ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจสน.สุทธิสาร บุกจับหนุ่มใหญ่อาชีพขับซาเล้งหาของเก่า ใช้น้ำยาห้องน้ำสาดใส่เหยื่อ จนบาดเจ็บเป็นแผลมีอาการแสบร้อน สอบสวนเจ้าตัวสารภาพที่ทำไปเพราะแค้นใจที่ถูกดูถูกว่าเป็นคนเก็บขยะ ตำรวจจึงได้คุมตัวตรวจฉี่พบเป็นสีม่วง
วานนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ทำการควบคุมตัวนายราชัน ธีรกิจนุกุล อายุ 50 ปี อาชีพ ขับซาเล้ง เก็บของเก่าขายหลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบชายลักษณะต้องสงสัยว่าอาจเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุสาดน้ำกรดตามที่เป็นข่าว ภายในซอยอินทามระ 39 แขวง-เขตดินแดง กทม. โดยตรวจสอบภายในรถซาเล้งของนายราชันพบขวดน้ำยาล้างห้องน้ำสีชมพู 1 ขวด ยี่ห้อ “เป็ด” เบื้องต้นจากการสอบสวนนายราชัน ยังไม่ให้การรับสารภาพ แต่ภายหลัง พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.บก.น.2 สอบสวนผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมงผู้ต้องหาก็ยอมรับสารภาพ
จากการสอบสวนนายราชัน ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา รับสารภาพว่า ตนยอมรับว่าเป็นคนสาดน้ำยาดังกล่าวจริง แต่ก็สาดเพียงที่เดียวคือ ย่านสะพานควาย สาเหตุที่ทำเพราะเก็บกดและถูกดูถูกจากสังคมว่าเป็นคนเก็บขยะ จึงน้อยเนื้อต่ำใจสังคม จึงก่อเหตุไปสาดน้ำยาดังกล่าว ส่วนน้ำยาที่นำมาส่วนใหญ่ก็เป็นน้ำยาที่มักหาได้จากการเก็บขยะอยู่แล้ว
ด้านนายมีชัย เจริญศักดิ์ อายุ 22 ปี ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายสาดในซอยลาดพร้าว 26 พื้นที่ สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะกำลังจะเดินทางไปเวียนเทียนที่วัดลาดพร้าว ได้มีรถซาเล้งขับผ่านมา และได้สาดสารบางอย่างทำให้โดนตนและแฟนสาวเป็นเหตุให้ปวดแสบปวดร้อน จึงเดินทางไปโรงพยาบาลเปาโล โดยหมอบอกว่าโดนสารที่มีฤทธิ์ชนิดหนึ่งพบในน้ำยาล้างห้องน้ำ เมื่อทราบข่าวว่าจับได้ตำรวจได้เชิญตัวมาสอบสวนและดูผู้ต้องหาที่นี่
ต่อมาเมื่อเวลา 19.30 น. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. เดินทางมาที่ สน.สุทธิสาร พร้อมกล่าวว่า อยากเรียนสื่อมวลชนว่า ณ วันนี้ ยังไม่มีผู้ต้องหาเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย ต้องรอผลการพิสูจน์น้ำยาเคมีจากกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)เสียก่อน จึงยังไม่สามารถให้สื่อมวลชนถ่ายรูปและสอบถามผู้ต้องสงสัยได้ ทั้งนี้ในเวลา 10.00 น. วันที่ 11 มิถุนายน จะแถลงข่าวเรื่องนี้อย่างเป้นทางการที่ บช.น.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการจับกุมนายราชันเอาไว้ได้แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจปัสสวะ โดยพบว่าปัสสวะเป็นสีม่วง ซึ่งคาดว่านายราชัน น่าจะเสพสารเสพติดด้วย.
วานนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ทำการควบคุมตัวนายราชัน ธีรกิจนุกุล อายุ 50 ปี อาชีพ ขับซาเล้ง เก็บของเก่าขายหลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบชายลักษณะต้องสงสัยว่าอาจเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุสาดน้ำกรดตามที่เป็นข่าว ภายในซอยอินทามระ 39 แขวง-เขตดินแดง กทม. โดยตรวจสอบภายในรถซาเล้งของนายราชันพบขวดน้ำยาล้างห้องน้ำสีชมพู 1 ขวด ยี่ห้อ “เป็ด” เบื้องต้นจากการสอบสวนนายราชัน ยังไม่ให้การรับสารภาพ แต่ภายหลัง พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.บก.น.2 สอบสวนผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมงผู้ต้องหาก็ยอมรับสารภาพ
จากการสอบสวนนายราชัน ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา รับสารภาพว่า ตนยอมรับว่าเป็นคนสาดน้ำยาดังกล่าวจริง แต่ก็สาดเพียงที่เดียวคือ ย่านสะพานควาย สาเหตุที่ทำเพราะเก็บกดและถูกดูถูกจากสังคมว่าเป็นคนเก็บขยะ จึงน้อยเนื้อต่ำใจสังคม จึงก่อเหตุไปสาดน้ำยาดังกล่าว ส่วนน้ำยาที่นำมาส่วนใหญ่ก็เป็นน้ำยาที่มักหาได้จากการเก็บขยะอยู่แล้ว
ด้านนายมีชัย เจริญศักดิ์ อายุ 22 ปี ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายสาดในซอยลาดพร้าว 26 พื้นที่ สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะกำลังจะเดินทางไปเวียนเทียนที่วัดลาดพร้าว ได้มีรถซาเล้งขับผ่านมา และได้สาดสารบางอย่างทำให้โดนตนและแฟนสาวเป็นเหตุให้ปวดแสบปวดร้อน จึงเดินทางไปโรงพยาบาลเปาโล โดยหมอบอกว่าโดนสารที่มีฤทธิ์ชนิดหนึ่งพบในน้ำยาล้างห้องน้ำ เมื่อทราบข่าวว่าจับได้ตำรวจได้เชิญตัวมาสอบสวนและดูผู้ต้องหาที่นี่
ต่อมาเมื่อเวลา 19.30 น. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. เดินทางมาที่ สน.สุทธิสาร พร้อมกล่าวว่า อยากเรียนสื่อมวลชนว่า ณ วันนี้ ยังไม่มีผู้ต้องหาเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย ต้องรอผลการพิสูจน์น้ำยาเคมีจากกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)เสียก่อน จึงยังไม่สามารถให้สื่อมวลชนถ่ายรูปและสอบถามผู้ต้องสงสัยได้ ทั้งนี้ในเวลา 10.00 น. วันที่ 11 มิถุนายน จะแถลงข่าวเรื่องนี้อย่างเป้นทางการที่ บช.น.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการจับกุมนายราชันเอาไว้ได้แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจปัสสวะ โดยพบว่าปัสสวะเป็นสีม่วง ซึ่งคาดว่านายราชัน น่าจะเสพสารเสพติดด้วย.