00 แรงระเบิดเรื่องปรองดองกับ “ฆาตกร” ในสายตาของคนเสื้อแดงมันส่งผลไปไกลจริงๆ อย่างน้อยก็ทำให้เครือข่ายทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่หัวยันหางนั่งไม่ติด ต้องดันหลังออกมาปฏิเสธกันพัลวัน ซึ่งมันก็แหงอยู่แล้วว่าต้องออกรูปนี้ ใครจะบ้ายอมรับว่าจริงล่ะ พูดแบบนั้นมันก็ฉิบหายละพี่น้อง แต่เอาเป็นว่านาทีนี้ต้อง “ฟังหูไว้หู” ต้องค่อยๆ ปะติดปะต่อ รวบรวมข้อมูลและความเคลื่อนไหวของแต่ละคน ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน บางครั้งมันก็เห็นคำตอบได้ไม่ยาก
00 อย่างไรก็ดี ขอบอกว่างานนี้ “มันส์จริงๆ” และถือว่าเป็นมวยถูกคู่ ระหว่าง “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่นำหน้าปชป. ออกมาแลกหมัดกับพวกทักษิณ และบทบาทของสุเทพ ที่เห็นนี่แหละ น่าจะเป็น “ตัวตน” ที่เคยปิดบังมานานหลายปีตั้งแต่ยุคที่ซดกับพวก “กลุ่ม 16” ที่ยุคนั้นมี เนวิน ชิดชอบ ร่วมเป็นหัวเรือใหญ่ ที่ผ่านมาตอนเป็นรัฐบาลเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ พูดจีบปากจีบคอ ประสานสิบทิศ “คิดสวมตอ” ผลงานโจร แล้วเป็นไง มันก็พังในที่สุด มาคราวนี้ถ้าให้จับทางก็ต้องบอกว่าปชป. ปรับกระบวนทัพสู้ใหม่ แบบ “เกลือจิ้มเกลือ” ไม่ยอมถอยให้กับ ทักษิณ อีกแล้ว ประกอบกับได้เห็นโอกาส เห็นช่องโหว่ของฝ่ายตรงข้าม ที่ส่งน้องสาวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ “อ่อนหัด” เข็นอย่างไรก็ไม่ขึ้น ไม่มีทางสานต่องานยุทธศาสตร์ได้เลย ซึ่งแม้วก็รู้ดี ถึงได้เร่งวันเร่งคืนให้ออกกฎหมายล้างผิด เพื่อกลับมามีอำนาจด้วยตัวเองให้เร็วที่สุด
00 สังเกตได้ชัดเจนว่า แรงระเบิดจาก เทพเทือก มันรุนแรงแค่ไหน ก็ลองพิจารณาจากอาการนั่งไม่ติด ต้องสั่งเรียงหน้าออกมาตอบโต้จากฝั่งเพื่อไทย ตั้งแต่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เว้นแม้แต่ ลูกโอ๊ค พานทองแท้ ที่แม้ว่าระยะหลังจะดู “ฉลาดผิดปกติ” เฟซบุ๊กรายวัน โต้ปชป.ได้แสบๆ แบบไม่ใช่ตัวตนแท้จริงก็ตาม แต่ความหมายก็คือ การปฏิเสธคอเป็นเอ็น ไม่มีการสารภาพเด็ดขาด
00 แต่ที่น่าจับตาอีกรายก็คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ออกมาใน “มุมถนัด” แฉ “เมียนอกสมรส” ของนักการเมืองใหญ่ของฝ่ายค้านคนหนึ่ง มีเงินงอกเพิ่มขึ้นมาในบัญชีผิดปกติ แค่ 8-9 เดือนกว่า 520 ล้านบาท แม้ไม่เอ่ยชื่อก็พอมองออกไม่ยากว่าต้องการถล่มใคร เป้าหมายถ้ามองแบบคนรู้ทัน ก็หวังให้เบี่ยงเบนทางข่าวให้ย้อนกลับไปทางฝ่ายตรงข้าม แต่ดูแล้วนาทีนี้ ยังไม่ได้ผล ขณะเดียวกันระวังไว้หน่อยก็ดี เพราะแฉคนอื่นเพลินๆ แต่เมื่อสำรวจทรัพย์สินตัวเองปรากฏว่าก็ใช่ย่อย รวมกันกับเมียรวยอู้ฟู่ เงินงอกขึ้นมาอีก 68 ล้านบาท ธรรมดาเสียที่ไหนล่ะ
00 ประเด็นให้สหรัฐอเมริกาใช้สนามบินอู่ตะเภา อ้างว่าให้ “นาซา” เข้ามาสำรวจดินฟ้าอากาศ เรื่องแจ้งเตือนภัย แค่เริ่มก็มีเสียงต้านมากขึ้นทุกวัน ทำให้รัฐบาลต้องถอยออกไปชั่วคราว เหมือนกับตัดไฟตั้งแต่กลางคัน ก่อนจะลุกลาม เพราะทั้งฝ่ายค้านและภาคประชาชน ต่างเริ่มสวดกันดังขึ้น เพราะไหนจะโยงไปถึงผลประโยชน์กับ “หน้าเหลี่ยม” ที่สำคัญมันได้ไม่คุ้มเสีย ชักศึกเข้าบ้าน เกิดความระแวงกลายเป็นเพิ่มศัตรูกับเพื่อนบ้าน และจีน โดยไม่จำเป็น เพราะถ้าถามว่ามันมีแค่เรื่องตรวจสอบสภาพอากาศอย่างเดียวเท่านั้นหรือ ไม่มีสอดไส้ สอดแนมเรื่องอื่นหรือ อ้อ อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ต้องชักมือออกไปเสียก่อนก็เพราะมีเสียงชี้ว่า ต้องนำเข้ารัฐสภา เพราะเข้าข่ายตาม ม.190 และพอดีว่า สภาปิดสมัยประชุมไปเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ถ้าจะเอาจริงก็ต้องเปิดวิสามัญกันใหม่ แต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็อาจเป็นแรงกระเพื่อม มีแถมเรื่องยุโหวต รธน.-พ.ร.บ.ล้างผิด ก็จะทำให้ “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ต้องเสี่ยงคุกเข้ามาอีก เอาอย่างนี้ดีกว่าซื้อเวลาไปก่อนดีกว่า
00 ชักเข้าเค้าขึ้นมาทุกที ล่าสุดผู้บัญชาการทหารของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน มีกำหนดเข้าพบ ผบ.ทบ. ในวันที่ 22 มิ.ย. ซึ่งบังเอิญว่า มีเรื่องมะกันใช้สนามบินอู่ตะเภาอยู่พอดี ในทางยุทธศาสตร์ ไม่ว่ามองในมุมไหนก็ต้องกระทบจีนวันยังค่ำ และเชื่อว่าไม่มีทางยอมง่าย ๆ แม้ว่าจะมีการปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้อง แต่รับรองว่าในทางลึกมันก็ต้องมีการสอบถามท่าทีกันบ้าง อะไรมันจะบังเอิญกันขนาดนี้ !!
00 อย่างไรก็ดี ขอบอกว่างานนี้ “มันส์จริงๆ” และถือว่าเป็นมวยถูกคู่ ระหว่าง “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่นำหน้าปชป. ออกมาแลกหมัดกับพวกทักษิณ และบทบาทของสุเทพ ที่เห็นนี่แหละ น่าจะเป็น “ตัวตน” ที่เคยปิดบังมานานหลายปีตั้งแต่ยุคที่ซดกับพวก “กลุ่ม 16” ที่ยุคนั้นมี เนวิน ชิดชอบ ร่วมเป็นหัวเรือใหญ่ ที่ผ่านมาตอนเป็นรัฐบาลเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ พูดจีบปากจีบคอ ประสานสิบทิศ “คิดสวมตอ” ผลงานโจร แล้วเป็นไง มันก็พังในที่สุด มาคราวนี้ถ้าให้จับทางก็ต้องบอกว่าปชป. ปรับกระบวนทัพสู้ใหม่ แบบ “เกลือจิ้มเกลือ” ไม่ยอมถอยให้กับ ทักษิณ อีกแล้ว ประกอบกับได้เห็นโอกาส เห็นช่องโหว่ของฝ่ายตรงข้าม ที่ส่งน้องสาวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ “อ่อนหัด” เข็นอย่างไรก็ไม่ขึ้น ไม่มีทางสานต่องานยุทธศาสตร์ได้เลย ซึ่งแม้วก็รู้ดี ถึงได้เร่งวันเร่งคืนให้ออกกฎหมายล้างผิด เพื่อกลับมามีอำนาจด้วยตัวเองให้เร็วที่สุด
00 สังเกตได้ชัดเจนว่า แรงระเบิดจาก เทพเทือก มันรุนแรงแค่ไหน ก็ลองพิจารณาจากอาการนั่งไม่ติด ต้องสั่งเรียงหน้าออกมาตอบโต้จากฝั่งเพื่อไทย ตั้งแต่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เว้นแม้แต่ ลูกโอ๊ค พานทองแท้ ที่แม้ว่าระยะหลังจะดู “ฉลาดผิดปกติ” เฟซบุ๊กรายวัน โต้ปชป.ได้แสบๆ แบบไม่ใช่ตัวตนแท้จริงก็ตาม แต่ความหมายก็คือ การปฏิเสธคอเป็นเอ็น ไม่มีการสารภาพเด็ดขาด
00 แต่ที่น่าจับตาอีกรายก็คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ออกมาใน “มุมถนัด” แฉ “เมียนอกสมรส” ของนักการเมืองใหญ่ของฝ่ายค้านคนหนึ่ง มีเงินงอกเพิ่มขึ้นมาในบัญชีผิดปกติ แค่ 8-9 เดือนกว่า 520 ล้านบาท แม้ไม่เอ่ยชื่อก็พอมองออกไม่ยากว่าต้องการถล่มใคร เป้าหมายถ้ามองแบบคนรู้ทัน ก็หวังให้เบี่ยงเบนทางข่าวให้ย้อนกลับไปทางฝ่ายตรงข้าม แต่ดูแล้วนาทีนี้ ยังไม่ได้ผล ขณะเดียวกันระวังไว้หน่อยก็ดี เพราะแฉคนอื่นเพลินๆ แต่เมื่อสำรวจทรัพย์สินตัวเองปรากฏว่าก็ใช่ย่อย รวมกันกับเมียรวยอู้ฟู่ เงินงอกขึ้นมาอีก 68 ล้านบาท ธรรมดาเสียที่ไหนล่ะ
00 ประเด็นให้สหรัฐอเมริกาใช้สนามบินอู่ตะเภา อ้างว่าให้ “นาซา” เข้ามาสำรวจดินฟ้าอากาศ เรื่องแจ้งเตือนภัย แค่เริ่มก็มีเสียงต้านมากขึ้นทุกวัน ทำให้รัฐบาลต้องถอยออกไปชั่วคราว เหมือนกับตัดไฟตั้งแต่กลางคัน ก่อนจะลุกลาม เพราะทั้งฝ่ายค้านและภาคประชาชน ต่างเริ่มสวดกันดังขึ้น เพราะไหนจะโยงไปถึงผลประโยชน์กับ “หน้าเหลี่ยม” ที่สำคัญมันได้ไม่คุ้มเสีย ชักศึกเข้าบ้าน เกิดความระแวงกลายเป็นเพิ่มศัตรูกับเพื่อนบ้าน และจีน โดยไม่จำเป็น เพราะถ้าถามว่ามันมีแค่เรื่องตรวจสอบสภาพอากาศอย่างเดียวเท่านั้นหรือ ไม่มีสอดไส้ สอดแนมเรื่องอื่นหรือ อ้อ อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ต้องชักมือออกไปเสียก่อนก็เพราะมีเสียงชี้ว่า ต้องนำเข้ารัฐสภา เพราะเข้าข่ายตาม ม.190 และพอดีว่า สภาปิดสมัยประชุมไปเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ถ้าจะเอาจริงก็ต้องเปิดวิสามัญกันใหม่ แต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็อาจเป็นแรงกระเพื่อม มีแถมเรื่องยุโหวต รธน.-พ.ร.บ.ล้างผิด ก็จะทำให้ “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ต้องเสี่ยงคุกเข้ามาอีก เอาอย่างนี้ดีกว่าซื้อเวลาไปก่อนดีกว่า
00 ชักเข้าเค้าขึ้นมาทุกที ล่าสุดผู้บัญชาการทหารของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน มีกำหนดเข้าพบ ผบ.ทบ. ในวันที่ 22 มิ.ย. ซึ่งบังเอิญว่า มีเรื่องมะกันใช้สนามบินอู่ตะเภาอยู่พอดี ในทางยุทธศาสตร์ ไม่ว่ามองในมุมไหนก็ต้องกระทบจีนวันยังค่ำ และเชื่อว่าไม่มีทางยอมง่าย ๆ แม้ว่าจะมีการปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้อง แต่รับรองว่าในทางลึกมันก็ต้องมีการสอบถามท่าทีกันบ้าง อะไรมันจะบังเอิญกันขนาดนี้ !!