัติเมื่ออำนาจสูงสุดและเป็นเผด็จการแล้วจะเลวร้ายกว่าพระเจ้าซาร์เสียอีก” ความวุ่นวายทางการเมืองฝรั่งเศสยุติโดยการรัฐประหารของนโปเลียน
เหตุการณ์ช่วงก่อนและในวันที่ 13 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ประชาชนคนไทยได้เห็นพฤติกรรมทักษิณแดง แสดงความเป็นพวกอนาธิปไตยอย่างชัดเจน ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งขอให้สภาผู้แทนราษฎร ชะลอการพิจารณาวาระ 3 ของ พ.ร.บ.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 โดยให้เหตุผลว่ามีคนยื่นคำร้องว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ บรรดาสาวกแดงทักษิณต่างออกมาประณามกดดัน ข่มขู่ และแสดงอาการอาฆาตเคียดแค้นศาลรัฐธรรมนูญ จนในวันที่ 13 กรกฎาคม นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยประกาศตั้งข้อหาว่า “คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นกบฏ และหากตำรวจไม่จับ เขาจะนำคนเสื้อแดงไปจับ”
ส่วนนายขวัญชัย ไพรพนา นักรับจ้างจัดรายการวิทยุในระบอบทักษิณ และแกนนำคนรักอุดรฯ ออกมาประกาศย้ำเตือนข่มขู่ศาลตามนายก่อแก้วว่า“เขาจะเป็นผู้นำคนเสื้อแดงไปจับตัวคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเอง”
แต่พฤติกรรมและวาจาสามหาวของคนทั้งสอง ซึ่งสำนวนของนายก่อแก้ว ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ BANGKOK POST ได้แปลตีพิมพ์ลงหน้าแรกของฉบับวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งโดยนัยนี้แล้วทั่วโลกคงจะงงงันกับพฤติกรรมของคนเสื้อแดง และเป็นเจตจำนงชัดเจนในเรื่องการใช้ความรุนแรง การใช้ศาลเตี้ย การข่มขู่อำนาจตุลาการ อันเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของปวงชน และเป็นการให้สัญญาณถึงวาระการใช้ลัทธิอนาธิปไตยปฏิวัติ คือ การประกาศว่าบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีขื่อมีแปอีกต่อไปแล้ว
หัวหน้ารัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นหุ่นเชิด จึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรต่อพฤติกรรมของลูกพรรคและคนเสื้อแดงในอาณัติ ที่แสดงความกักขฬะให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมโลก แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ เองก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะได้ปฏิญาณตนต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วว่าจะ “ปกป้องอำนาจอธิปไตยของปวงชน” อำนาจตุลาการเป็นอำนาจหนึ่งของอำนาจอธิปไตยปวงชน และอำนาจนี้ถูกละเมิดโดยนายก่อแก้ว ซึ่งเป็นสมาชิกพรรค เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทย แต่เธอละเว้นมิได้ทำหน้าที่ปกป้องอำนาจของปวงชน
การที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่วินิจฉัย พ.ร.บ.แก้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ตามความต้องการของคนเสื้อแดง จึงเป็นอาชญากรรมในความคิดของคนเสื้อแดง จึงเป็นเรื่องที่น่าอับอายต่อสาธารณชนชาวโลก ว่าคนไทยไม่มีอารยะทางการเมือง ไร้อารยะธรรมในการปกครอง แต่มีนักการเมืองที่เป็นคนกักขฬะอันธพาล นิยมความรุนแรง และการประกาศใช้กฎหมาหมู่ เพื่อแก้ปัญหาของพวกคนเสื้อแดงโดยนักการเมืองพรรครัฐบาล
ดังนั้นเราๆ ท่านๆ จึงต้องติดตามพติกรรมอนาธิปไตยปฏิวัติของคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง และวิเคราะห์อย่างจริงจังลึกซึ้ง เพราะหากกลยุทธ์อนาธิปไตยของทักษิณสัมฤทธิผล ก็หมายความว่าทุกหย่อมหญ้าในประเทศจะไร้ขื่อไร้แป ผู้คนไม่รู้จะไปพึ่งใคร คนเสื้อแดงจะขยายผลกลยุทธ์นี้ข่มขูชาวบ้านทั่วไปให้เกิดความกลัว ให้เกิดความยุ่งยากในการติดต่อราชการ และไม่ได้รับความสะดวกสบายในการดำรงชีวิตหลายประการ รวมทั้งราคาสินค้าจำเป็นก็จะควบคุมไม่ได้ เกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้าและการเลือกตั้งในอนาคตก็จะตกอยู่ในอันตรายเมื่ออันธพาลครองเมือง
ขบวนการอนาธิปไตยที่เห็นชัดเจนประการหนึ่ง คือ กรณีนางฐิตินันท์ แก้วจันทรานนท์ แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ และได้กระทำการบังอาจต่ำช้า กระทืบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หน้าศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 กรกฎาคม นั่นเลย
ญาติๆ นางฐิตินันท์ อ้างว่าเธอเป็นบ้า จึงเกิดผลเมื่อร.อ.วีระ จันทรานุดร กัปตันเครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG491 เวลา 18.40 น. สกัดเธอมิให้เดินทางไปนิวซีแลนด์เพื่อหวังหลบหนีสังคมและคดีอาญา แต่ถูกขับออกจากบัญชีผู้โดยสาร และมีรูปคดีลักษณะคล้ายนายโจ กอร์ดอน ก็ถูกลงโทษตัดสินจำคุก 2 ปีกว่า และเพิ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว
ถ้านางฐิตินันท์ เป็นบ้า ก็จะต้องรักษาและจะเดินทางออกนอกประเทศโดยสายการบินพาณิชย์ไม่ได้อีกต่อไป เพราะกัปตันมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการปกป้องผู้โดยสารให้พ้นจากภัยอันตรายทั้งมวล และคนบ้าที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ใช้กำลัง ย่อมเป็นภัยต่อการบินและผู้โดยสาร กัปตันสามารถปฏิเสธคนที่มีอารมณ์โกรธก้าวร้าวรุนแรงขณะกำลังจะขึ้นเครื่องบิน หรือคนเมาขาดสติ ซึ่งเป็นไปตามกฎขององค์การการบินพลเรือนสากลอยู่แล้ว
พฤติกรรมเชิงการเมืองและสังคม ที่แสดงออกในช่วงการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญของคนเสื้อแดง ย่อมเน้นให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ของทักษิณ ซึ่งออกมาแสดงทัศนะที่อินโดนีเซียว่า “การนิรโทษกรรม” เป็นทางออกของประเทศไทย
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ว่าใครก็ตาม ย่อมรับรู้ว่าทักษิณคนเสื้อแดงต้องการอะไร และกลยุทธ์เหล่านี้จะยังคงดำเนินต่อไปหรือว่าจะรุนแรงมากแค่ไหน และเมื่อเกิดความรุนแรงนองเลือดเข้าขั้นสงครามกลางเมืองขึ้น อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ ทักษิณ และคนเสื้อแดง
ปัจจุบันผู้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทย อดีตสมาชิก พคท. หรือแดงรักชาติ ได้ออกมาแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และศาลรัฐธรรมนูญ หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน ประกาศจุดยืนส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยแถลงว่าพระราโชบายในการปกครองประเทศ และโครงการพระราชดำริของในหลวงทั้งมวลนั้น สอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรค และ พคท.ใหม่จะต่อต้านทุนนิยมสามานย์ ที่ทำลายโครงสร้างความเจริญของชาติ สังคมไทย ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
แนวคิดร่วมนี้จึงสอดคล้องกับพระราโชบายว่าด้วยหลักการราชประชาสมาสัย ซึ่ง ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ได้เขียนไว้ในหนังสือน่าอ่านเรื่อง “ราชประชาสมาสัย เป็นคำตอบสุดท้าย” คือ พระราชากับประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างแน่นแฟ้น และเป็นปรัชญาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์กว่าประชาธิปไตยทั่วไป เพราะเป็นเรื่องของเมตตาธรรม ความเข้าใจ การเสียสละ และร่วมแรงร่วมใจกันทั้งชาติ
