ASTVผู้จัดการรายวัน - ก.ล.ต. ชี้ ตั้งแต่ต้นปีทำแบบทดสอบประเมินฐานะโบรกเกอร์บ่อยมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจเงินทุนเพียงพอรองรับ หากดัชนีหุ้นไทยดิ่งหนักติดต่อกันหลายวัน ยันฐานะการเงินแข็งแกร่ง “วรพล” หวังดันการท่าอากาศยาน-การทางพิเศษ-การไฟฟ้า ตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน นัดให้ข้อมูลวันนี้ พร้อมผลักดันโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียมฯ เข้าจดทะเบียนภายในปีนี้
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปนั้น ก.ล.ต.ได้มีการติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด และระวัง จากปัญหาดังกล่าวมีความซับซ้อน และใช้ระยะเวลาแก้ไขปัญหานาน โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก.ล.ต.จะมีการทำแบบทดสอบความสามารถรับมือกับวิกฤต และความท้าทาย (stress test) ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บ่อยมากขึ้น เช่น หากดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง 10-20% ติดต่อกัน 3 วัน ฐานะทาง บล.ยังแข็งแกร่งหรือไม่ เช่น มีเงินทุนเพียงพอหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ฐานะทางการเงินของโบรกเกอร์แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ก.ล.ต.มีการตวจสอบในเรื่องของการชำระราคาหลักทรัพย์ และส่งมอบหลักทรัพย์ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เรื่องระบบในการชำระราคาหลักทรัพย์และส่งมอบหลักทรัพย์นั้นปกติ ทำให้มั่นใจว่า ระบบดังกล่าวมีประสิทธิภาพ การซื้อขายไม่มีปัญหา รวมถึง ก.ล.ต.ได้มีการติดตามบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ในเรื่องการลงทุน โดยปัจจุบัน มี บลจ.ไปลงทุนในยุโรปน้อยมาก ซึ่งไม่น่ากังวล
ทั้งนี้ จากปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปนั้นถือว่าเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะมีการพัฒนาประเทศให้มีความแข็งแกร่งในเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้ โดยวันนี้ (18 ก.ค.) ก.ล.ต.ได้มีการเชิญการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) การไฟฟ้าฯ เพื่อเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนโครงสร้างพื้นฐานว่า บริษัทดังกล่าวสามารถเข้ามาจัดกตั้งกองทุนแล้วเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนได้ ซึ่งตรงนี้ ก็จะช่วยทำให้ลดภาระของรัฐบาลได้ โดยรัฐบาลสามารถนำเงินส่วนดังกล่าวไปลงทุนอย่างอื่นได้
สำหรับปัจจุบัน มีผู้สนใจที่จะตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานหลายราย เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้า และ พลังงานทางเลือก คือ พลังงานแสงอาทิตย์ โดยส่วนตัวคาดว่าจะเริ่มเห็นมีผู้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) กองทุนโครงสร้างพื้นฐานประมาณไตรมาส 3/55 โดยปัจจุบัน เกณฑ์ดังกล่าวนั้นเสร็จหมดแล้ว ส่วนในเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางภาษี การจจำนอง การโอน นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของภาครัฐ ทำให้ปัจจุบัน ยังไม่มีผู้ใดเข้ามายื่นไฟลิ่งจากติดปัญหาดังกล่าว
นายวรพล กล่าวว่า ก.ล.ต.จะมีการพยายามผลักดันให้โรงกลั่นน้ำมัน สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง เข้าดจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ได้ภายในปีนี้ และยังสนับสนุนบริษัทขนาดกลาง และเล็กเข้าจดทะเบียนด้วยเช่นกัน จากที่ ก.ล.ต.มีโครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด เพื่อให้บริษัทดังกล่าวมาใช้ตลาดทุนในการระดมทุนนำเงินไปลงทุนขยายกิจการ เพราะปัจจุบัน ในตลาดหุ้นไทยมีบริษัทต่างจังหวัดเข้ามาจดทะเบียนเพียง 7% เท่านั้นของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด
ทั้งนี้ สำหรับการเชื่อมโยงการซื้อขายตลาดหุ้นอาเซียนนั้น ระหว่างตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ มาเลเชีย และไทย นั้น ซึ่งทั้ง 3 ตลาดได้มีการร่วมมือกันว่า หากนักลงทุนมีการลงทุนแล้วมีกำไรนั้น ไม่ต้องเสียภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น (แคปปิตอลเกน) และมีการรับรองกันว่าสามารถใช้เอกสารการยื่นไฟลิ่งชุดเดียวกันได้ หากเข้าจดทะเบียนใน 3 ประเทศนี้ ซึ่งตลาดหุ้นไทยปกติมีการยกเว้นอยู่แล้ว แต่ส่วนภาษีที่เหลือ เช่น ภาษีเงินปันผลนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่าย กังวลว่าเมื่อวันที่13ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินนั้น ดัชนีหลักทรัพย์มีการปรับตัวในลักษณะที่ผิดสังเกต โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าอาจเกิดขึ้นเพราะมีการปั่นราคาหุ้นของนักการเมือง เลขาธิการก.ล.ต.ให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า การซื้อขายหุ้นมีตลาดหลักทรัพย์ฯคอยควบคุมดูแลความเคลื่อนไหวโดยตลอด เชื่อว่าถ้าพบความผิดปกติจริง ตลาดหลักทรัพย์ฯจะต้องรายงานมาให้ทราบแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าในวันดังกล่าวดัชนีมีความเคลื่อนไหวผิดปกติเช่นใด
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปนั้น ก.ล.ต.ได้มีการติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด และระวัง จากปัญหาดังกล่าวมีความซับซ้อน และใช้ระยะเวลาแก้ไขปัญหานาน โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก.ล.ต.จะมีการทำแบบทดสอบความสามารถรับมือกับวิกฤต และความท้าทาย (stress test) ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บ่อยมากขึ้น เช่น หากดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง 10-20% ติดต่อกัน 3 วัน ฐานะทาง บล.ยังแข็งแกร่งหรือไม่ เช่น มีเงินทุนเพียงพอหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ฐานะทางการเงินของโบรกเกอร์แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ก.ล.ต.มีการตวจสอบในเรื่องของการชำระราคาหลักทรัพย์ และส่งมอบหลักทรัพย์ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เรื่องระบบในการชำระราคาหลักทรัพย์และส่งมอบหลักทรัพย์นั้นปกติ ทำให้มั่นใจว่า ระบบดังกล่าวมีประสิทธิภาพ การซื้อขายไม่มีปัญหา รวมถึง ก.ล.ต.ได้มีการติดตามบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ในเรื่องการลงทุน โดยปัจจุบัน มี บลจ.ไปลงทุนในยุโรปน้อยมาก ซึ่งไม่น่ากังวล
ทั้งนี้ จากปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปนั้นถือว่าเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะมีการพัฒนาประเทศให้มีความแข็งแกร่งในเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้ โดยวันนี้ (18 ก.ค.) ก.ล.ต.ได้มีการเชิญการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) การไฟฟ้าฯ เพื่อเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนโครงสร้างพื้นฐานว่า บริษัทดังกล่าวสามารถเข้ามาจัดกตั้งกองทุนแล้วเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนได้ ซึ่งตรงนี้ ก็จะช่วยทำให้ลดภาระของรัฐบาลได้ โดยรัฐบาลสามารถนำเงินส่วนดังกล่าวไปลงทุนอย่างอื่นได้
สำหรับปัจจุบัน มีผู้สนใจที่จะตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานหลายราย เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้า และ พลังงานทางเลือก คือ พลังงานแสงอาทิตย์ โดยส่วนตัวคาดว่าจะเริ่มเห็นมีผู้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) กองทุนโครงสร้างพื้นฐานประมาณไตรมาส 3/55 โดยปัจจุบัน เกณฑ์ดังกล่าวนั้นเสร็จหมดแล้ว ส่วนในเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางภาษี การจจำนอง การโอน นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของภาครัฐ ทำให้ปัจจุบัน ยังไม่มีผู้ใดเข้ามายื่นไฟลิ่งจากติดปัญหาดังกล่าว
นายวรพล กล่าวว่า ก.ล.ต.จะมีการพยายามผลักดันให้โรงกลั่นน้ำมัน สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง เข้าดจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ได้ภายในปีนี้ และยังสนับสนุนบริษัทขนาดกลาง และเล็กเข้าจดทะเบียนด้วยเช่นกัน จากที่ ก.ล.ต.มีโครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด เพื่อให้บริษัทดังกล่าวมาใช้ตลาดทุนในการระดมทุนนำเงินไปลงทุนขยายกิจการ เพราะปัจจุบัน ในตลาดหุ้นไทยมีบริษัทต่างจังหวัดเข้ามาจดทะเบียนเพียง 7% เท่านั้นของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด
ทั้งนี้ สำหรับการเชื่อมโยงการซื้อขายตลาดหุ้นอาเซียนนั้น ระหว่างตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ มาเลเชีย และไทย นั้น ซึ่งทั้ง 3 ตลาดได้มีการร่วมมือกันว่า หากนักลงทุนมีการลงทุนแล้วมีกำไรนั้น ไม่ต้องเสียภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น (แคปปิตอลเกน) และมีการรับรองกันว่าสามารถใช้เอกสารการยื่นไฟลิ่งชุดเดียวกันได้ หากเข้าจดทะเบียนใน 3 ประเทศนี้ ซึ่งตลาดหุ้นไทยปกติมีการยกเว้นอยู่แล้ว แต่ส่วนภาษีที่เหลือ เช่น ภาษีเงินปันผลนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่าย กังวลว่าเมื่อวันที่13ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินนั้น ดัชนีหลักทรัพย์มีการปรับตัวในลักษณะที่ผิดสังเกต โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าอาจเกิดขึ้นเพราะมีการปั่นราคาหุ้นของนักการเมือง เลขาธิการก.ล.ต.ให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า การซื้อขายหุ้นมีตลาดหลักทรัพย์ฯคอยควบคุมดูแลความเคลื่อนไหวโดยตลอด เชื่อว่าถ้าพบความผิดปกติจริง ตลาดหลักทรัพย์ฯจะต้องรายงานมาให้ทราบแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าในวันดังกล่าวดัชนีมีความเคลื่อนไหวผิดปกติเช่นใด
