ASTVผู้จัดการรายวัน - “โต้ง” ยันไม่ขึ้นราคาแอลพีจีภาคครัวเรือน รอเงินเฟ้อลดต่ำในระดับที่เหมาะสมจึงจะพิจารณาอีกครั้ง ขณะที่ “อารักษ์” ยอมรับต้องตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือนตามมติเดิมถึงสิ้นปี เหตุมาตรการดูแลผลกระทบผู้มีรายได้ต่ำยังไม่พร้อม
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า แม้รัฐบาลจะเสนอต่อรัฐสภาอย่างชัดเจนว่า จะดำเนินการให้ราคาพลังงานก๊าซแอลพีจีที่รัฐบาลอุดหนุนมานาน ค่อยๆปรับให้เป็นไปตามกลไกตลาด และเตรียมพร้อมกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ในปี 2558 แต่จะเป็นการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไปด้วยความระมัดระวังและเป็นขั้นเป็นตอน โดยที่ปรับให้ถูกต้องไปแล้วคือ ภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ภาคขนส่งก็ได้เตรียมความพร้อมมาระยะหนึ่ง เพราะไม่สนับสนุนให้รถบรรทุกมาแต่แรกแล้ว และขณะนี้กำลังจะเข้าสู่ภาคครัวเรือน
โดยการปรับขึ้นค่าก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือนนั้นกว่าจะให้เข้าสู่กลไกตลาดก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปี เพราะอุดหนุนมานานจนรื้อรัง การปรับให้ถูกต้องก็ต้องใช้เวลานาน และการเตรียมพร้อมเออีซีก็ยังมีเวลาเหลืออีก 2 ปีครึ่ง ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการแน่นอน แต่ค่ายๆทำ ซึ่งในวันที่ 16 สิงหาคมที่ครบกำหนดขยายเวลานั้น รัฐบาลก็ยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ หากมีเหตุที่จะปรับเพิ่มก็ต้องทำ แต่ถ้ามีเหตุที่ไม่ปรับ ก็จะไม่ทำ
“สิ่งสำคัญที่เราจะใช้ในการประเมินว่าจะขึ้นค่าก๊าซภาคครัวเรือนหรือไม่ คืออัตราเงินเฟ้อ หากอยู่ในระดับต่ำไม่พอ เราก็จะไม่ปรับขึ้นค่าก๊าซ แต่หากเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำที่เรามองว่าเพียงพอแล้ว ก็อาจจะปรับขึ้นค่าก๊าซได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมควร อย่าเงินเฟ้อที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)คือ เงินเฟ้อพื้นฐานให้อยู่ในกรอบ 0.5-3%และเงินเฟ้อทั่วไปของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรวมราคาพลังงานและอาหารสดด้วยก็ให้อยู่ในกรอบ 1.5-4.5% ถ้ายังอยู่ในกรอบก็ถือว่าเหมาะสม”นายกิตติรัตน์กล่าว
***“อารักษ์”กลับลำไม่ขึ้นแอลพีจีครัวเรือน
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการหารือกับนายกรัฐมนตรี ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ค. ว่า ยอมรับว่ามีการหารือเรื่องโครงสร้างราคาพลังงานบ้างแต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก โดยราคาแอลพีจีครัวเรือนจะยังคงตรึงราคาที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม(กก.)ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนธ.ค. 55 ตามมติคณะรัฐมนตรีเดิมเนื่องจากมาตรการดูแลผลกระทบภาคครัวเรือนยังไม่พร้อม
“ผมยอมรับผิดที่อาจจะสื่อสารไม่เข้าใจซึ่งจริงๆ ผมพยายามจะบอกว่าขึ้นราคาให้เป็นโครงสร้างราคาเดียวกันในส่วนของแอลพีจีครัวเรือน ขนส่ง อุตสาหกรรม และการขึ้นก็จะต้องไปด้วยกันกับเอ็นจีวีแต่แอลพีจีครัวเรือนนั้นจะยังมีการชดเชยอยู่แต่ต้องดูมาตรการก่อนซึ่งก็เท่ากับเป็นการไม่ขึ้นราคา” นายอารักษ์กล่าว
ทั้งนี้วันที่ 16 ส.ค. 55 นี้ราคาแอลพีจีครัวเรือนคงยังไม่ปรับเพราะต้องหามาตรการดูแลผู้ที่มีรายได้ต่ำก่อนและเมื่อมีการขึ้นราคาจริง ณ วันนั้นก็ยังไม่ทราบว่าราคาตลาดโลกจะเป็นเท่าใดแน่หากขึ้นไปราคาแพงมากการปรับโครงสร้างจริงก็อาจทยอยขึ้นก็ได้ไม่ใช่ว่าจะขึ้นทีเดียวเลย ส่วนราคาภาคขนส่งและเอ็นจีวีที่ตรึงไว้ 3 เดือนและจะครบกำหนดในวันดังกล่าวจะมีการปรับหรือไม่ก็ยังไม่ทราบได้เพราะต้องขอกลับไปทำงานใหม่หมด
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า แม้รัฐบาลจะเสนอต่อรัฐสภาอย่างชัดเจนว่า จะดำเนินการให้ราคาพลังงานก๊าซแอลพีจีที่รัฐบาลอุดหนุนมานาน ค่อยๆปรับให้เป็นไปตามกลไกตลาด และเตรียมพร้อมกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ในปี 2558 แต่จะเป็นการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไปด้วยความระมัดระวังและเป็นขั้นเป็นตอน โดยที่ปรับให้ถูกต้องไปแล้วคือ ภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ภาคขนส่งก็ได้เตรียมความพร้อมมาระยะหนึ่ง เพราะไม่สนับสนุนให้รถบรรทุกมาแต่แรกแล้ว และขณะนี้กำลังจะเข้าสู่ภาคครัวเรือน
โดยการปรับขึ้นค่าก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือนนั้นกว่าจะให้เข้าสู่กลไกตลาดก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปี เพราะอุดหนุนมานานจนรื้อรัง การปรับให้ถูกต้องก็ต้องใช้เวลานาน และการเตรียมพร้อมเออีซีก็ยังมีเวลาเหลืออีก 2 ปีครึ่ง ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการแน่นอน แต่ค่ายๆทำ ซึ่งในวันที่ 16 สิงหาคมที่ครบกำหนดขยายเวลานั้น รัฐบาลก็ยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ หากมีเหตุที่จะปรับเพิ่มก็ต้องทำ แต่ถ้ามีเหตุที่ไม่ปรับ ก็จะไม่ทำ
“สิ่งสำคัญที่เราจะใช้ในการประเมินว่าจะขึ้นค่าก๊าซภาคครัวเรือนหรือไม่ คืออัตราเงินเฟ้อ หากอยู่ในระดับต่ำไม่พอ เราก็จะไม่ปรับขึ้นค่าก๊าซ แต่หากเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำที่เรามองว่าเพียงพอแล้ว ก็อาจจะปรับขึ้นค่าก๊าซได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมควร อย่าเงินเฟ้อที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)คือ เงินเฟ้อพื้นฐานให้อยู่ในกรอบ 0.5-3%และเงินเฟ้อทั่วไปของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรวมราคาพลังงานและอาหารสดด้วยก็ให้อยู่ในกรอบ 1.5-4.5% ถ้ายังอยู่ในกรอบก็ถือว่าเหมาะสม”นายกิตติรัตน์กล่าว
***“อารักษ์”กลับลำไม่ขึ้นแอลพีจีครัวเรือน
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการหารือกับนายกรัฐมนตรี ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ค. ว่า ยอมรับว่ามีการหารือเรื่องโครงสร้างราคาพลังงานบ้างแต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก โดยราคาแอลพีจีครัวเรือนจะยังคงตรึงราคาที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม(กก.)ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนธ.ค. 55 ตามมติคณะรัฐมนตรีเดิมเนื่องจากมาตรการดูแลผลกระทบภาคครัวเรือนยังไม่พร้อม
“ผมยอมรับผิดที่อาจจะสื่อสารไม่เข้าใจซึ่งจริงๆ ผมพยายามจะบอกว่าขึ้นราคาให้เป็นโครงสร้างราคาเดียวกันในส่วนของแอลพีจีครัวเรือน ขนส่ง อุตสาหกรรม และการขึ้นก็จะต้องไปด้วยกันกับเอ็นจีวีแต่แอลพีจีครัวเรือนนั้นจะยังมีการชดเชยอยู่แต่ต้องดูมาตรการก่อนซึ่งก็เท่ากับเป็นการไม่ขึ้นราคา” นายอารักษ์กล่าว
ทั้งนี้วันที่ 16 ส.ค. 55 นี้ราคาแอลพีจีครัวเรือนคงยังไม่ปรับเพราะต้องหามาตรการดูแลผู้ที่มีรายได้ต่ำก่อนและเมื่อมีการขึ้นราคาจริง ณ วันนั้นก็ยังไม่ทราบว่าราคาตลาดโลกจะเป็นเท่าใดแน่หากขึ้นไปราคาแพงมากการปรับโครงสร้างจริงก็อาจทยอยขึ้นก็ได้ไม่ใช่ว่าจะขึ้นทีเดียวเลย ส่วนราคาภาคขนส่งและเอ็นจีวีที่ตรึงไว้ 3 เดือนและจะครบกำหนดในวันดังกล่าวจะมีการปรับหรือไม่ก็ยังไม่ทราบได้เพราะต้องขอกลับไปทำงานใหม่หมด
