ASTVผู้จัดการรายวัน-"ถวิล" ชี้มะกันใช้อู่ตะเภา เหตุต้องการเร่งขยายอิทธิพลแข่งจีน เฟซบุ๊กแฉแม้วขอพบจีนเพื่อเคลียร์ปัญหา แต่ถูกปัด ส่วน "สุเมธ" เพื่อนแม้ว ยันไม่รู้สหรัฐฯ ขอใช้พื้นที่
นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า การที่ไทยยอมให้สหรัฐฯ เข้ามาใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภา ด้วยเหตุผลด้านการพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศและสนับสนุนงานสิทธิมนุษยชน แต่ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจต้องการเข้ามาแผ่ขยายอิทธิพลทางการเมืองในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อคานอำนาจกับจีน โดยอาจมีการเชื่อมโยงไปถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ประเด็นการอ้างสิทธิ์แนวหมู่เกาะสแปรทลีย์ได้ เพราะบริเวณนี้มีแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีหลายประเทศที่ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก จากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนฟิลิปินส์อ้างสิทธิ์จนสร้างความไม่พอใจให้แก่จีนมาแล้ว
ทั้งนี้ เห็นว่า ความตกลงในการใช้พื้นที่อู่ตะเภาของสหรัฐฯ ดังกล่าว ต้องเข้ามาตรา 190 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ และต้องให้รัฐสภาพิจารณาด้วยเช่นกัน จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีการยืดเวลาเปิดสมัยประชุมสภาออกไป
**เฟซบุ๊ก แฉ! แม้วขอพบจีน
รายงานข่าวแจ้งว่า ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ก มีการโพตส์ข้อความว่า “สี จิ้นผิง” รองประธานาธิบดีจีน ไม่อนุญาตให้แม้วเข้าพบ โดยบรรยายว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญในช่วงทักษิณอยู่สิงคโปร์ เป็นช่วงเดียวกับที่ พล.อ.อ.สุกำพล รมว.กลาโหม เดินทางไปสิงคโปร์ และมีการเจรจากับรมว.กลาโหมสหรัฐฯ เข้าใจว่าไม่มีการลงนามเป็นทางการเกี่ยวกับการตั้งฐานทัพ แต่อ้างว่าจะให้นาซ่าใช้สถานที่ทดลอง โดยมีการต่อรองเพื่อให้ทักษิณได้วีซ่าเข้าอเมริกาด้วย แลกกับการให้อเมริกาใช้ฐานทัพ มันเลวจริง ไรจริง เอาความมั่นคงชาติมาแลกกับผลประโยชน์ตัวเอง เรื่องนี้ทำให้จีนโกรธ ทักษิณเลยพยายามที่จะขอเข้าพบ ฉี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีจีน แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ จีนคงรู้แล้วว่าทักษิณมันเป็นคนเห็นแก่ตัวโดยเสียสละชาติได้เพื่อตัวเอง
**"สุเมธ"ปัดไม่รู้มะกันขอใช้อู่ตะเภา
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ประธานบอร์ดการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า สหรัฐฯ ขอใช้พื้นที่อู่ตะเภา โดยอ้างว่าเพื่อดำเนินการสำรวจชั้นบรรยากาศว่า เรื่องนี้ยังไม่มีข้อมูล ตนจึงยังไม่กล้าออกความเห็น ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ นั้น คงไม่เกี่ยวกัน พ.ต.ท.ทักษิณเข้าได้ตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องนี้มาแลกเปลี่ยน
**เชื่อสหรัฐฯหวังใช้เป็นฐานกดดันจีน
นายปณิธาน วัฒนายากร อดีตโฆษกรัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า ต้องจับตาดูให้ดี การอ้างนาซ่าเข้ามาเป็นเหตุผลที่คลุมเครืออาจจะแอบแฝงด้วยเหตุผลทางการทหาร เนื่องจากขณะนี้สหรัฐฯ กำลังหาสถานที่ ซึ่งเป็นจุดบังคับเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับหรือ UAV ในย่านอาเซียน เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับจีน หลังจากที่ได้สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศเล็ก ไม่มีพื้นที่ในการปฏิบัติการมากพอ จึงอาจจะพยายามมาขอใช้อู่ตะเภาด้วยเหตุผลนี้ ขณะที่จีนก็รู้ความเคลื่อนไหวนี้เป็นอย่างดี และพยายามขัดขวางการเข้ามาขยายอำนาจทางการทหารในอาเซียนมาตลอด
"ตอนนี้จีนเพิ่มกำลังทหารในกองทัพอีก 21% เพื่อเตรียมความพร้อม หากจะต้องรบกับสหรัฐฯ เกมนี้เป็นศึกระหว่างมหาอำนาจที่ผ่านไทยกับสหรัฐฯ ที่มีความตกลงทางการทหารร่วมกันอยู่แล้ว แต่การขอใช้สนามบินอู่ตะเภา จะเป็นการผูกมัดไทยให้เลือกข้างยืนกับสหรัฐฯ และจะเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค ฉะนั้น รัฐบาลเองต้องระมัดระวังท่าทีการใกล้ชิดกับฝ่ายใดมากเกินไปจะเป็นอันตราย"นายปณิธานกล่าว
นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า การที่ไทยยอมให้สหรัฐฯ เข้ามาใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภา ด้วยเหตุผลด้านการพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศและสนับสนุนงานสิทธิมนุษยชน แต่ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจต้องการเข้ามาแผ่ขยายอิทธิพลทางการเมืองในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อคานอำนาจกับจีน โดยอาจมีการเชื่อมโยงไปถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ประเด็นการอ้างสิทธิ์แนวหมู่เกาะสแปรทลีย์ได้ เพราะบริเวณนี้มีแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีหลายประเทศที่ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก จากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนฟิลิปินส์อ้างสิทธิ์จนสร้างความไม่พอใจให้แก่จีนมาแล้ว
ทั้งนี้ เห็นว่า ความตกลงในการใช้พื้นที่อู่ตะเภาของสหรัฐฯ ดังกล่าว ต้องเข้ามาตรา 190 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ และต้องให้รัฐสภาพิจารณาด้วยเช่นกัน จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีการยืดเวลาเปิดสมัยประชุมสภาออกไป
**เฟซบุ๊ก แฉ! แม้วขอพบจีน
รายงานข่าวแจ้งว่า ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ก มีการโพตส์ข้อความว่า “สี จิ้นผิง” รองประธานาธิบดีจีน ไม่อนุญาตให้แม้วเข้าพบ โดยบรรยายว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญในช่วงทักษิณอยู่สิงคโปร์ เป็นช่วงเดียวกับที่ พล.อ.อ.สุกำพล รมว.กลาโหม เดินทางไปสิงคโปร์ และมีการเจรจากับรมว.กลาโหมสหรัฐฯ เข้าใจว่าไม่มีการลงนามเป็นทางการเกี่ยวกับการตั้งฐานทัพ แต่อ้างว่าจะให้นาซ่าใช้สถานที่ทดลอง โดยมีการต่อรองเพื่อให้ทักษิณได้วีซ่าเข้าอเมริกาด้วย แลกกับการให้อเมริกาใช้ฐานทัพ มันเลวจริง ไรจริง เอาความมั่นคงชาติมาแลกกับผลประโยชน์ตัวเอง เรื่องนี้ทำให้จีนโกรธ ทักษิณเลยพยายามที่จะขอเข้าพบ ฉี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีจีน แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ จีนคงรู้แล้วว่าทักษิณมันเป็นคนเห็นแก่ตัวโดยเสียสละชาติได้เพื่อตัวเอง
**"สุเมธ"ปัดไม่รู้มะกันขอใช้อู่ตะเภา
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ประธานบอร์ดการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า สหรัฐฯ ขอใช้พื้นที่อู่ตะเภา โดยอ้างว่าเพื่อดำเนินการสำรวจชั้นบรรยากาศว่า เรื่องนี้ยังไม่มีข้อมูล ตนจึงยังไม่กล้าออกความเห็น ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ นั้น คงไม่เกี่ยวกัน พ.ต.ท.ทักษิณเข้าได้ตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องนี้มาแลกเปลี่ยน
**เชื่อสหรัฐฯหวังใช้เป็นฐานกดดันจีน
นายปณิธาน วัฒนายากร อดีตโฆษกรัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า ต้องจับตาดูให้ดี การอ้างนาซ่าเข้ามาเป็นเหตุผลที่คลุมเครืออาจจะแอบแฝงด้วยเหตุผลทางการทหาร เนื่องจากขณะนี้สหรัฐฯ กำลังหาสถานที่ ซึ่งเป็นจุดบังคับเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับหรือ UAV ในย่านอาเซียน เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับจีน หลังจากที่ได้สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศเล็ก ไม่มีพื้นที่ในการปฏิบัติการมากพอ จึงอาจจะพยายามมาขอใช้อู่ตะเภาด้วยเหตุผลนี้ ขณะที่จีนก็รู้ความเคลื่อนไหวนี้เป็นอย่างดี และพยายามขัดขวางการเข้ามาขยายอำนาจทางการทหารในอาเซียนมาตลอด
"ตอนนี้จีนเพิ่มกำลังทหารในกองทัพอีก 21% เพื่อเตรียมความพร้อม หากจะต้องรบกับสหรัฐฯ เกมนี้เป็นศึกระหว่างมหาอำนาจที่ผ่านไทยกับสหรัฐฯ ที่มีความตกลงทางการทหารร่วมกันอยู่แล้ว แต่การขอใช้สนามบินอู่ตะเภา จะเป็นการผูกมัดไทยให้เลือกข้างยืนกับสหรัฐฯ และจะเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค ฉะนั้น รัฐบาลเองต้องระมัดระวังท่าทีการใกล้ชิดกับฝ่ายใดมากเกินไปจะเป็นอันตราย"นายปณิธานกล่าว