ASTVผู้จัดการรายวัน-“ยิ่งลักษณ์”รับดัน AEC วาระแห่งชาติ สั่ง “พาณิชย์-มหาดไทย”เตรียมรับมือ พร้อมให้เร่งจัดทำยุทธศาสตร์ ดร.โกร่ง ชี้ไทยควรมองโอกาสดันลงทุนบุกอาเซียน ขณะที่เอกชนขอให้รัฐเน้นช่วย SMEs และพัฒนาภาษา ด้านสมาคมแบงก์ห่วงเปิดเสรีการเงิน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการสัมมนา วาระแห่งชาติ : เศรษฐกิจไทยยุคใหม่ในเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน วานนี้ (11 มิ.ย.) ว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อรวบรวมข้อมูลผลกระทบในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เพื่อเร่งประชุมเชิงปฏิบัติการ และกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพราะนับจากนี้ไป การทำงานรับมือ AEC จะต้องทำอย่างเข้มข้นขึ้น
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศรวบรวมข้อมูลและประชุมเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในส่วนต่างจังหวัดด้วย
“รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ภาคเอกชนก้าวเดินสู่การเป็น AEC ทั้งการผลักดันให้ไปลงทุนต่างประเทศ และรับมือกับการลงทุนที่จะเข้ามา โดยได้เตรียมแผนรองรับ ทั้งการเร่งปรับสมดุลเศรษฐกิจในประเทศ ด้วยการกระตุ้นการบริโภคภายใน การอำนวยความสะดวกเพิ่มขีดความสามารถแก่ภาคธุรกิจ เช่น การลดภาษีนิติบุคคลจาก 27% เหลือ 20% ในปีหน้า รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันแก่ธุรกิจ SMEs และภาคแรงงาน”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีการทำงานร่วมกับภาคเอกชน ผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน และการรับฟังข้อมูลจากภาคเอกชนส่วนอื่นๆ จากการประชุม ครม.สัญจร
สำหรับแผนการเชื่อมโยงกับอาเซียน รัฐบาลมีแผนที่จะพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทำการเชื่อมโยงกับประเทศในอาเซียนและเพื่อนบ้านทั้งทางถนน ทาง และทางอากาศ กับจีน พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม รวมถึงอินเดีย และยังมีแผนที่จะร่วมมือกับพม่าพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย และก่อสร้างถนนเป็นแลนด์บริดจ์เชื่อมทะเลฝั่งอ่าวไทยกับอันดามัน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งอาเซียน และช่วยประหยัดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันจะเร่งผลักดันการแก้กฎระเบียบ ปรับระบบศุลกากร เพื่อกระตุ้นการค้าชายแดนอีกด้วย
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะนำผลที่ได้จากการหารือในครั้งนี้ ไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำร่างยุทธศาสตร์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ เพื่อรับมือ AEC โดยจากนี้ไป จะเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ AEC ให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน SMEs ให้เตรียมใช้ประโยชน์จากข้อตกลง และหาทางบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตของประเทศ (กยอ.) กล่าวว่า การเปิด AEC จะสร้างโอกาสให้ไทยไปลงทุนในอาเซียน ขยายตัวเป็นบริษัทข้ามชาติในอาเซียน โดยขณะนี้ไทยมีความพร้อมด้านทุนสำรองแล้ว ถ้าไม่ไปลงทุน ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น และยังเห็นอีกว่า AEC จะช่วยให้อาเซียนแข็งแกร่งขึ้น
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลเร่งสร้างความรับรู้เกี่ยวกับการเปิด AEC ว่าทิศทางของไทยในอีก 5-10 ปีข้างหน้าจะไปทางไหน เพราะภาคเอกชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ SMEs ยังรู้เรื่อง และเข้าใจต่อการเปิดเสรีการค้าน้อยมาก รวมถึงต้องรัฐเร่งการพัฒนาภาษาที่ไทยยังเป็นรองชาติอื่นอยู่ ขณะเดียวกันเห็นด้วยที่รัฐบาลจะพัฒนาแรงงานระบบการขนส่งเพื่อนรองรับการเปิด AEC เพราะไทยเราได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์มาก
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการสัมมนา วาระแห่งชาติ : เศรษฐกิจไทยยุคใหม่ในเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน วานนี้ (11 มิ.ย.) ว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อรวบรวมข้อมูลผลกระทบในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เพื่อเร่งประชุมเชิงปฏิบัติการ และกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพราะนับจากนี้ไป การทำงานรับมือ AEC จะต้องทำอย่างเข้มข้นขึ้น
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศรวบรวมข้อมูลและประชุมเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในส่วนต่างจังหวัดด้วย
“รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ภาคเอกชนก้าวเดินสู่การเป็น AEC ทั้งการผลักดันให้ไปลงทุนต่างประเทศ และรับมือกับการลงทุนที่จะเข้ามา โดยได้เตรียมแผนรองรับ ทั้งการเร่งปรับสมดุลเศรษฐกิจในประเทศ ด้วยการกระตุ้นการบริโภคภายใน การอำนวยความสะดวกเพิ่มขีดความสามารถแก่ภาคธุรกิจ เช่น การลดภาษีนิติบุคคลจาก 27% เหลือ 20% ในปีหน้า รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันแก่ธุรกิจ SMEs และภาคแรงงาน”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีการทำงานร่วมกับภาคเอกชน ผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน และการรับฟังข้อมูลจากภาคเอกชนส่วนอื่นๆ จากการประชุม ครม.สัญจร
สำหรับแผนการเชื่อมโยงกับอาเซียน รัฐบาลมีแผนที่จะพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทำการเชื่อมโยงกับประเทศในอาเซียนและเพื่อนบ้านทั้งทางถนน ทาง และทางอากาศ กับจีน พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม รวมถึงอินเดีย และยังมีแผนที่จะร่วมมือกับพม่าพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย และก่อสร้างถนนเป็นแลนด์บริดจ์เชื่อมทะเลฝั่งอ่าวไทยกับอันดามัน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งอาเซียน และช่วยประหยัดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันจะเร่งผลักดันการแก้กฎระเบียบ ปรับระบบศุลกากร เพื่อกระตุ้นการค้าชายแดนอีกด้วย
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะนำผลที่ได้จากการหารือในครั้งนี้ ไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำร่างยุทธศาสตร์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ เพื่อรับมือ AEC โดยจากนี้ไป จะเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ AEC ให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน SMEs ให้เตรียมใช้ประโยชน์จากข้อตกลง และหาทางบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตของประเทศ (กยอ.) กล่าวว่า การเปิด AEC จะสร้างโอกาสให้ไทยไปลงทุนในอาเซียน ขยายตัวเป็นบริษัทข้ามชาติในอาเซียน โดยขณะนี้ไทยมีความพร้อมด้านทุนสำรองแล้ว ถ้าไม่ไปลงทุน ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น และยังเห็นอีกว่า AEC จะช่วยให้อาเซียนแข็งแกร่งขึ้น
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลเร่งสร้างความรับรู้เกี่ยวกับการเปิด AEC ว่าทิศทางของไทยในอีก 5-10 ปีข้างหน้าจะไปทางไหน เพราะภาคเอกชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ SMEs ยังรู้เรื่อง และเข้าใจต่อการเปิดเสรีการค้าน้อยมาก รวมถึงต้องรัฐเร่งการพัฒนาภาษาที่ไทยยังเป็นรองชาติอื่นอยู่ ขณะเดียวกันเห็นด้วยที่รัฐบาลจะพัฒนาแรงงานระบบการขนส่งเพื่อนรองรับการเปิด AEC เพราะไทยเราได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์มาก
