ASTVผู้จัดการรายวัน-สวนดุสิตโพล เผยความเห็นประชาชน ร้อยละ 63.22 เห็นว่าการไต่สวนของศาล รธน.มีประโยชน์ได้รับรู้ข้อเท็จจริงของทั้งสองฝ่าย ไม่แน่ใจการแก้ไข รธน.มาตรา 291 ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 หรือไม่ เอือม “สภาพการเมืองไทย” มีแต่การทะเลาะ เกิดความแตกแยก มุ่งแต่การเอาชนะกัน เห็นแก่ประโยชน์ พวกพ้อง และมองการเมืองหลังจากการไต่สวนจบสิ้น ร้อยละ 59.49 เห็นว่ายังคงมีเรื่องผลประโยชน์และความขัดแย้งทางการเมืองอยู่
จากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนกรณีมีผู้ร้องว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่ให้มี ส.ส.ร.มาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าผิด มาตรา 68 ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองนั้น เป็นประเด็นสำคัญต่อการเมืองไทย และส่งผลต่อเสถียรภาพของการเมือง เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ติดตามข้อมูลข่าวสารการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สะท้อนความคิดเห็นของประชาชนทุก สาขาอาชีพในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,389 คน ( ผู้ที่ติดตามการไต่สวนของศาลรธน. จำนวน 1,176 คน ผู้ที่ไม่ได้ติดตาม จำนวน 213 คน ) ระหว่างวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2555 สรุปผล ดังนี้
1. การติดตามข่าวการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญของประชาชน
อันดับ 1 ติดตามอยู่บ้าง 34.99 %เพราะ อยากฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย จะได้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น, สื่อต่างๆ มีการนำเสนออย่างต่อเนื่อง, มีผลต่อสถานการณ์บ้านเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ค่อยได้ติดตาม28.29 %เพราะ ไม่สะดวก ต้องทำงาน, ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง, รอฟังคำตัดสินในวันที่ 13 ก.ค. ฯลฯ
อันดับ 3 ติดตามโดยตลอด 21.38 % เพราะอยากรู้ข้อเท็จจริง, รธน.เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศเกี่ยวข้องกับของคนไทยทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่นักการเมืองเท่านั้น ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่ได้ติดตามเลย 15.34 % เพราะเบื่อ ไม่ชอบ ไม่สนใจการเมือง มีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง หาเรื่องโจมตีกันไปมา ฯลฯ
ในกรณีผู้ที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 1,176 คน สวนดุสิตโพล ได้สอบถามความคิดเห็นตั้งแต่ข้อ 2-5 ปรากฏผล ดังนี้
2. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญได้รับประโยชน์จากการติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คือ
อันดับ 1 ได้รับรู้ข้อเท็จจริงและเห็นท่าทีของทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง/มีความเข้าใจเรื่องการแก้ไข รธน.มากขึ้น 63.22 %
อันดับ 2ได้รับรู้ขั้นตอนและกระบวนการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ 21.24 %
อันดับ 3 มีข้อมูลเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น /ผลกระทบหลังจากการพิจารณาเสร็จสิ้นลง 15.54 %
3. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 หรือไม่ อย่างไร ?
อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 45.93 % เพราะยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องนี้มากพอ ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการแก้ไข รธน., ต่างคนก็ต่างความคิดกันไป, รอฟังคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญดีกว่า ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เป็นการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 จำนวน 29.66 % เพราะเป็นเพียงการแก้ไขบางมาตราเท่านั้น ไม่มีเนื้อหาที่ระบุว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง, คิดว่าเป็นเรื่องที่ผู้ร้องตีตนไปก่อนไข้, เป็นการทำตามสัญญาที่รัฐบาลได้ให้ไว้กับประชาชน ฯลฯ
อันดับ 3 เป็นการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 จำนวน 24.41% เพราะเหตุผลประกอบในการแก้ไขรธน.ยังไม่มีน้ำหนักพอ เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์และช่วยเหลือพวกพ้องมากกว่า ฯลฯ
4. จากที่มีการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญคิดว่า “สภาพการเมืองไทย” ณ วันนี้ เป็นอย่างไร ?
อันดับ 1 ยังคงมีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยก มุ่งแต่การเอาชนะคะคานกัน/เห็นแก่ประโยชน์และพวกพ้อง 46.88 %
อันดับ 2 การพิจารณาคดีนี้ต้องอาศัยความยุติธรรม และความเด็ดขาด/ศาลรัฐธรรมนูญแต่ละท่านเป็นที่พึ่ง และเป็นความหวังของประชาชน 29.46 %
อันดับ 3 สภาพการเมืองที่ย่ำแย่มาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักการเมือง ใช้อำนาจในทางที่ผิด การคุกคามจากนักการเมือง 9.82 %
อันดับ 4 การเมือง ณ วันนี้มีความเกี่ยวข้องโยงใยแทบจะทุกเรื่อง พยายามที่จะเข้าไปแทรกแซงในทุกหน่วยงาน แม้กระทั่งกระบวนการยุติธรรมก็ไม่เว้น 8.04 %
อันดับ 5 การตัดสินครั้งนี้อาจส่งผลให้ประชาชนมีการชุมนุมหรือเกิดการเคลื่อนไหวทางการเมือง 5.80 %
5. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าทิศทางการเมืองไทยหลังจากการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญแล้วจะเป็นอย่างไร
อันดับ 1 เหมือนเดิม 59.49 % เพราะ ยังคงมีเรื่องผลประโยชน์และความขัดแย้งทางการเมืองอยู่, การเคลื่อนไหว ชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ยังมีให้เห็น ฯลฯ
อันดับ 2 แย่ลง 26.06 % เพราะถึงแม้การตัดสินจะสิ้นสุดลงเชื่อว่าเรื่องนี้ยังคงมีการถกเถียงกันไม่จบสิ้น, ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และยังเป็นปัญหาที่ค้างคาอยู่, เห็นได้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งมีความรุนแรงมากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 3 ดีขึ้น 14.45 % เพราะ ถึงแม้ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทุกคนต้องยอมรับและเคารพในการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ, ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเอง ต่อไปเพื่อเป็นการพิสูจน์ผลงานให้ประชาชนได้เห็น ฯลฯ.
จากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนกรณีมีผู้ร้องว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่ให้มี ส.ส.ร.มาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าผิด มาตรา 68 ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองนั้น เป็นประเด็นสำคัญต่อการเมืองไทย และส่งผลต่อเสถียรภาพของการเมือง เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ติดตามข้อมูลข่าวสารการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สะท้อนความคิดเห็นของประชาชนทุก สาขาอาชีพในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,389 คน ( ผู้ที่ติดตามการไต่สวนของศาลรธน. จำนวน 1,176 คน ผู้ที่ไม่ได้ติดตาม จำนวน 213 คน ) ระหว่างวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2555 สรุปผล ดังนี้
1. การติดตามข่าวการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญของประชาชน
อันดับ 1 ติดตามอยู่บ้าง 34.99 %เพราะ อยากฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย จะได้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น, สื่อต่างๆ มีการนำเสนออย่างต่อเนื่อง, มีผลต่อสถานการณ์บ้านเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ค่อยได้ติดตาม28.29 %เพราะ ไม่สะดวก ต้องทำงาน, ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง, รอฟังคำตัดสินในวันที่ 13 ก.ค. ฯลฯ
อันดับ 3 ติดตามโดยตลอด 21.38 % เพราะอยากรู้ข้อเท็จจริง, รธน.เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศเกี่ยวข้องกับของคนไทยทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่นักการเมืองเท่านั้น ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่ได้ติดตามเลย 15.34 % เพราะเบื่อ ไม่ชอบ ไม่สนใจการเมือง มีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง หาเรื่องโจมตีกันไปมา ฯลฯ
ในกรณีผู้ที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 1,176 คน สวนดุสิตโพล ได้สอบถามความคิดเห็นตั้งแต่ข้อ 2-5 ปรากฏผล ดังนี้
2. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญได้รับประโยชน์จากการติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คือ
อันดับ 1 ได้รับรู้ข้อเท็จจริงและเห็นท่าทีของทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง/มีความเข้าใจเรื่องการแก้ไข รธน.มากขึ้น 63.22 %
อันดับ 2ได้รับรู้ขั้นตอนและกระบวนการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ 21.24 %
อันดับ 3 มีข้อมูลเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น /ผลกระทบหลังจากการพิจารณาเสร็จสิ้นลง 15.54 %
3. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 หรือไม่ อย่างไร ?
อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 45.93 % เพราะยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องนี้มากพอ ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการแก้ไข รธน., ต่างคนก็ต่างความคิดกันไป, รอฟังคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญดีกว่า ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เป็นการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 จำนวน 29.66 % เพราะเป็นเพียงการแก้ไขบางมาตราเท่านั้น ไม่มีเนื้อหาที่ระบุว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง, คิดว่าเป็นเรื่องที่ผู้ร้องตีตนไปก่อนไข้, เป็นการทำตามสัญญาที่รัฐบาลได้ให้ไว้กับประชาชน ฯลฯ
อันดับ 3 เป็นการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 จำนวน 24.41% เพราะเหตุผลประกอบในการแก้ไขรธน.ยังไม่มีน้ำหนักพอ เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์และช่วยเหลือพวกพ้องมากกว่า ฯลฯ
4. จากที่มีการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญคิดว่า “สภาพการเมืองไทย” ณ วันนี้ เป็นอย่างไร ?
อันดับ 1 ยังคงมีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยก มุ่งแต่การเอาชนะคะคานกัน/เห็นแก่ประโยชน์และพวกพ้อง 46.88 %
อันดับ 2 การพิจารณาคดีนี้ต้องอาศัยความยุติธรรม และความเด็ดขาด/ศาลรัฐธรรมนูญแต่ละท่านเป็นที่พึ่ง และเป็นความหวังของประชาชน 29.46 %
อันดับ 3 สภาพการเมืองที่ย่ำแย่มาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักการเมือง ใช้อำนาจในทางที่ผิด การคุกคามจากนักการเมือง 9.82 %
อันดับ 4 การเมือง ณ วันนี้มีความเกี่ยวข้องโยงใยแทบจะทุกเรื่อง พยายามที่จะเข้าไปแทรกแซงในทุกหน่วยงาน แม้กระทั่งกระบวนการยุติธรรมก็ไม่เว้น 8.04 %
อันดับ 5 การตัดสินครั้งนี้อาจส่งผลให้ประชาชนมีการชุมนุมหรือเกิดการเคลื่อนไหวทางการเมือง 5.80 %
5. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าทิศทางการเมืองไทยหลังจากการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญแล้วจะเป็นอย่างไร
อันดับ 1 เหมือนเดิม 59.49 % เพราะ ยังคงมีเรื่องผลประโยชน์และความขัดแย้งทางการเมืองอยู่, การเคลื่อนไหว ชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ยังมีให้เห็น ฯลฯ
อันดับ 2 แย่ลง 26.06 % เพราะถึงแม้การตัดสินจะสิ้นสุดลงเชื่อว่าเรื่องนี้ยังคงมีการถกเถียงกันไม่จบสิ้น, ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และยังเป็นปัญหาที่ค้างคาอยู่, เห็นได้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งมีความรุนแรงมากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 3 ดีขึ้น 14.45 % เพราะ ถึงแม้ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทุกคนต้องยอมรับและเคารพในการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ, ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเอง ต่อไปเพื่อเป็นการพิสูจน์ผลงานให้ประชาชนได้เห็น ฯลฯ.