xs
xsm
sm
md
lg

โฆษกกระทรวงยุคใหม่ : พลัง PR ขับเคลื่อนประเทศ

เผยแพร่:   โดย: ไพศาล อินทสิงห์

หากกล่าวถึงโฆษกกระทรวง เชื่อว่า ประชาชนเชื่อมั่น เชื่อถือในบทบาทการให้ข่าวสาร เนื่องเพราะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นระดับบริหาร ทำงานเคียงคู่ขนานไปกับรัฐมนตรี

เป้าหมาย คือ นำกระทรวงสู่ความสำเร็จ

ทั้งยังประสานร่วมมือกับโฆษกรัฐบาล เพื่อหนุนนำรัฐบาลสู่ความสำเร็จ

นั่นหมายถึง การทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดี มีความสุข ประเทศเจริญก้าวหน้า แข่งขันได้ในเวทีโลก

ทั้งโฆษกรัฐบาล และโฆษกกระทรวง ถือเป็นคู่หูข่าวสาร มี Function ที่ใหญ่ มีความหมายต่อระบบการประชาสัมพันธ์ของรัฐ และการขับเคลื่อนประเทศ

20 กระทรวง 20 โฆษก Function พร้อมกัน ในทิศทางเดียวกัน เชื่อว่า เอาอยู่

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2554 ว่า “ในขณะนี้งานของรัฐบาลมีค่อนข้างมาก แต่พบว่า ณ วันนี้เรายังแต่งตั้งโฆษกกระทรวงไม่ครบทุกกระทรวงเลย ดังนั้น ขอให้ไปเร่งแต่งตั้ง และเสนอรายชื่อกลับมาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องทำงานร่วมกันภายใน 1 สัปดาห์หลังจากนี้ เพราะจำเป็นต้องเร่งชี้แจงประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้เข้าใจ และเข้าถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับให้มากที่สุด” (WWW.siampass.com : ไทยรัฐออนไลน์)

ชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับโฆษกกระทรวงตั้งแต่แรกๆ เข้ารับตำแหน่ง เห็นความจำเป็นต่อการประชาสัมพันธ์ของรัฐ และหวังผลพึ่งพาการทำหน้าที่โฆษกกระทรวง

ในฐานะเป็นผู้หนึ่งที่ติดตามข่าวสารรัฐบาล เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรี ขณะที่มองว่า การทำหน้าที่โฆษกกระทรวงต่างๆ อาจจะยังขาดความโดดเด่นเท่าที่ควร ไม่ค่อยได้เห็นข่าวสารที่โฆษกแถลงเองหรือเป็นแหล่งข่าว ออกสื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนยังมีน้อย เหมือนยังแผ่วๆ อยู่ (มองเชิงโครงสร้าง มิได้มองตัวบุคคล) ไม่ทราบว่า ผู้อ่าน ประชาชนเห็นอย่างที่ผู้เขียนเห็นหรือเปล่า ไม่แน่ใจ?

ผู้เขียน ก็พยายามจะวิเคราะห์ถึงเหตุถึงผลที่มาที่ไป เพราะอะไร พอสรุปได้ 3-4 ประการ กล่าวคือ

1) ไม่ได้ออกสื่อด้วยตนเอง (ทำให้คนมองไม่เห็นผลงานโฆษก) แต่อยู่เบื้องหลัง วางแผน จัดให้รัฐมนตรีเป็นผู้ออกสื่อ

2) เป็นขีดจำกัดที่โฆษกกระทรวงสวมหมวก 2 ใบหรือไม่ประการใด หมวกใบแรก เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นระดับบริหาร มีงานหลัก ใบที่ 2 เป็นโฆษกกระทรวง

งานหลักที่มีมาก ทำให้ไม่มีเวลาทำประชาสัมพันธ์ได้เต็มที่ มีข่าวออกน้อย กลายเป็นว่า อ่อนการประชาสัมพันธ์ ควรต้อง Full Time มิใช่ Part Time สวมบท PR มาก งานหลักก็จะเสีย

3) ด้วยมารยาท ความเป็นข้าราชการ บางทีก็ไม่อยากแสดงบทบาทเด่นเกินเจ้ากระทรวง ออกหน้ามากไปก็จะไม่เหมาะ เกรงจะล้ำหน้า รอรัฐมนตรีเป็นผู้แถลงจะเหมาะสมกว่า

4) มองมิติรัฐมนตรี อาจที่จะเป็นผู้ออกสื่อมาก นำแถลงข่าวเอง นอกจากหวังผลงาน ยังต้องหวังผลทางการเมือง ซึ่งมีเหตุมีผล เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ยอมรับได้ โฆษกกระทรวงอาจขอเป็นผู้ชงประเด็นให้รัฐมนตรีแถลง ก็เป็นไปได้

จะอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลังก็ตาม เชื่อว่าทุกคนหวังเห็นโฆษกกระทรวง เป็นที่พึ่งพาของสังคมมากขึ้น และมากขึ้น

โดยเฉพาะข่าวสารในยุคใหม่ที่มีบทบาทและอิทธิพลสูง โฆษกกระทรวงยุคใหม่ ต้องหนุนนำ เพื่อสร้างโอกาสและการเข้าถึงให้ประชาชน

20 กระทรวง 20 โฆษก เป็นแพ็กเกจประชาสัมพันธ์ครบคลุมภารกิจทุกด้านของรัฐบาล ประสาน เชื่อมต่อ เชื่อมโยง และทำงานร่วมกันกับโฆษกรัฐบาล ถือเป็นพลัง PR ที่น่าสนใจ

เพราะทำให้การชี้แจงประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลไปถึงประชาชนได้อย่างมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ ไม่มีช่องว่าง ช่องโหว่การสื่อสาร

โดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆ ที่ควรต้องสื่อให้ถึงประชาชน อย่างเรื่องปากท้องเศรษฐกิจ รายได้ การทำมาหากิน ชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว

ขอยกตัวอย่างง่ายๆ สินค้าเกษตรราคาตก หอมแดง หอมหัวใหญ่ กระเทียม มะพร้าว สับปะรด อ้อย ลำไย ส้ม ฯลฯ เกษตรกรเดือดร้อน จะสื่อสาร PR อย่างไร

ปัญหาสินค้าราคาแพง อาหารแพง ไข่ ผัก มะนาว หมู ฯลฯ ผู้บริโภคเดือดร้อน จะสื่อสาร PR อย่างไร ทีมงานโฆษก จะชงรัฐมนตรีอย่างไร ในฐานะที่ทำงานเคียงคู่ขนานไปกับรัฐมนตรี

จะ PR ได้ ต้องแก้ไขปัญหาก่อน ว่าจะช่วยเหลือเกษตรกร ผู้บริโภคอย่างไร ถ้าไม่ได้ข้อสรุป ก็ไม่รู้จะเอาอะไรไป PR

แก้เร็ว จบเร็ว ก็ PR เร็ว รัฐบาลได้คะแนน

แก้ช้า จบช้า PR ก็ช้า (ไปด้วย) รัฐบาลเสียคะแนน

ดีไม่ดีเจอประท้วงปิดถนน

จะแก้ก่อน หรือหลังปิดถนน!?

เดี๋ยวนี้เกษตรกรไม่ธรรมดา มีกลยุทธ์ประท้วงอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ อดีตปิดถนนในเส้นทางอำเภอ ตำบลหมู่บ้าน วันนี้ปิดถนนหน้ามหาวิทยาลัย เวลาเลิกงาน 16.30 น.อย่างม็อบชาวนาประท้วงข้าวเปลือกราคาตกทีไร มาที่หน้ามหาวิทยาลัยนเรศวรที่ผู้เขียนทำงานอยู่ (ตั้งอยู่ถนนพิษณุโลก - นครสวรรค์)

ได้ผลทุกที เกษตรกรชาวนายุคใหม่ เรียนรู้ว่า จะประท้วงอย่างไร ให้ใครกระทบบ้าง ฉะนั้น ตั้งแต่อธิการบดี คณบดี คณาจารย์ นักศึกษา รถติดยาว 2-3 กม. เส้นทางไปภาคเหนือเป็นอัมพาต ผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อนถ้วนหน้า

ผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดสนใจเจรจา เกินอำนาจก็ส่งต่อให้รัฐมนตรี

โฆษกกระทรวงยุคใหม่ จะทำอย่างไร เพื่อ “จัดให้” ประชาชน สังคมได้ทราบข่าวสารการแก้ไขปัญหา รวมไปถึงข่าวสารที่เป็นงานปกติ งานพิเศษ และงานนโยบายกระทรวง จะสื่อสาร PR อย่างไร

“จัดเต็ม” ได้ยิ่งดี ส่งออกข่าวสารให้ฟุ้งกระจายไปทั่วประเทศ เดี๋ยวนี้ประชาชนเปิดรับสื่อ บริโภคข่าวสาร มีอินเทอร์เน็ต อีเมล Facebook Twitter มือถือ เข้าถึงง่ายมาก รู้หมด ใคร อะไร อย่างไร เพียงแต่ว่าจะมีข่าวสารกระทรวงให้รู้หรือไม่ เผยแพร่ PR หรือเปล่า นั่นคือประเด็น ถ้าโฆษกกระทรวงไม่ส่งออกไป มีสื่อเครื่องมือพร้อมอย่างไร ก็รับ(รู้)ไม่ได้

PR เป็นเรื่องทางบวก ไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไรกับใคร (ยกเว้นใช้ PR อย่างมีเจตนาแอบแฝง) ทำอย่างไรให้ประชาชนมีข่าวสารบริโภคอย่างเพียงพอ สามารถบริโภคข่าวสารได้ตามความต้องการ ข่าวสารเลือกได้เท่ากับสร้างโอกาสและการเข้าถึงบริการของรัฐ ใช้ประโยชน์จากนโยบาย งานโครงการของรัฐให้มากที่สุด

หากข่าวสารขาดแคลนสิ น่าเป็นห่วง เกิดช่องว่างการสื่อสาร เป็นที่มาของปัญหาความเข้าใจอะไรผิดๆ ในยุคใหม่นี้บางทีกระทรวงยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็เอาไปลือ วิพากษ์วิจารณ์ผิดๆ ซ้ำร้ายตัดสินล่วงหน้าไปก่อนอีก อันนี้อันตราย

ดังนั้น โฆษกกระทรวงควรหนุนนำข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงให้มากพอและให้ชนะความคิดความเชื่อผิดๆ ของประชาชน

งานโครงการใดๆ ของกระทรวง อาจล้มเหลวได้ หากส่งข่าวสาร PR ออกไปช้า และไม่เพียงพอต่อการบริโภคของประชาชน

หากกระทรวงพลาด เท่ากับรัฐบาลพลาดด้วย

ทำอย่างไรจึงจะช่วงชิงให้ข่าวสารประชาชนอย่างมีจังหวะ เวลาไหนควร PR เวลาใดยังไม่ควร อยู่ที่ศิลปะของโฆษกกระทรวง

ทั้งโฆษกรัฐบาล โฆษกกระทรวง จึงมีส่วนกำหนดความสำเร็จหรือล้มเหลวของงาน

ที่ดีที่สุด คือ ประกบนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี เพื่อติดตามนโยบาย การดำเนินงานโครงการใดๆ ตลอดจนความเคลื่อนไหวต่างๆ อย่างใกล้ชิด

นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีคิดอะไร ทำอะไร หรือจะไปภารกิจไหน โฆษกต้องรู้ ทั้งยังต้องอ่านเชิง PR ด้วย ว่าจะทำ PR อะไรให้นายกฯ และรัฐมนตรีได้บ้างในภารกิจนั้น เพื่อช่วงชิงให้ข่าวสาร สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน

และด้วยวิธีการอย่างไรถึงจะพลิ้วเนียน ดูดี เหมาะสมในแต่ละบริบทงาน ที่สำคัญ ต้องเร็ว หมุนให้ทัน เพราะภารกิจนายกฯ ภารกิจรัฐมนตรีมีมาก ล้นปฏิทิน บางทีด่วนกระทั่งไม่มีเวลาบอกโฆษกล่วงหน้า

ขณะที่ยังมีด่วนพิเศษ เช่น อีกครึ่งชั่วโมงนายกฯ หรือรัฐมนตรีจะแถลงข่าวสื่อมวลชน โฆษกจะหมุนอย่างไร เพราะต้องอ่านใจนายกฯ และรัฐมนตรีย่อมหวังเห็นสื่อมาพร้อม มาครบ

และใช้กลยุทธ์ “ส่งลูก รับลูก”

หากวันนี้รัฐบาลแถลงว่า มีนโยบายแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง วันพรุ่งนี้ หรือมะรืน กระทรวงต้องแถลงแล้ว ว่าจับกุมผู้ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้ากี่ราย จับกุมผู้กักตุนสินค้ากี่ราย เป็นต้น

เสริมกัน ย้ำกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจว่า ประชาชนผู้บริโภคได้รับการปกป้อง คุ้มครองดูแลค่าครองชีพ

ผลการแก้ไขปัญหาอย่างไร ต้องให้เห็นได้ในขณะประชาชนกำลังเดือดร้อน

การจัดตั้งร้านถูกใจ 10,000 ร้านค้าทั่วประเทศ กว่าจะตั้งเสร็จให้ประชาชนซื้อได้ กว่าจะจัดส่งสินค้าถึงร้านถูกใจก็ล่าช้า

ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงว่า “ตอนนี้ยอดซื้อร้านถูกใจรวมที่เปิดแล้วกว่า 4,000 ร้านค้า มีเงินหมุนเวียน 400 ล้านบาทต่อเดือน ในวันที่ 16 กรกฎาคม จะจัดประชุมปฐมนิเทศผู้ประกอบการร้านถูกใจ 5,000-6,000 แห่งจากทั่วประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการในการสั่งซื้อและจำหน่ายสินค้า จนถึงขณะนี้มีผู้สมัครแล้วมากกว่า 1 หมื่นราย” (นสพ.มติชน 3 กค.55)

เกรงว่า จะช้าไปไม่ทันกับความเดือดร้อนของประชาชน หรือไม่ประการใด เพราะเพิ่งปฐมนิเทศ และประชุมทำความเข้าใจ

(ขออนุญาตยกตัวอย่างกระทรวงพาณิชย์ ประกอบบทความเพื่อความเข้าใจของผู้อ่าน ขอเรียนว่า ผู้เขียนมิได้มีเจตนามองในทางลบ แต่ประชาชนเขาก็เห็นกันอยู่ สัมผัสกันได้)

“ฝนซาเม็ดแล้ว ก็ไม่อยากได้ร่มแล้ว”

อีกทั้ง 10,000 ร้านค้าทั่วประเทศ อยู่ตรงไหนบ้าง เพราะถ้าประชาชนจะไปใช้บริการร้านถูกใจ แล้วต้องขี่มอเตอร์ไซค์ 10 กิโล ซื้อร้านค้าปากซอยดีกว่ามั้ย?

รู้สึกเห็นใจโฆษกกระทรวง เกรงว่า PR อย่างไรก็ยากจะ “เอาอยู่”

ด้วยเหตุและผล 3-4 ประการข้างต้นทำให้บทบาทโฆษกกระทรวงแผ่วไป ยังอาจด้วยแนวทางและวิธีการแก้ไขปัญหาของกระทรวงที่ไม่ตอบโจทย์โดนใจประชาชน ส่งผลให้ภาพโฆษกกระทรวงขาดความโดดเด่นเท่าที่ควร

คำนึงถึงเป้าหมายงาน คำนึงถึง PR

คำนึงถึง PR คำนึงถึงประชาชน (ต้องมาก่อน) หากตอบโจทย์โดนใจ PR ออกไป ย่อมได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งนั่นหมายถึงความสำเร็จของกระทรวง รัฐบาล

1 โฆษกรัฐบาล 20 โฆษกกระทรวง จึงสำคัญในฐานะผู้นำข่าวสารเพื่อรัฐบาลและประชาชน

โฆษกกระทรวงยุคใหม่ : พลัง PR ขับเคลื่อนประเทศ!!
กำลังโหลดความคิดเห็น