ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ถือว่าเป็นครั้งที่ 5 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ของรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ที่เลือกเอาจังหวัดแถบภาคตะวันออก “ชลบุรี” ถิ่นของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคการเมืองขนาดเล็ก อย่าง “พรรคพลังชล”เป็นเวทีในการประชุม
มีนางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นเจ้าภาพหลัก ขนาดที่แม่งานตัวจริง กลับเป็น “นายสนธยา คุณปลื้ม”คนโตเมืองชลตัวจริง
โดย “พลังชล” มี ส.ส. 7 คน ได้แก่ นายสุชาติ ชมกลิ่น นายอุกฤษณ์ ตั๊น นายรณเทพ อนุวัฒน์ นายพันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา นางสุกุมล คุณปลื้ม และนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์
อย่างที่รู้ๆกันว่า ปรับครม. “ปู 3”งวดหน้า “สนธยา”อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กลุ่มบ้านเลขที่ 111 ที่พ้นโทษกลับมา จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการแน่นอน!
จะข้ามชั้นได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา แย่งโควตาจากพรรคชาติไทยพัฒนา เจ้าของเดิมได้หรือไม่ เพราะชลบุรี มีส.ส.พลังชลตั้ง 7 คน มีคะแนนเสียงรวมๆกันกว่า 2 แสนคะแนน
แม้ “เขต 2” อย่าง “อุกฤษณ์ ตั๊นสวัสดิ์”จะถูกใบเหลือง จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่พบว่ามีหลักฐานการซื้อเสียงชัดเจน แต่ก็มีสิทธิกลับมาลงสมัครเลือกตั้งได้ เพราะจากครั้งที่แล้ว มีคะแนนสนับสนุนถึง 35,016 คะแนน ชนะคู่แข่งประชาธิปัตย์ขาดลอย
หรือ “สนธยา”จะได้แค่ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม”เหมือนเดิม หากการเลือกตั้งซ่อมที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ พลิกล๊อกต้องพ่ายแพ้
กลับมาที่การประชุมครม.สัญจร ครั้งนี้ ล๊อกกำหนดการไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว หลังการประชุม ครม.สัญจรครั้งที่ 4 ที่จังหวัดกาญจนบุรี กำหนดประชุมระหว่างวันที่ 18-19 มิ.ย. 2555
มีการเลือกตั้งสถานที่โดยสำนักงานจังหวัดชลบุรี ประสานกับสำนักนายกรัฐมนตรี แรกๆก็ไม่เอ่ะใจสถานที่เท่าไร
มีการเลือก “โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี” เป็นสถานที่ประชุม
แต่หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2552
“โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา” ก่อนหน้านี้เคยใช้ อาคารพัทยาเอ็กซิบิชั่นแอนด์คอมมิวเคชั่นฮอล์ เป็นสถานที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2552
ซึ่งในครั้งนั้น “กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.” ก็ได้ชุมนุมเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในเวลานั้นยุบสภา และให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดินกลับประเทศ
กระทั่ง “นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง” แกนนำ นปช. ได้พากลุ่มคนเสื้อแดงนับพันคนบุกเข้าไปภายในโรงแรมเป็นผลสำเร็จ ทำให้ห้เจ้าหน้าที่และผู้ร่วมประชุม สุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ทั้ง 16 ประเทศ ต่างรีบวิ่งหนีออกจากห้องประชุม และการประชุมอาเซียนต้องพังลง
แม้วันนั้น จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก จ.ชลบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และ ระยอง 5,000 นายตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยก็ตาม ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีตอนนั้น ต้องออกแถลงการณ์ประกาศเลื่อนการประชุมฯ พร้อมประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ เมืองพัทยา และ จ.ชลบุรี ให้เป็นพื้นที่อันตรายร้ายแรง
แถมวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ยังโฟนอินมายังผุ้ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงจากรุงเทพฯ และพัทยาที่ร่วมผลักดันจนไม่สามารถจัดการประชุมกลุ่มอาเซียนได้
ขณะที่นอกโรงแรมก็มีการปะทะกันของกลุ่มคนเสื้อสีน้ำเงิน กับกลุ่มคนเสื้อแดง มาแล้ว! ซึ่งเป็นภาพติดตา เพราะตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา และมีทางขึ้นโรงแรมเพียงสองทาง
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า “อริสมันต์” จะกล้าไปโผล่โรงแรมนี้หรือไม่ ภาพ “ครม.ยิ่งลักษณ์”เลยเหมือนจะไปย้อนลอยอะไรๆที่ตัวเองทำไว้
แม้ยังไม่ถึงวันประชุม ล่าสุดก็การลงรายละเอียดในสังคมออนไลน์ เผยแพร่ และส่งต่อหนังสือราชการ (เอกสารตราครุฑ) มีเนื้อหาเชิญชวนให้ประชาชนในพื้นที่เตรียมการต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ เป็นหนังสือราชการประทับตราด่วนที่สุด
ให้เกณฑ์คนตำบลละ 5 คน บ้าง 10 คนบ้าง ให้ได้ 1,,000 คน ไปร่วมต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 18 มิ.ย.โดยพร้อมเพรียงกัน ณ อ่างเก็บน้ำมาบประชัน ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ออกโดยที่ว่าการอำเภอสัตหีบ ถนนเลียบชายทะเล ชบ 20180 ที่ ชบ 0717/ว2138 ลงวันที่ 7 มิ.ย. 55
เหมือนว่า การประชุมครั้งนี้คนต้องมากต้องเยอะ เพราะไม่ใช้พื้นที่ของเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย ที่สามารถเติมคนได้ตลอดเวลา
สำหรับการประชุมนอกสถานที่ครั้งนี้ นอกจากวาระทั่วไป วาระเพื่อทราบ วาระเพื่อพิจารณา หรือวาระจรที่จะต้องจับตากันแล้ว
การประชุม (กรอ.) คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว แต่อาจจะรวมถึงนครนายก และสมุทรปราการ
จะมีการเสนอครม.พิจารณาจัดสรรงบประมาณ(งบกลาง)ให้กับจังหวัดเหล่านี้ เสนอผ่านคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)
จังหวัดชลบุรี จะ ขอสนับสนุนงบประมาณจำนวน 8 โครงการ ประมาณ 100 ล้านบาทเศษ ประกอบไปด้วย โครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อขุดลอกอ่างเก็บน้ำ 564 ไร่ ใช้สำหรับเก็บกักน้ำอุปโภคบริโภค โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก บริเวณซอยหนองยายรัก หมู่ 11 และ 12 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี งบประมาณ 10 ล้านบาทเศษ รวมทั้งถนนสายสุขุมวิท บ้านศรีพโลทัย หมู่ 1 ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี งบประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด ส่วนปัญหาพื้นที่ขาดแคลนน้ำประปาจะมีการวางท่อขยายเขตจ่ายน้ำประปา ต.ห้วยกะปิ และ ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี ต.หน้าประดู่ ต.เกาะลอย อ.พานทอง ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง และโครงการปรับปรุงพื้นที่สถานกีฬาต้านยาเสพติด ต.บางพระ อ.ศรีราชา งบประมาณ 19.85 ล้านบาท
จังหวัดชลบุรี เสนอ 6 โครงการ ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ One Stop Service ด่านถาวรบ้านแหลมเพื่อรองรับการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนเตรียมพร้อมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน วงเงินงบประมาณ 45 ล้านบาทโครงการสามัคคีคืนน้ำสู่แม่น้ำด้วยการคืนรากแก้วสู่ดิน วงเงิน 5 ล้านบาท
โครงการพัฒนาเส้นทางเข้าศูนย์พัฒนาไม้ผลตามแนวทางพระราชดำริฯ ตำบลท่าหลวง อำเภอมะขาม วงเงิน 12 ล้านบาทโครงการแก้มลิงหนองกะเพลิง อำเภอมะขาม ระยะที่ 3 วงเงิน 20 ล้านบาท และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งและปรับปรุงภูมิทัศน์ริมทะเล 12 ล้านบาท และโครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว อำเภอแหลมสิงห์ วงเงิน 12 ล้านบาท รวมจะขออีก 14.5 ล้านบาทเพื่อนำมาปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบของศูนย์บริหารจัดการอัญมณี
จังหวัดระยอง เสนอก่อสร้างประตูระบายน้ำ ป้องกันน้ำท่วม และน้ำทะเลหนุน และการขาดแคลน
น้ำในลุ่มน้ำทับมาทั้งระบบ 60 ล้านบาท อีก 40 ล้านบาท เพื่อพัฒนา และปรับปรุงถนนสายมาบตาพุด เป็น 4 เลน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
สำหรับในส่วนวงเงิน 25 ล้านบาทกลุ่มจังหวัดนั้น เตรียมเสนอพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เสื่อมโทรม แยกเป็น 1.โครงการทำป้ายประชาสัมพันธ์บอกสถานที่ แหล่งท่องเที่ยว 2.โครงการพัฒนา ปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวและเก็บขยะชายหาด และ3.โครงการปลูกปะการัง และสร้างห้องสุขาบนเกาะมันใน
จังหวัดตราด ที่มีผู้หญิงเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด “น.ส.เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง” จะของบประมาณเร่งด่วน 10 โครงการ รวม 137 ล้านบาท เช่น โครงการขยายขีดความสามารถในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลจังหวัดตราด จำนวน 20.7 ล้านบาท โครงการปรับปรุงทางขึ้น-ลงเครื่องบิน (Runway) สนามบิน 207 จังหวัดตราด จำนวน 15 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำ และทางเท้าภายในโครงการพัฒนาสนามบิน 207 จังหวัดตราด จำนวน 14.9 ล้านบาท โครงการส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจทดแทนไม้ผลที่ประสบปัญหาด้านราคา จำนวน 5.6 ล้านบาทโครงการติดตั้งกล้องทีวีวงจรปิด (CCTV) เพื่อรักษาความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 24 ล้านบาทโครงการเพิ่มประสิทธิภาพเก็บกักน้ำ และระบายน้ำของแหล่งน้ำขนาดเล็กในพื้นที่จังหวัดตราด จำนวน 10.4 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างปรับปรุงสะพานทางเดินเท้า คสล. บริเวณภายในพื้นที่ป่าชายเลนบ้านเปร็ดใน จังหวัดตราด จำนวน 6.7 ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพโรงเรียนกีฬา และสนามกีฬา จังหวัดตราด 8 ล้านบาทโครงการก่อสร้างรางระบายน้ำ คสล. พร้อมฝาท่อระบายน้ำ คลส. สาย 3 ตอนตราด-สะพานข้ามคลองสะพานหินฝั่งตะวันตก จำนวน 14.3 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้วิชาชีพประจำจังหวัดตราด จำนวน 10 ล้านบาท
กลับมาที่กิจกรรมในการประชุม แว่วว่าวันที่ 18 มิ.ย.55“ประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี” จะเปิดสนามชลบุรี สเตเดี้ยม รังเหย้าของทีม “ฉลามชล”ประลองแข้งระหว่างทีมรัฐมนตรีชาย ส.ส.พลังชลผสมเพื่อไทย กับ ทีมสื่อมวลชน
เหมือนกับต้องการให้รู้ว่า จังหวัดนี้เป็นทั้งจังหวัดกีฬา และเป็นจังหวัดท่องเที่ยวไปในตัว
คนอยู่บ้านนี้ก็ควรจะได้นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา”เท่านั้น.