ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ที่เคยได้รับฉายา "นักร้อง นักตรวจสอบ" แต่ระยะหลังมานี้ หันไปฝักใฝ่เสื้อแดง รับใช้นักโทษหนีคดี จึงเลือกที่จะตรวจสอบเฉพาะฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล
อย่างเช่นตอนนี้ ก็ได้ยื่นเรื่องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีรับเงินบริจาค จากบริษัท อีสท์ วอเตอร์ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว
เรืองไกร ก็เลยเจอตรวจสอบเข้าบ้าง ปรากฏว่า หลังเป็นส.ว.สรรหา แค่ 3 ปี มีเงินงอกเพิ่มมา 34 ล้าน
โดยนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปร้องต่อป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบความผิดปกติในเรื่องนี้แล้ว ว่า นายเรืองไกร เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติหรือไม่
ทั้งนี้ก่อนรับตำแหน่ง ส.ว.สรรหา นายเรืองไกร ภรรยา และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินรวม 120 ล้านบาท 3 ปีผ่านไป ทรัพย์สินก็เพิ่มเป็น 154 ล้านบาท หรือเพิ่ม 34 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
โดยเฉพาะทรัพย์สินของบุตรที่ไม่บรรลุนิติภาวะ ที่เดิมมีแค่ แสนกว่าบาท แต่ตอนพ้นจากตำแหน่งกลับมีเงิน และเงินลงทุนในพันธบัตร ถึง 3 ล้านกว่า
ที่น่าสนใจคือ เมียของเรืองไกร ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีทรัพย์สินที่เป็นเงินสด เงินลงทุน และที่ดิน เพิ่มขึ้นถึง 58 ล้านบาท แถมยังปลูกบ้านหลังใหม่ ราคา 17 ล้านบาท
เจอไม้นี้เข้า เรืองไกร ถึงกับออกมาท้า "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เอารายละเอียดงบการเงินของพรรคในปี 2554 สมุดบัญชีของพรรค รวมถึงเอกสารข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องมากางดูกัน
ขณะเดียวกัน หากพรรคประชาธิปัตย์สงสัยเรื่องรวยผิดปกติ ก็พร้อมจะเอาข้อมูลการยื่นบัญชีทรัพย์สิน พร้อมเอกสารต่างๆ มากางให้ดูเหมือนกัน ดูว่าใครโปร่งใส ไม่โปร่งใส
ไม่รู้ว่า อภิสิทธิ์ จะรับคำท้าหรือไม่
แต่ไม่ว่าจะรับหรือไม่รับคำท้า เมื่อทั้งสองกรณีเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ อีกไม่นานก็รู้ ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบ หรือ เรืองไกร จะถูกเชือด