xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

'เก่ง การุณ' สิ้นลาย โดนใบแดง ปิดตำนาน...นักเลงดอนเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เก่ง-การุณ โหสกุลกับตู่-จตุพร พรหมพันธุ์ที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งลงสมัครเลือกตั้งครั้งใหม่
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- ดูจะสิ้นฤทธิ์ซีดไปทีเดียวสำหรับ 'นักเลงดอนเมือง' อย่าง 'เก่ง-การุณ โหสกุล' หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเสียงข้างมากให้ใบแดง สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ โหสกุล ส.ส.เขต 12 กทม. พรรคเพื่อไทย ไปเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากกรณีนายการุณปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จต่อนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นคู่แข่งที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีกันหลายต่อหลายครั้ง พร้อมทั้งสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ และเรียกค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่จากนายการุณด้วย

กกต.ระบุชัดเจนว่า มูลเหตุที่ทำให้นักเลงดอนเมืองผู้นี้ถูกชักใบแดงเข้าใส่ก็คือ การปราศรัย 2 ครั้งด้วยกันคือ การปราศรัยเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2554 ที่ตลาดนัดบุญอนันต์ และครั้งที่ 2 วันที่ 12 มิถุนายน 2554 ที่ตลาดนัดโกสุมรวมใจ

แน่นอน คนอย่างนายการุณย่อมไม่ยี่หระต่อได้รับใบแดงที่เกิดขึ้นเท่าใดนัก

“ไม่มีอะไร สบายๆ เคยเจอหนักกว่านี้มาแล้ว ยังยิ้มได้ เพียงแต่มีความรู้สึกสะกิดใจนิดหน่อย แต่ความแข็งแกร่งในจิตใจทำให้มองเรื่องนี้แบบสบายๆ สบายบรื๋อ”

ทั้งนี้ หากย้อนไปดูพฤติกรรมของนายการุณในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งก็ต้องบอกว่าสุดบรรยายและไม่ใช่แค่การปราศรัยให้ร้ายนายแทนคุณเท่านั้น แต่ใช้สารพัดวิชามารในการจัดการกับคู่แข่ง ตั้งแต่ทำลายป้ายหาเสียง ข่มขู่คุกคามทั้งหัวคะแนนและตัวนายแทนคุณ ถึงขั้นขับรถยนต์ตามไล่ และด่าด้วยคำหยาบคายเพื่อให้เกิดความหวาดกลัว และไม่กล้าลงพื้นที่หาเสียง จนนายแทนคุณต้องเข้าแจ้งความต่อ สน.ดอนเมือง และขอกำลังตำรวจมาช่วยคุ้มครองทีมหาเสียง และไม่ใช่แต่ผู้สมัครเท่านั้นที่โดนข่มขู่ แม้แต่นักธุรกิจในพื้นที่ก็โดนเช่นกัน

ดังนั้นแม้ว่านายการุณจะชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554 แต่ก็ยังเป็นที่กังขาเรื่องความโปร่งใส

นอกจากนั้นหลังการเลือกตั้งยังเกิดกรณียิงหัวคะแนนของนายแทนคุณ คือ 'นายชุติเดช สุวรรณเกิด' อย่างอุกอาจที่บริเวณหลังตลาดนัดโกสุมรวมใจ ย่านดอนเมือง ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับมาจอดที่ผู้ตายยืนอยู่ แล้วใช้อาวุธปืนลงมากระหน่ำยิง จนผู้ตายล้มลง ก่อนขับรถหลบหนีไป โดยกระสุนเข้าที่ใบหน้าโหนกแก้มซ้ายทะลุด้านหลัง และที่หน้าอก 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

แน่นอนว่าสปอร์ตไลท์ฉายไปที่นายการุณทันทีเนื่องจากนายชุติเดชนั้นเคยเป็นลูกน้องเก่าของนายการุณ ก่อนที่จะแยกตัวมาช่วยงานนายแทนคุณ ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ คู่ปรับซึ่งลงสมัครในเขตดอนเมืองเช่นกัน แน่นอน นายการุณปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างไม่ยี่หระ และจนกระทั่งถึงบัดนี้ คดีความก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด

ยิ่งเมื่อย้อนไปดูช่วงชีวิตที่ผ่านมาของนายการุณก็จะพบแต่วีรกรรมเหนือมนุษย์ของเขาชนิดที่เรียกว่าเล่ากันสามวันสามคืนก็ไม่หมด ไม่ว่าจะเป็นร่วมกับบริษัทหนีภาษีในสมัยเป็นพนักงานชิปปิ้งของบริษัท เอฟไพร ออริทิเฟรทา จำกัด กระทั่งถูกจับกุมดำเนินคดี และศาลพิพากษาเรียกค่าปรับกว่า 30 ล้านบาท ต่อมานายการุณยื่นอุทธรณ์แต่กลับไม่ยอมมาฟังคำพิพากษา จึงถูกศาลออกหมายจับ เดือดร้อนญาติต้องมาประกันตัวออกไป

เมื่อเข้ามาเป็นนักการเมืองก็ก่อคดีปลอมวุฒิการศึกษา ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้งของนายการุณ เมื่อปี 2548 เนื่องจากพบว่าเขายื่นวุฒิการศึกษาอันเป็นเท็จ หลังจากถูกมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเพิกถอนวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี เพราะตรวจพบว่าวุฒิการศึกษาระดับ ปวส.ที่นายการุณยื่นต่อมหาวิทยาลัยนั้นเป็นเท็จ แต่หลังจากนั้นนายการุณก็เข้ามาเป็น ส.ส.จนได้ เนื่องจากการเลือกตั้งในปี 2550 ไม่กำหนดระดับการศึกษาขั้นต่ำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้การุณยังคงมีคุณสมบัติเป็น ส.ส.

ที่สำคัญคือ มีประจักษ์พยานหลายต่อหลายครั้งยืนยันว่า นายการุณเป็นคนชอบใช้กำลัง ชอบกร่างและวางอำนาจไปทั่วจนเป็นที่โจษจันของคนดอนเมือง ชอบมีเรื่องไม่เว้นแม้แต่เด็ก สตรี หรือคนชรา แม่แต่อดีตภรรยาของการุณก็เคยถูกจิกผมและตบหน้าอย่างอุกอาจกลางสถานที่สาธารณะ เรียกว่าซ้อมเสียสะบักสะบอมจนเป็นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลมาแล้ว

นอกจากนี้ นายการุณมีคดีความเรื่องการยกพวกไปรุมทำร้ายร่างกายและใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้อื่นหลายครั้ง หลายหน แม้กระทั่งภายในพื้นที่หน่วยเลือกตั้งก็ไม่เว้น นอกจากนั้นเขายังเคยทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจในขณะปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายการุณ 4 ข้อหา คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เสียทรัพย์ และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

เมื่อข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรความกร่างก็มิได้เจือจางลง เริ่มจากเหตุการณ์กระโดดถีบ 'นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์' ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ เม.ย..2551 ซึ่งกรณีนี้กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ และเป็นคดีความ สุดท้ายศาลจังหวัดดุสิตพิพากษาการุณให้จำคุก 1 ปี และปรับ 1,000 บาท ฐานทำร้ายร่างกาย และปรับ 10,000 บาท ฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี จากนั้นวันที่ 19 ต.ค. 2554 ก็มีเรื่องกับ นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล โดยถูกนางสาวมัลลิกาถีบหลังจากนายการุณตะโกนด่าขณะที่นางสาวมัลลิกาลงพื้
นที่ให้กำลังใจชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย

ในขณะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนจากวิกฤติอุทกภัยครั้งใหญ่นายการุณก็หาได้ใส่ใจที่จะช่วยเหลือ แต่ยังคงเดินสายโชว์ความกร่างในทุกที่ทุกสถานการณ์ โดยกลางดึกวันที่ 20 ต.ค.2554 นายการุณได้ยกพวกไปพังคันกั้นน้ำของชาวบ้านบริเวณคลองประปาปากเกร็ด โดยได้ใช้รถแบ็กโฮเข้ารื้อทำลายแนวคันดินที่สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมคลองประปาในฝั่ง อำเภอปากเกร็ด จนได้รับความเสียหายเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ (19 ตุลาคม 54) ได้มีการเจรจากันระหว่างการุณ ตัวแทนฝั่งเขตดอนเมือง กับ มนตรี ตั้งเจริญถาวร ส.ส.จังหวัดนนทบุรี พรรคเพื่อไทย ตัวแทนฝั่งอำเภอปากเกร็ด และได้ข้อสรุปว่าจะยินยอมให้ทางเทศบาลนครปากเกร็ดสร้างแนวคันดินกันน้ำได้ต่อไป ซึ่งความกร่างดังกล่าว นั้นทำให้แม้แต่ นายวิสิทธิ์ พวงเพชร นายอำเภอปากเกร็ด ก็ยังอดรนทนไม่ได้ ต้องออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ

แม้แต่ชาวบ้านในเขตดอนเมืองซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของตัวเองนายการุณก็ไม่ละเว้นโดยในคืน 10 พ.ย.2554 นายการุณขับเจ็ตสกีด้วยความคึกคะนอง เมื่อสวนกับเรือของชาวบ้านจึงเป็นเหตุให้เรือของชาวบ้านล่ม เมื่อนายการุณขับเจ็ตสกีวนกลับมาจึงเกิดมีปากเสียงและชกต่อยกับชาวบ้าน ทำให้นายการุณได้รับบาดเจ็บที่ปากต้องเย็บ 5 เข็ม ซึ่งนอกจากนายการุณได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีแล้ว ยังมีข่าวเมาท์กันให้แซ่ดว่าเขาได้ส่งคนไปรุมซ้อมคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่เจ้าตัวไม่กล้าแจ้งความเพราะเกรงว่าครอบครัวจะได้รับอันตราย

สำหรับประชาชนทั่วไปคงแปลกใจว่าเหตุใดคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้แทนราษฎรซึ่งอาสาเข้าไปทำหน้าที่ในสภาจึงมีพฤติกรรมถ่อยเถื่อนไม่ต่างจาก 'นักเลงข้างถนน' แต่สำหรับ 'พรรคเพื่อไทย' แล้ว นี่แหล่ะคือคุณสมบัติที่ถือเป็นมาตรฐานของทางพรรค เพราะไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้เห็น ส.ส.ที่เผาบ้านเผาเมืองได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล !!

ส่วนศึกชิงชัยครั้งใหม่ที่เขต 12 ดอนเมืองนั้น เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์จะส่ง “นายแทนคุณ จิตต์อิสระ” ลงชิงชัยอีกครั้ง ซึ่งในเที่ยวนี้สถานการณ์อาจจะพลิกผันก็เป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังน้ำท่วมที่นายแทนคุณโกยคะแนนได้ค่อนข้างเป็นกอบเป็นกำ ขณะที่ในฟากพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจน มีแต่นายการุณเท่านั้นที่ออกมาประกาศว่า จะส่ง “พี่สาว” หรือไม่ก็ “ภรรยา” ที่เป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.)ลงชิงชัย รวมกระทั่งถึง นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ออกมาโยนหินถามทางด้วยการเสนอนายจตุพร พรหมพันธุ์ ในรับสมัครเลือกตั้งแทน

ทั้งนี้ ถ้ามติพรรคเพื่อไทยส่งนายจตุพรลงเลือกตั้งระบบเขตจริง รับประกันได้ว่า ศึกครั้งนี้เร้าใจยิ่งหนัก เพราะจะเป็นการวัดบารมีว่า แกนนำคนเสื้อแดงอย่างนายจตุพรจะมีน้ำยา เพียงพอที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่หรือไม่

แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ นายจตุพรกล้าพอที่จะเอาศักดิ์ศรีแกนนำคนเสื้อแดงไปสุ่มเยงหรือไม่

และที่เหนือไปมากกว่านั้นก็คือ นายการุณกล้าพอหรือใจกว้างพอที่จะให้นายจตุพรเข้ามายึดพื้นที่ที่ตัวเองทุ่มเททรัพยากรเพื่อให้ได้มาซึ่งการเป็น ส.ส.หรือไม่ เพราะถ้าสมมติว่า นายจตุพรเกิดได้รับการเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ แล้วในครั้งต่อไปนายการุณจะมีที่ทางในการเป็นนักการเมืองในรูปแบบไหน
กำลังโหลดความคิดเห็น