ASTVผู้จัดการรายวัน-“แก้วสรร อติโพธิ” อัดกสทช. ไม่รู้หน้าที่ ปล่อยแกรมมี่ทำตัวเป็นนักเลงโตทำผิดกฎหมาย ไม่ให้คนไทยดูบอลยูโรผ่านฟรีทีวี 3, 5, 9 ซึ่งเป็นคลื่นสาธารณะ หนุนประชาชนยื่นฟ้องศาลปกครอง ให้บังคับกสทช. ยกเลิกการปิดกั้นสัญญาณ เผยบอร์ด กสท. นัดหาทางออกจอดำ 18 มิ.ย.นี้
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยถึงกรณีบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ที่ขวางสิทธิการรับชมฟุตบอลยูโรผ่านฟรีทีวี ช่อง 3,5,9 ว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต้องตระหนักว่าคลื่นในอากาศนั้น ไม่มีใครเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว คลื่นโทรคมนาคมที่อยู่ในอากาศ เป็นสิทธิของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็ยืนยันสิทธิข้อนี้ คลื่นในอากาศนั้นเป็นสาธารณประโยชน์ที่ต้องมีองค์กรหนึ่งองค์กรใดคอยทำหน้าที่ดูแลให้มีการจัดสรรดำเนินการอย่างถูกต้อง ซึ่ง กสทช.ก็คือ องค์กรที่ทำหน้าที่นี้
"การยอมให้แกรมมี่ปิดสัญญาณของฟรีทีวีช่อง 3, 5, 9 ก็เปรียบได้กับการที่ผมเป็นประชาชนคนหนึ่ง ถ้าบ้านผมอยู่ริมถนนเพชรเกษม ผมก็มีสิทธิ์ใช้ถนนเมื่อไรก็ได้ ซึ่งเปรียบได้กับกรณีที่ผมมีเสาก้างปลา ซึ่งผมไม่เดือดร้อน ผมดูได้ แต่ถ้าคนที่ติดดาวเทียมของทรู หรือเคเบิล หรือดาวเทียมอื่นๆ แล้วเขาไม่สามารถรับชมช่อง 3, 5, 9 ได้นั้น ก็เปรียบเหมือนเขาไม่ได้อยู่ติดถนนเหมือนผม แต่เขาอยู่ในซอยส่วนตัว แต่ถามว่าเขามีสิทธิที่จะเดินออกมาถนนเพชรเกษมไหม เขามีสิทธิเต็มที่ แต่ กสทช.กลับปล่อยให้แกรมมี่ทำตัวเป็นนักเลงมาดักอยู่ที่ปากซอย ไม่ให้ใครใช้ถนนได้"นายแก้วสรรกล่าว
ดังนั้น ประชาชนทุกคนที่สูญเสียสิทธิในการรับชมฟรีทีวีทั้ง 3 ช่อง ซึ่งก็คือผู้ที่รับชมผ่านสัญญาณดาวเทียมหรือเคเบิลนั้น สามารถรวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้เลย ประชาชนต้องยื่นคำร้อง รวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้มีคำสั่งให้ กสทช. สั่งไม่ให้มีการปิดกั้นสัญญาณของฟรีทีวี 3, 5, 9 ต้องให้ผู้ที่ติดสัญญาณเคเบิลค่ายอื่นๆ รับชมได้ด้วย เพราะสิทธิในการรับชมฟรีทีวี ประชาชนทุกคนมีสิทธิไม่ว่าจะชมจากช่องทางใด การที่เขามีสัญญาณของทรู เขาก็มีสิทธิที่จะรับชมฟรีทีวีผ่านสัญญาณทรูด้วยเช่นกัน
นายแก้วสรรยังย้ำถึงบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และ กสทช.ว่า ขอฝากถึงแกรมมี่ด้วยนะว่าให้ดำเนินธุรกิจอะไรก็ให้มีความเป็นธรรมหน่อย คุณคิดจะขาย คิดจะทำเคเบิลก็บอกมาตรงๆ ให้มันแฟร์ การที่มาปิดกั้นสัญญาณแบบนี้ หมายความว่าดูยูโรต้องจ่าย 1,500 บาท แล้วถ้าเป็นฟุตบอลโลกนี่คงต้องจ่าย 2,000 บาทใช่ไหมถึงจะดูได้ ถ้าคุณจะทำทีวีเคเบิล ก็ให้ทำแฟร์ๆ อย่าใช้วิธีปิดกั้นสัญญาณแบบนี้
ส่วนกสทช.เองก็ไม่ทำหน้าที่ อย่าหลงประเด็น อย่ามาอ้างว่ายกเลิกไม่ได้ ผิดสัญญา ผิดกฎหมาย ไม่จริงเลย สามารถสั่งยกเลิกการปิดกั้นสัญญาณได้ เพราะสัญญาที่ทำกับแกรมมี่นั้นผิดกฎหมายตั้งแต่ต้น เพราะคลื่นโทรคมนาคมเป็นสิทธิของประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้น ประชาชนจึงต้องยื่นฟ้องศาลปกครองให้มีคำสั่งไปถึง กสทช.ให้ยกเลิกการระงับ ยกเลิกปิดกั้นสัญญาณ ประชาชนต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องความถูกต้องด้วยตัวเอง
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ได้ทราบหนังสือที่ยูฟ่าส่งให้บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ว่าไม่สามารถถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ในครั้งนี้กับทรูวิชั่นส์ รวมทั้งการระบุถึงความหมายของการออกอากาศโทรทัศน์ของประเทศไทย คือ ภาคพื้นดิน และทีวีดาวเทียม แต่ยูฟ่าคงเข้าใจว่าไทยใช้เป็นระบบดิจิตอลทีวีหมดแล้ว ไม่ต้องใช้เสาก้างปลาหรือหนวดกุ้ง แต่ต้องยอมรับว่าไทยยังมีการส่งสัญญาณในระบบอนาล็อก จึงเกิดปัญหาจอดำขึ้น
สำหรับกระบวนการต่อไป กสทช. จะทำหนังสือไปถึงยูฟ่า เพื่อแจ้งถึงระบบการออกอากาศโทรทัศน์ในประเทศไทย รวมทั้งขอให้บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ส่งหนังสือของยูฟ่าที่แจ้งกลับมา เพื่อให้คณะกรรมการกสทช. ได้ศึกษารายละเอียดด้วย
"ยอมรับว่า กสทช.ไม่สามารถบังคับบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพราะไม่ใช่ผู้รับใบอนุญาตโดยตรง แต่ในอนาคต กสทช. กำลังจะออกหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมกิจการโทรทัศน์ทั้งหมด รวมทั้งอาจจำเป็นต้องควบคุมการจำหน่ายและนำเข้าจานดาวเทียมและอุปกรณ์รับสัญญาณของผู้ประกอบการ เนื่องจากปัจจุบันเป็นการนำเข้าและจำหน่ายอย่างเสรี ซึ่งแตกต่างจากโทรศัพท์มือถือที่กสทช.ต้องตรวจสอบและขึ้นทะเบียนทั้งหมดด้วย"
อย่างไรก็ตาม วันที่ 18 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ กสท. เพื่อพิจารณามาตรการ และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ในวันนี้ (14 มิ.ย.) กสทช. จะใช้มาตรการทางสังคมจัดเสวนาทางสังคมเรื่อง ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค : กรณีจอดำ ฟุตบอลยูโร 2012 เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมเอเชีย โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการทั้งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทรูวิชั่นส์ และบริษัท อาร์เอส ที่ถือครองลิขสิทธิ์ฟุตบอลลาลีกาสเปนและฟุตบอลโลก ซึ่งขณะนี้ได้ตอบรับแล้ว เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ รวมทั้งการออกอากาศฟรีทีวีจะต้องออกอากาศได้ในทุกระบบ โดยไม่มีข้อจำกัด
ด้านพ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการ กสทช. และประธานบอร์ดกสท. กล่าวว่า กสทช.จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ ในเรื่องลิขสิทธิ์การเผยแพร่ฟุตบอลยูโร 2012 แต่จะดูแลในส่วนของการให้บริการของผู้ประกอบการโทรทัศน์ ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการให้บริการกิจการโทรทัศน์และการคุ้มครองดูแลสิทธิของผู้บริโภคเป็นหลัก และล่าสุดเมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) สำนักงาน กสทช.ได้ส่งหนังสือ คำสั่งกำหนดมาตรการบังคับทางปกครอง ไปยังบริษัท ทรูวิชั่นส์ อีกครั้ง เพื่อแจ้งปรับไปยังทรูวิชั่นส์ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ให้ทรูวิชั่นส์ชำระค่าปรับทางปกครองวันละ 20,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.2555 ไปจนกว่าทรูวิชั่นส์จะสามารถออกอากาศได้ตามปกติ ขณะเดียวกันทรูวิชั่นส์ ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ค่าปรับวันละ 20,000 หมื่นบาทมายังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้
นอกจากนี้ กสท.กำลังเร่งออกร่างเงื่อนไขประกอบการออกใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ที่เบื้องต้นกำหนดว่า ประชาชนทุกคนจะต้องรับชมรายการที่แพร่ภาพผ่านทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีได้ทุกรายการ ไม่ว่าจะผ่านกล่องรับสัญญาณในระบบใดก็ตาม ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศได้ในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ โดยเชื่อว่าหากร่างดังกล่าวเสร็จ จะช่วยแก้ปัญหาไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ซ้ำอีก เพราะจะไม่มีการยกเว้น แม้จะมีเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอด แต่เมื่อใดนำมาผ่านช่องโทรทัศน์ฟรีทีวี ทุกคนต้องได้รับชมอย่างเท่าเทียมกัน
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยถึงกรณีบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ที่ขวางสิทธิการรับชมฟุตบอลยูโรผ่านฟรีทีวี ช่อง 3,5,9 ว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต้องตระหนักว่าคลื่นในอากาศนั้น ไม่มีใครเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว คลื่นโทรคมนาคมที่อยู่ในอากาศ เป็นสิทธิของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็ยืนยันสิทธิข้อนี้ คลื่นในอากาศนั้นเป็นสาธารณประโยชน์ที่ต้องมีองค์กรหนึ่งองค์กรใดคอยทำหน้าที่ดูแลให้มีการจัดสรรดำเนินการอย่างถูกต้อง ซึ่ง กสทช.ก็คือ องค์กรที่ทำหน้าที่นี้
"การยอมให้แกรมมี่ปิดสัญญาณของฟรีทีวีช่อง 3, 5, 9 ก็เปรียบได้กับการที่ผมเป็นประชาชนคนหนึ่ง ถ้าบ้านผมอยู่ริมถนนเพชรเกษม ผมก็มีสิทธิ์ใช้ถนนเมื่อไรก็ได้ ซึ่งเปรียบได้กับกรณีที่ผมมีเสาก้างปลา ซึ่งผมไม่เดือดร้อน ผมดูได้ แต่ถ้าคนที่ติดดาวเทียมของทรู หรือเคเบิล หรือดาวเทียมอื่นๆ แล้วเขาไม่สามารถรับชมช่อง 3, 5, 9 ได้นั้น ก็เปรียบเหมือนเขาไม่ได้อยู่ติดถนนเหมือนผม แต่เขาอยู่ในซอยส่วนตัว แต่ถามว่าเขามีสิทธิที่จะเดินออกมาถนนเพชรเกษมไหม เขามีสิทธิเต็มที่ แต่ กสทช.กลับปล่อยให้แกรมมี่ทำตัวเป็นนักเลงมาดักอยู่ที่ปากซอย ไม่ให้ใครใช้ถนนได้"นายแก้วสรรกล่าว
ดังนั้น ประชาชนทุกคนที่สูญเสียสิทธิในการรับชมฟรีทีวีทั้ง 3 ช่อง ซึ่งก็คือผู้ที่รับชมผ่านสัญญาณดาวเทียมหรือเคเบิลนั้น สามารถรวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้เลย ประชาชนต้องยื่นคำร้อง รวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้มีคำสั่งให้ กสทช. สั่งไม่ให้มีการปิดกั้นสัญญาณของฟรีทีวี 3, 5, 9 ต้องให้ผู้ที่ติดสัญญาณเคเบิลค่ายอื่นๆ รับชมได้ด้วย เพราะสิทธิในการรับชมฟรีทีวี ประชาชนทุกคนมีสิทธิไม่ว่าจะชมจากช่องทางใด การที่เขามีสัญญาณของทรู เขาก็มีสิทธิที่จะรับชมฟรีทีวีผ่านสัญญาณทรูด้วยเช่นกัน
นายแก้วสรรยังย้ำถึงบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และ กสทช.ว่า ขอฝากถึงแกรมมี่ด้วยนะว่าให้ดำเนินธุรกิจอะไรก็ให้มีความเป็นธรรมหน่อย คุณคิดจะขาย คิดจะทำเคเบิลก็บอกมาตรงๆ ให้มันแฟร์ การที่มาปิดกั้นสัญญาณแบบนี้ หมายความว่าดูยูโรต้องจ่าย 1,500 บาท แล้วถ้าเป็นฟุตบอลโลกนี่คงต้องจ่าย 2,000 บาทใช่ไหมถึงจะดูได้ ถ้าคุณจะทำทีวีเคเบิล ก็ให้ทำแฟร์ๆ อย่าใช้วิธีปิดกั้นสัญญาณแบบนี้
ส่วนกสทช.เองก็ไม่ทำหน้าที่ อย่าหลงประเด็น อย่ามาอ้างว่ายกเลิกไม่ได้ ผิดสัญญา ผิดกฎหมาย ไม่จริงเลย สามารถสั่งยกเลิกการปิดกั้นสัญญาณได้ เพราะสัญญาที่ทำกับแกรมมี่นั้นผิดกฎหมายตั้งแต่ต้น เพราะคลื่นโทรคมนาคมเป็นสิทธิของประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้น ประชาชนจึงต้องยื่นฟ้องศาลปกครองให้มีคำสั่งไปถึง กสทช.ให้ยกเลิกการระงับ ยกเลิกปิดกั้นสัญญาณ ประชาชนต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องความถูกต้องด้วยตัวเอง
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ได้ทราบหนังสือที่ยูฟ่าส่งให้บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ว่าไม่สามารถถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ในครั้งนี้กับทรูวิชั่นส์ รวมทั้งการระบุถึงความหมายของการออกอากาศโทรทัศน์ของประเทศไทย คือ ภาคพื้นดิน และทีวีดาวเทียม แต่ยูฟ่าคงเข้าใจว่าไทยใช้เป็นระบบดิจิตอลทีวีหมดแล้ว ไม่ต้องใช้เสาก้างปลาหรือหนวดกุ้ง แต่ต้องยอมรับว่าไทยยังมีการส่งสัญญาณในระบบอนาล็อก จึงเกิดปัญหาจอดำขึ้น
สำหรับกระบวนการต่อไป กสทช. จะทำหนังสือไปถึงยูฟ่า เพื่อแจ้งถึงระบบการออกอากาศโทรทัศน์ในประเทศไทย รวมทั้งขอให้บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ส่งหนังสือของยูฟ่าที่แจ้งกลับมา เพื่อให้คณะกรรมการกสทช. ได้ศึกษารายละเอียดด้วย
"ยอมรับว่า กสทช.ไม่สามารถบังคับบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพราะไม่ใช่ผู้รับใบอนุญาตโดยตรง แต่ในอนาคต กสทช. กำลังจะออกหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมกิจการโทรทัศน์ทั้งหมด รวมทั้งอาจจำเป็นต้องควบคุมการจำหน่ายและนำเข้าจานดาวเทียมและอุปกรณ์รับสัญญาณของผู้ประกอบการ เนื่องจากปัจจุบันเป็นการนำเข้าและจำหน่ายอย่างเสรี ซึ่งแตกต่างจากโทรศัพท์มือถือที่กสทช.ต้องตรวจสอบและขึ้นทะเบียนทั้งหมดด้วย"
อย่างไรก็ตาม วันที่ 18 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ กสท. เพื่อพิจารณามาตรการ และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ในวันนี้ (14 มิ.ย.) กสทช. จะใช้มาตรการทางสังคมจัดเสวนาทางสังคมเรื่อง ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค : กรณีจอดำ ฟุตบอลยูโร 2012 เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมเอเชีย โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการทั้งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทรูวิชั่นส์ และบริษัท อาร์เอส ที่ถือครองลิขสิทธิ์ฟุตบอลลาลีกาสเปนและฟุตบอลโลก ซึ่งขณะนี้ได้ตอบรับแล้ว เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ รวมทั้งการออกอากาศฟรีทีวีจะต้องออกอากาศได้ในทุกระบบ โดยไม่มีข้อจำกัด
ด้านพ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการ กสทช. และประธานบอร์ดกสท. กล่าวว่า กสทช.จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ ในเรื่องลิขสิทธิ์การเผยแพร่ฟุตบอลยูโร 2012 แต่จะดูแลในส่วนของการให้บริการของผู้ประกอบการโทรทัศน์ ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการให้บริการกิจการโทรทัศน์และการคุ้มครองดูแลสิทธิของผู้บริโภคเป็นหลัก และล่าสุดเมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) สำนักงาน กสทช.ได้ส่งหนังสือ คำสั่งกำหนดมาตรการบังคับทางปกครอง ไปยังบริษัท ทรูวิชั่นส์ อีกครั้ง เพื่อแจ้งปรับไปยังทรูวิชั่นส์ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ให้ทรูวิชั่นส์ชำระค่าปรับทางปกครองวันละ 20,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.2555 ไปจนกว่าทรูวิชั่นส์จะสามารถออกอากาศได้ตามปกติ ขณะเดียวกันทรูวิชั่นส์ ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ค่าปรับวันละ 20,000 หมื่นบาทมายังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้
นอกจากนี้ กสท.กำลังเร่งออกร่างเงื่อนไขประกอบการออกใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ที่เบื้องต้นกำหนดว่า ประชาชนทุกคนจะต้องรับชมรายการที่แพร่ภาพผ่านทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีได้ทุกรายการ ไม่ว่าจะผ่านกล่องรับสัญญาณในระบบใดก็ตาม ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศได้ในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ โดยเชื่อว่าหากร่างดังกล่าวเสร็จ จะช่วยแก้ปัญหาไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ซ้ำอีก เพราะจะไม่มีการยกเว้น แม้จะมีเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอด แต่เมื่อใดนำมาผ่านช่องโทรทัศน์ฟรีทีวี ทุกคนต้องได้รับชมอย่างเท่าเทียมกัน