คลังเดินหน้าตั้งกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 กระตุ้นตลาดเงินตลาดทุน พร้อมขยายสินทรัพย์จาก 3 แสนล้านขึ้นเป็น 5 แสนล้านบาท แปลงสภาพเป็นกองทุนเปิดเพิ่มสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายมากขึ้น
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 ได้รายงานความคืบหน้าในการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 เพื่อรองรับกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่จะหมดอายุในปี 2556 โดยจะปรับรูปแบบกองทุนจากเดิมที่เป็นกองทุนปิดให้เป็นกองทุนเปิดสามารถซื้อขายได้ไม่มีวันหมดอายุ ขณะเดียวกันจะขยายขนาดสินทรัพย์ของกองทุนจากปัจจุบันที่มีสินทรัพย์ประมาณ 3 แสนล้านบาทเป็น 5 แสนล้านบาท
โดยขนาดสินทรัพย์ของกองทุนที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 5 แสนล้านบาทจะมีส่วนช่วยรองรับการลงทุนทั้งในตลาดทุนและในตลาดตราสารหนี้ให้มีความคึกคักมากขึ้น อีกทั้งจะพยายามเพิ่มสัดส่วนการซื้อขายที่ปัจจุบันพอร์ตของกองทุน 70% เป็นการถือเพื่อรอรับเงินปันผลเพียงอย่างเดียว และ 30% เป็นการซื้อขาย ให้มีอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน
"ตอนนี้รายละเอียดในการโอนย้ายหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยเดิมจากกองทุนวายุภักษ์ 1 มายังกองทุนวายุภักษ์ 2 ใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว และจะเปิดขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนรายใหม่ที่สนใจลงทุนในกองทุนวายุภักษ์ 2 เพื่อให้ขนาดสินทรัพย์ของกองทุนอยู่ที่ระดับ 5 แสนล้าน ทั้งนี้คาดว่าอาจมีนักลงทุนบางส่วนที่ถือหน่วยเดิมอาจไม่ลงทุนในกองทุนใหม่หากไม่มีการรับประกันผลตอบแทนให้อยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนกองทุนเดิมที่อยู่ที่ 3% ต่อปี" นายอารีพงศ์กล่าว
นายอารีพงศ์กล่าวว่า สำหรับรูปแบบการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 จะมีกลยุทธ์การลงทุนตามยุทธศาสตร์ของการพัฒนาประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการลงทุน ซึ่งจะให้น้ำหนักการลงทุนไปยังความมั่นคงทางพลังงานของประเทศและทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งเรื่องน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและพลังงานทดแทนรวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
"รูปแบบบริหารกองทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 จะมีการเปลี่ยนแปลงจากอนุรักษ์นิยมเป็นเชิงรุกมากขึ้น น่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าเดิม และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศไปด้วย"นายอารีพงศ์กล่าว
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 ได้รายงานความคืบหน้าในการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 เพื่อรองรับกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่จะหมดอายุในปี 2556 โดยจะปรับรูปแบบกองทุนจากเดิมที่เป็นกองทุนปิดให้เป็นกองทุนเปิดสามารถซื้อขายได้ไม่มีวันหมดอายุ ขณะเดียวกันจะขยายขนาดสินทรัพย์ของกองทุนจากปัจจุบันที่มีสินทรัพย์ประมาณ 3 แสนล้านบาทเป็น 5 แสนล้านบาท
โดยขนาดสินทรัพย์ของกองทุนที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 5 แสนล้านบาทจะมีส่วนช่วยรองรับการลงทุนทั้งในตลาดทุนและในตลาดตราสารหนี้ให้มีความคึกคักมากขึ้น อีกทั้งจะพยายามเพิ่มสัดส่วนการซื้อขายที่ปัจจุบันพอร์ตของกองทุน 70% เป็นการถือเพื่อรอรับเงินปันผลเพียงอย่างเดียว และ 30% เป็นการซื้อขาย ให้มีอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน
"ตอนนี้รายละเอียดในการโอนย้ายหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยเดิมจากกองทุนวายุภักษ์ 1 มายังกองทุนวายุภักษ์ 2 ใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว และจะเปิดขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนรายใหม่ที่สนใจลงทุนในกองทุนวายุภักษ์ 2 เพื่อให้ขนาดสินทรัพย์ของกองทุนอยู่ที่ระดับ 5 แสนล้าน ทั้งนี้คาดว่าอาจมีนักลงทุนบางส่วนที่ถือหน่วยเดิมอาจไม่ลงทุนในกองทุนใหม่หากไม่มีการรับประกันผลตอบแทนให้อยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนกองทุนเดิมที่อยู่ที่ 3% ต่อปี" นายอารีพงศ์กล่าว
นายอารีพงศ์กล่าวว่า สำหรับรูปแบบการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 จะมีกลยุทธ์การลงทุนตามยุทธศาสตร์ของการพัฒนาประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการลงทุน ซึ่งจะให้น้ำหนักการลงทุนไปยังความมั่นคงทางพลังงานของประเทศและทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งเรื่องน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและพลังงานทดแทนรวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
"รูปแบบบริหารกองทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 จะมีการเปลี่ยนแปลงจากอนุรักษ์นิยมเป็นเชิงรุกมากขึ้น น่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าเดิม และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศไปด้วย"นายอารีพงศ์กล่าว