ศูนย์การค้าเร่งปรับโฉมใหม่ รับการเปิดเออีซีปี 2558 เดอะแพลทินั่ม อัด 100 ล้านบาทปรับใหญ่รอบ 6 ปี ด้านสยามเซ็นเตอร์ทุ่มใหญ่ 1,000 ล้านบาท รีโนเวตใหญ่รอบ 40 ปี แต่จัดเซลส์ใหญ่โกย 1,500 ล้านบาทก่อนปิดยาว 5 เดือน พร้อมเผยโฉมสิ้นปี ด้านอาร์เอสทีเอ เพิ่มศักยภาพดึงคนต่างชาติอยู่ราชประสงค์นานขึ้น
นายพงษ์ศักดิ์ นันตวรรณกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะแพลทินั่ม แฟชั่นมอล์ จำกัด ผู้บริหารโครงการศูนย์การค้าเดอะแพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงศูนย์ฯครั้งใหญ่หลังเปิดบริการมา 6 ปีแล้ว และเป็นการรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ เออีซี ในปี 2558 และล่าสุดทางศูนย์ฯได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ด้วยเพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพให้กับศูนย์ฯ
***แพลทินั่มปรับใหญ่รับเออีซี
เนื่องจากเมื่อเปิดเออีซีแล้ว ประเทศไทยจะเป็นเหมือนศูนย์กลางของเออีซี มีความได้เปรียบเรื่องความพร้อมต่างๆ ความเจริญเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เมื่อคนต่างประเทศจะมาท่องเที่ยวในกลุ่มเออีซี ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่เขาจะเลือกมาก่อน และจะเลือกมากรุงเทพ และเดสติเนชั่นหลักของกรุงเทพฯก็คือมาที่ย่านราชประสงค์ก่อน
โดยเตรียมที่จะปรับในช่วงปลายปีนี้ และใช้เวลาในการปรับปรุงนาน 2 ปี ซึ่งจะแล้วเสร็จใกล้เปิดเออีซีพอดี เราเป็นศูนย์ฯใหญ่ต้องใช้เวลาปรับนาน และไม่สามารถปิดบริการ ต้องทยอยปรับพร้อมเปิดใช้งานด้วย จะเป็นการปรับเฉพาะภายในเท่านั้น ภายนอกไม่ได้ปรับ แต่โซนร้านค้ายังเหมือนเดิม
ปัจจุบันลูกค้าที่เข้ามาท่องเที่ยวจับจ่ายภายในศูนย์เดอะแพลทินั่มเป็นคนไทยประมาณ 60% ต่างประเทศ 40% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาเซียนเช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย อินเดีย เป็นต้น โดยรวมแล้วมีปริมาณลูกค้าเข้าศูนย์เฉลี่ย 30,000-40,000 คนต่อวันธรรมดา และประมาณ 60,000 คนในวันหยุด
***อาร์เอสทีเอเร่งสร้างศักยภาพ
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการทั้งชอปปิ้ง พักอาศัย และใช้ไลฟ์สไตล์ในรูปแบบต่างๆภายในพื้นที่ย่านราชประสงค์เป็นจำนวนมาก โดยพบว่าปี 2553 เพิ่มขึ้น 27% หรือประมาณ 196,000 คนต่อวัน และเมื่อปี 2554 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 260,000 คนหรือประมาณ 33% และคาดว่าภายในปี 2556 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอีก 35%หรือมีประมาณ 350,000 คนต่อวัน
ล่าสุดทางสมาคมฯเตรียมแผนพัฒนาศักยภาพ ของย่านนี้ให้ก้าวหน้าอีก โดยลงทุนด้านอินฟราสตรัคเจอร์ด้วยงบ 70 ล้านบาท ขยายทางเดินบนสกายวอล์กตั้งแต่หน้าศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ถึงทางเชื่อมเข้าศูนย์การค้าเกษร คาดว่าเสร็จตุลาคมนี้
พร้อมวางแผนเชื่อมทางเดินสกายวอล์กไปถึงศูนย์การค้าเดอะแพลทินั่มประตูน้ำด้วย รวมระยะทาง 500 เมตร ซึ่งการที่มีเดอะแพลทินั่มมาเป็นสมาชิก จะทำให้ ย่านนี้มีสถานที่ชอปปิ้รองรับได้หลากหลายตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่าง แตกต่างจากประเทศอื่นที่ไม่มีศูนย์ทุกระดับรวมกันในย่านเดียวกัน
“นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวย่านราชประสงค์ส่วนใหญ่เป็นพวกเช่น อินเดีย อาหรับ จีน และเป็นตลาดที่น่าสนใจด้วย แต่โจทย์ใหญ่คือทำยังไงให้นักท่องเที่ยวนี้อยู่ในกรุงเทพฯนาน 3-4 วัน จากเดิมอยู่แค่ -2 วันเท่านั้นเอง เพื่อที่จะไปจังหวัดอื่นต่อ”
***สยามเซ็นเตอร์ปิดยาวทุ่มพันล.ปรับใหญ่
นางศิริเพ็ญ อินทุภูติ ผู้บริหารด้านโฆษณาและประชาสัมพัธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมปิดบริการศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่ในรอบ 40 ปีที่เปิดบริการมา ด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท และที่สำคัญเพื่อรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 ด้วย
ทั้งนี้จะเริ่มปิดบริการตั้งแต่วันที่16ก.ค.-พ.ย.และจะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งต้นเดือนธ.ค.ปีนี้ รวมเวลาประมาณ 5 เดือน ภายใต้แนวคิด“สยามเซ็นเตอร์ เดอะ เลเจนด์ รีบอนด์”หรือตำนานแห่งสยามสแควร์ที่จะกลับมาใหม่ ขณะที่ร้านค้าต่างๆในศูนย์ฯที่มีกว่า270ร้านค้าในปัจจุบันก็จะปิดให้บริการชั่วคราวตามระยะเวลาปิดปรับศูนย์ฯด้วย และเมื่อปรับปรุงเสร็จจะมีร้านค้าใหม่ที่ไม่เคยเปิดที่ใดมาก่อนมาเปิดที่นี่ด้วย
ในปัจจุบัน ลูกค้าที่เข้ามายังศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ50%ลูกค้าคนไทย50%จากเดิมเป็นคนไทย 60%และเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40%โดยเฉพาะประเทศ จีน,มาเลเซีย,อินเดีย,ญี่ปุ่น ฮ่องกง ส่วนนอกเอเซียอันดับ1เป็นออสเตรเลีย,อังกฤษและสหรัฐอเมริกา
”สิ่งหนึ่งที่พบก็คือ ตอนนี้คนไทยหันมาชอปปิ้งในไทยมากขึ้น เพราะการปรับปรุงศูนย์การค้าและการจัดกิจกรรมลดราคาต่างๆของศูนย์การค้า ต่างจากเดิมที่ต้องบินไปชอปปิ้งที่สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นตน ในช่วงกลางปี โดยช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. เปรียบเทียบระหว่างปี53กับปี54มีสถิติเพิ่มขึ้น20%”
ล่าสุดบริษัทฯเตรียมงบประมาณ40ล้านบาท จัดแคมเปญ‘สยาม เซ็นเตอร์ ดิ เอนด์เลส เลเจนด์’ระหว่างเดือนมิ.ย.-พ.ย.นี้ เริ่มด้วยงาน ‘เซล มหัศจรรย์แห่งสยาม’วันที่28มิ.ย.-15ก.ค. มีร้านค้าในศูนย์ฯเข้าร่วมกิจกรรมกว่า90%ลดสูงสุด30%
นอกจากนี้ยังจัดพื้นที่พิเศษสำหรับสินค้าคอลเลคชันฮอตที่นำมาราคาสูงสุด90%โดยแบ่งงบ20ล้านบาทจัด ป็อปอัพ ช้อป ชั่วคราวสำหรับร้านค้าต่างๆของศูนย์ฯในพื้นที่สยามดิสคัฟเวอรี่ พลาซ่า,แกรนด์ ฮอลล์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ สยามพารากอน ในช่วง5เดือน คาดจากแคมเปญดังกล่าวจะมียอดขายประมาณ1,500ล้านบาท
นายพงษ์ศักดิ์ นันตวรรณกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะแพลทินั่ม แฟชั่นมอล์ จำกัด ผู้บริหารโครงการศูนย์การค้าเดอะแพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงศูนย์ฯครั้งใหญ่หลังเปิดบริการมา 6 ปีแล้ว และเป็นการรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ เออีซี ในปี 2558 และล่าสุดทางศูนย์ฯได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ด้วยเพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพให้กับศูนย์ฯ
***แพลทินั่มปรับใหญ่รับเออีซี
เนื่องจากเมื่อเปิดเออีซีแล้ว ประเทศไทยจะเป็นเหมือนศูนย์กลางของเออีซี มีความได้เปรียบเรื่องความพร้อมต่างๆ ความเจริญเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เมื่อคนต่างประเทศจะมาท่องเที่ยวในกลุ่มเออีซี ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่เขาจะเลือกมาก่อน และจะเลือกมากรุงเทพ และเดสติเนชั่นหลักของกรุงเทพฯก็คือมาที่ย่านราชประสงค์ก่อน
โดยเตรียมที่จะปรับในช่วงปลายปีนี้ และใช้เวลาในการปรับปรุงนาน 2 ปี ซึ่งจะแล้วเสร็จใกล้เปิดเออีซีพอดี เราเป็นศูนย์ฯใหญ่ต้องใช้เวลาปรับนาน และไม่สามารถปิดบริการ ต้องทยอยปรับพร้อมเปิดใช้งานด้วย จะเป็นการปรับเฉพาะภายในเท่านั้น ภายนอกไม่ได้ปรับ แต่โซนร้านค้ายังเหมือนเดิม
ปัจจุบันลูกค้าที่เข้ามาท่องเที่ยวจับจ่ายภายในศูนย์เดอะแพลทินั่มเป็นคนไทยประมาณ 60% ต่างประเทศ 40% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาเซียนเช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย อินเดีย เป็นต้น โดยรวมแล้วมีปริมาณลูกค้าเข้าศูนย์เฉลี่ย 30,000-40,000 คนต่อวันธรรมดา และประมาณ 60,000 คนในวันหยุด
***อาร์เอสทีเอเร่งสร้างศักยภาพ
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการทั้งชอปปิ้ง พักอาศัย และใช้ไลฟ์สไตล์ในรูปแบบต่างๆภายในพื้นที่ย่านราชประสงค์เป็นจำนวนมาก โดยพบว่าปี 2553 เพิ่มขึ้น 27% หรือประมาณ 196,000 คนต่อวัน และเมื่อปี 2554 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 260,000 คนหรือประมาณ 33% และคาดว่าภายในปี 2556 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอีก 35%หรือมีประมาณ 350,000 คนต่อวัน
ล่าสุดทางสมาคมฯเตรียมแผนพัฒนาศักยภาพ ของย่านนี้ให้ก้าวหน้าอีก โดยลงทุนด้านอินฟราสตรัคเจอร์ด้วยงบ 70 ล้านบาท ขยายทางเดินบนสกายวอล์กตั้งแต่หน้าศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า ถึงทางเชื่อมเข้าศูนย์การค้าเกษร คาดว่าเสร็จตุลาคมนี้
พร้อมวางแผนเชื่อมทางเดินสกายวอล์กไปถึงศูนย์การค้าเดอะแพลทินั่มประตูน้ำด้วย รวมระยะทาง 500 เมตร ซึ่งการที่มีเดอะแพลทินั่มมาเป็นสมาชิก จะทำให้ ย่านนี้มีสถานที่ชอปปิ้รองรับได้หลากหลายตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่าง แตกต่างจากประเทศอื่นที่ไม่มีศูนย์ทุกระดับรวมกันในย่านเดียวกัน
“นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวย่านราชประสงค์ส่วนใหญ่เป็นพวกเช่น อินเดีย อาหรับ จีน และเป็นตลาดที่น่าสนใจด้วย แต่โจทย์ใหญ่คือทำยังไงให้นักท่องเที่ยวนี้อยู่ในกรุงเทพฯนาน 3-4 วัน จากเดิมอยู่แค่ -2 วันเท่านั้นเอง เพื่อที่จะไปจังหวัดอื่นต่อ”
***สยามเซ็นเตอร์ปิดยาวทุ่มพันล.ปรับใหญ่
นางศิริเพ็ญ อินทุภูติ ผู้บริหารด้านโฆษณาและประชาสัมพัธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมปิดบริการศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่ในรอบ 40 ปีที่เปิดบริการมา ด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท และที่สำคัญเพื่อรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 ด้วย
ทั้งนี้จะเริ่มปิดบริการตั้งแต่วันที่16ก.ค.-พ.ย.และจะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งต้นเดือนธ.ค.ปีนี้ รวมเวลาประมาณ 5 เดือน ภายใต้แนวคิด“สยามเซ็นเตอร์ เดอะ เลเจนด์ รีบอนด์”หรือตำนานแห่งสยามสแควร์ที่จะกลับมาใหม่ ขณะที่ร้านค้าต่างๆในศูนย์ฯที่มีกว่า270ร้านค้าในปัจจุบันก็จะปิดให้บริการชั่วคราวตามระยะเวลาปิดปรับศูนย์ฯด้วย และเมื่อปรับปรุงเสร็จจะมีร้านค้าใหม่ที่ไม่เคยเปิดที่ใดมาก่อนมาเปิดที่นี่ด้วย
ในปัจจุบัน ลูกค้าที่เข้ามายังศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ50%ลูกค้าคนไทย50%จากเดิมเป็นคนไทย 60%และเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40%โดยเฉพาะประเทศ จีน,มาเลเซีย,อินเดีย,ญี่ปุ่น ฮ่องกง ส่วนนอกเอเซียอันดับ1เป็นออสเตรเลีย,อังกฤษและสหรัฐอเมริกา
”สิ่งหนึ่งที่พบก็คือ ตอนนี้คนไทยหันมาชอปปิ้งในไทยมากขึ้น เพราะการปรับปรุงศูนย์การค้าและการจัดกิจกรรมลดราคาต่างๆของศูนย์การค้า ต่างจากเดิมที่ต้องบินไปชอปปิ้งที่สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นตน ในช่วงกลางปี โดยช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. เปรียบเทียบระหว่างปี53กับปี54มีสถิติเพิ่มขึ้น20%”
ล่าสุดบริษัทฯเตรียมงบประมาณ40ล้านบาท จัดแคมเปญ‘สยาม เซ็นเตอร์ ดิ เอนด์เลส เลเจนด์’ระหว่างเดือนมิ.ย.-พ.ย.นี้ เริ่มด้วยงาน ‘เซล มหัศจรรย์แห่งสยาม’วันที่28มิ.ย.-15ก.ค. มีร้านค้าในศูนย์ฯเข้าร่วมกิจกรรมกว่า90%ลดสูงสุด30%
นอกจากนี้ยังจัดพื้นที่พิเศษสำหรับสินค้าคอลเลคชันฮอตที่นำมาราคาสูงสุด90%โดยแบ่งงบ20ล้านบาทจัด ป็อปอัพ ช้อป ชั่วคราวสำหรับร้านค้าต่างๆของศูนย์ฯในพื้นที่สยามดิสคัฟเวอรี่ พลาซ่า,แกรนด์ ฮอลล์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ สยามพารากอน ในช่วง5เดือน คาดจากแคมเปญดังกล่าวจะมียอดขายประมาณ1,500ล้านบาท